WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

8ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นตัว เล็งตอบรับเฟดจะไม่ขึ้นดบ.ในปีนี้แล้ว-ส่ง Dollar Index อ่อนค่า-เล็งเงินไหลเข้าตลาด EM
 
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน ตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่คงอัตราดอกเบี้ย และเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าปีนี้เฟดส่งสัญญาณจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากเดิมที่เคยคาดว่าจะปรับขึ้น 2 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ Dollar Index เมื่อคืนที่ผ่านมาอ่อนค่าลง 0.6% แต่เช้านี้ก็เคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาใน Emerging Market
 
นอกจากนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเด่นกว่า 1% ด้วย แต่ปัจจัยในประเทศยังเฝ้ารอดูการเลือกตั้งก่อน ซึ่งวันนี้มองว่าหุ้น Global plays จะปรับตัวได้ดีในวันนี้ โดยมองหุ้นบิ๊กแคปที่น่าจะขึ้นนำตลาดฯได้ อย่างหุ้น PTT, SCC เป็นต้น
 
พร้อมให้แนวรับ 1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,640 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,745.67 จุด ลดลง 141.71 จุด (-0.55%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,824.23 จุด ลดลง 8.34 จุด (-0.29%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,728.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด (+0.07%)
 
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.48 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 66.78 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.01 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.94 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.43 จุด
 
ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 มี.ค.62) 1,627.62 จุด ลดลง 2.47 จุด (-0.15%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,399.80 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 มี.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 มี.ค.62) ปิดที่ 59.83 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.4%
 
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 มี.ค.62) ที่ 4.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.64 แข็งค่าจากวานนี้ หลังดอลล์อ่อนจากเฟดส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยปีนี้
- กนง.มีมติ "คง" ดอกเบี้ยที่ 1.75% หลังความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลก-ไทยเพิ่มขึ้น พร้อมหั่น "จีดีพี" ปีนี้ลงเหลือ 3.8% ขยับไส้ในลงยกแผง พร้อมปัด ตอบคำถามสื่อ หวั่นกระทบเลือกตั้ง ด้าน "นักเศรษฐศาสตร์" ชี้ประตูดอกเบี้ยขาขึ้น ปิดแล้ว ขณะ เงินบาทร่วง หลังผลประชุม เซอร์ไพร์สตลาดเงิน
 
- กองทัพเรือเปิดยื่นซอง อู่ตะเภาวันนี้ คาด"บีทีเอส-บางกอกแอร์-ซีพี" ลงสนาม ขณะที่ทอท.รอเสียบร่วมเป็นพันธมิตรผู้ชนะ เผยมีเอกชนจ้างเป็นที่ปรึกษาทำแผนบริหารสนามบิน-ระบบความปลอดภัย "ซีพี" ชี้ไฮสปีด-อู่ตะเภา เป็นหัวใจของอีอีซี
 
- เปิดรับโซลาร์ภาคประชาชน พ.ค.นี้ นำร่องปี 2562 จำนวน 100 เมกะวัตต์ราคารับซื้อไฟส่วนเกิน 1.68 บาทต่อหน่วย "ศิริ" มั่นใจทำให้เกิดการลงทุนปีละ 4 พันล้านบาทตลอด 10 ปีนำร่องจะมีครัวเรือติดตั้ง 2 แสนรายลงทุนรวม 4 พันล้านบาท
 
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ การประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่ออนุญาตให้ผู้ประกอบการเข้ามาประกอบธุรกิจ และจัดตั้งพิโกไฟแนนซ์ให้ง่ายขึ้น หลังพบว่ายังมี 11 จังหวัด ที่ยังไม่จัดตั้งพิโกไฟแนนซ์ อาทิ อ่างทอง นราธิวาส ปัตตานี โดยจะผ่อนปรนจัดทำแผนธุรกิจ และเปิดทางให้ปล่อยกู้พิโกฯได้ตามหลักศาสนาอิสลาม หรือชาริอะฮ์ เพื่อเพิ่มแหล่งเงินช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบแก่ประชาชน
 
- ธอส.เคาะบ้านล้านหลังเฟส 2 อีกแสนล้าน เริ่มเปิดยื่น คำขอก.ย.นี้ การันตีดอกเบี้ยต่ำกว่า 3% เตรียมขอคลังขยายเวลาผ่อนเป็น 50 ปี กดค่างวดเหลือ 3,000 บาทต่อเดือน โชว์เฟสแรกกว่า 1.27 แสนราย เคลียร์หมดในอีก 4 เดือน
 
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPN (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 93 บาท เป็นหนึ่งในหุ้น domestic play ที่มั่นคงเพราะรายได้หลักเป็นค่าเช่า โดยคาดกำไรปี 2562-2563 โตเฉลี่ย 11% เป็น 1.20 หมื่นลบ. และ 1.33 หมื่นลบ. ตามลำดับ จากการขึ้นค่าเช่า เปิดศูนย์ใหม่ 2 ห้าง และมีรายได้คอนโด ระยะยาวมี synergy จากการใช้ที่ดินของ GLAND และร่วมลงทุนกับ DTC
 
- RS (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 25 บาท ประเมินแนวโน้มกำไร Q1/62 - Q2/62 จะได้อานิสงส์จากการขยายช่องทางขายผ่าน ไทยรัฐทีวี (เริ่มเดือน มี.ค.) โดยจะเป็นการแบ่งส่วนแบ่งรายได้ทำให้ปิดความเสี่ยงด้านต้นทุน Fixed cost พร้อมประเมินแนวรับ 17.8 บาท / แนวต้าน 18.4 บาท และถัดไป 19.0 บาท (Stop loss 17.5 บาท)
 
- STEC (หยวนต้า) "ซื้อ"เป้า 31 บาท  3 เหตุผล 1) งานภาครัฐยังเป็นความหวังและโอกาสที่ดีต่อการรับงานใหม่เพิ่ม คาดในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าการประมูลงานเริ่มเป็นรูปธรรม 2) ผลประกอบการได้แรงหนุนจากงานในมือกว่า 1.05 แสนล้านบาท คาดเห็นอัตราการเติบโต(CAGR) ในช่วง 3 ปี (ปี2561-2563) ราว 12%  3)เบื้องต้นคาดผลประกอบการ Q1/62 จะทำได้ดีเมื่อเทียบ YoY จากความต่อเนื่องของงาน แต่อาจปรับลด QoQ เนื่องจากใน Q4/61 มีการเร่งปิดโครงการเก่าและรับรู้รายได้จากงานใหม่ที่เร่งตัวในช่วงต้น
 
-อินโฟเควสท์ 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!