WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงหลังโมเมนตัมตปท.ลบ-จับตามาตรการคุมหุ้นเก็งกำไร

                นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวลง เนื่องจากตลาดต่างประเทศมีโมเมนตัมเป็นลบ หลังตลาดยุโรปและดาวโจนส์ปรับลงไปกว่า 1% และเช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนลบเช่นเดียวกัน

      คืนนี้สหรัฐฯจะประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/57 เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะโตสูงกว่า 4.2% และอาจไปถึง 4.5-5% ดังนั้น อาจเป็นตัวเร่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น เป็นปัจจัยลบต่อตลาดฯได้ อย่างไรก็ดีในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ก็อาจจะมีการผ่อนคลายมากขึ้น โดยอาจจะมีมาตรการ QE ก็ได้

     ส่วนในประเทศ นักลงทุนรอดูมาตรการคุมเข้มหุ้นเก็งกำไรว่าจะมีหรือไม่และจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะมีความพยายามมาระยะหนึ่งในการคุมเข้มขึ้น ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาลงทุนมากนัก จึง Wait & See ไปก่อน อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติได้ซื้อหุ้นไทยมาหลายวันแล้ว อาจจะช่วยหนุนตลาดฯให้ไม่ปรับตัวลงมากเมื่อเทียบกับตลาดอื่นในเอเชีย พร้อมให้แนวรับ 1,583-1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,595-1,600 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(25 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,945.80 จุด ลดลง 264.26 จุด (-1.54%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,466.75 จุด ลดลง 88.47 จุด(-1.94%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,965.99 จุด ลดลง 32.31 จุด(-1.62%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 286.19 จุด หรือ -1.75%, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 14.94 จุด หรือ -0.73%, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 54.03 จุด หรือ -0.60%, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.10 จุด หรือ -0.17%, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 14.15 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 186.57 จุด หรือ -0.78%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.81 จุด หรือ -0.25%

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(25 ก.ย.)1,591.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.10 จุด(+0.01)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,361.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ย.57

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(25 ก.ย.)ที่ 92.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 27 เซนต์

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(25 ก.ย.)ที่ 7.22 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 32.28/29 ทรงตัวจากเย็นวานนี้ รอปัจจัยใหม่

     - เอดีบีหั่นจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 1.6% เหตุปัญหาการเมือง กระทบบริโภค เบิกจ่ายล่าช้าและลงทุนชะงัก ประเมินปีหน้าสดใส ขยายตัวได้ 4.5% เตือนปัจจัยเสี่ยง หากลงทุนภาครัฐช้าและหนี้ครัวเรือนสูง

     - กรมธนารักษ์จะเริ่มสำรวจราคาที่ดินทั่วประเทศรอบใหม่ในปี 2558 โดยจะประเมินราคาเป็นรายแปลงให้มีผลบังคับใช้ในปี 2559 ส่วนราคาที่ดินจะสูงขึ้นหรือไม่ กรมจะดูจากประวัติการซื้อขายที่ดินแปลงนั้นๆ ในรอบปีที่ผ่านมาและนำมาคำนวณหาค่าเฉลี่ยว่าราคาเพิ่มขึ้นเท่าไร

     - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะแถลงแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมดในสัปดาห์หน้า เน้นเพิ่มรายได้และสร้างงาน ไม่ใช้นโยบายประชานิยมเหมือนเดิม และไม่อยากให้ตื่นตูมตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ของเอดีบีที่คาดว่าจะขยายตัว 1.6%

    - สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน. ได้แจ้งรายละเอียดการออกพันธบัตรรัฐบาลในไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2558 ให้สถาบันการเงินต่างๆ ได้รับรู้โดยมีวงเงินที่จะออกทั้งหมด 9.8 หมื่นล้านบาท เป็นการออกในเดือน ต.ค. 2557 วงเงิน 4.1 หมื่นล้านบาท เดือน พ.ย. 2557 วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท และเดือน ธ.ค. 2557 อีก 3.4 หมื่นล้านบาท

     - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า ฐานะการคลังภาคสาธารณะตามระบบ สศค. ที่รวมทั้งของรัฐบาลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และรัฐวิสาหกิจพบว่า ช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 ภาคสาธารณะมีรายได้ 5.54 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 3.81 หมื่นล้านบาท หรือ 0.7% เนื่องจากรัฐวิสาหกิจมีรายได้เพิ่มขึ้น ด้านการเบิกจ่ายมีทั้งสิ้น 5.79 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 2.17 แสนล้านบาท หรือ 3.9% เนื่องจากทั้งรัฐบาล อปท.และรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดุลการคลังภาคสาธารณะขาดดุล 2.44 แสนล้าน ขาดสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 1.79 แสนล้านบาท หรือ 272%

*หุ้นเด่นวันนี้

      - S หรือ บมจ.สิงห์ เอสเตท เดิมชื่อ บมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(RASA) จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯวันนี้เป็นวันแรก(26 ก.ย.)หลังจากเข้าซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดของบจ.เอส ไบร์ทฟิวเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สันติบุรี จำกัด ของนายสันติ ภิรมย์ภักดี ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงแรม สันติบุรี บีช รีสอร์ท กอล์ฟ แอนด์ สปา ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี บล.โกลเบล็ก แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น S

     - PTTGC, KTIS(เคทีบี)"เก็งกำไร"เป้าหมาย 81.90 บาท, 15.20 บาท ได้แรงหนุนจากการร่วมมือศึกษาลงทุนพัฒนา Biohub ใช้วัตถุดิบการเกษตรผลิตพลาสติกชีวภาพและเชื้อเพลิงชีวภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มทางการเกษตร

     - BEC(เคทีบี)"เก็งกำไร"เป้าหมาย 56 ราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากข่าวเรียกประชุม กสทช.วาระพิเศษ 30 ก.ย.57 กรณีช่อง 3 อนาล็อกคาดจะมีทางออกที่ดีต่อช่อง 3 และไม่เป็นปัญหากับประชาชนทั่วประเทศ

     - AAV(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 5.20 บาท มีโอกาสตอบรับเชิงบวกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในสัปดาห์หน้าเกี่ยวกับการท่องเที่ยว คาด 3Q57 พลิกกลับเป็นกำไรจาก 2Q57 ขาดทุนสุทธิ หลังจำนวนผู้โดยสารที่เริ่มฟื้นตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รับอานิสงส์ยกเว้นค่าวีซ่านักท่องเที่ยวจีน-ไต้หวัน และต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวลง คาดกำไรสุทธิปี 58 ที่ 1,671 ล้านบาท +240% yoy โตสูงสุดในกลุ่ม และราคาหุ้นยังซื้อขายต่ำที่ระดับ PBV 58 เพียง 0.86 เท่า

     - CPN(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 65 บาท พื้นฐานแกร่งจากเป็นผู้นำค้าปลีกให้เช่าที่มีแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อไปสู่เป้ารายได้โตอย่างน้อย 15% ต่อปี มีศักยภาพโตต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นพื้นที่ให้เช่าและการขึ้นค่าเช่า กำไรครึ่งปีแรก 3,552 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 15%YoY คิดเป็น 48% ของประมาณการทั้งปีที่ 7.4 พันล้านบาท โตราว 18%YoY มี upside จากขายเซ็นทรัลเชียงใหม่เข้ากองทุน CPNRF คาดสรุป 3Q57 จะบันทึกครั้งเดียวหรือทยอยตัดจ่ายตลอดอายุเช่า 30 ปี ปี 58 คาดกำไรปกติเติบโตราว 18%YoY เป็น 8.8 พันล้านบาท

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดร่วงลงวันนี้ เหตุตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งหนักหลังข้อมูลศก.ซบเซา

     ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงอย่างหนักกว่า 200 จุดในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา

     ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ปรับตัวลง 0.6% เมื่อเวลา 9.57 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 16,087.95 จุด ลดลง 286.19 จุด หรือ -1.75% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดที่ 2,019.17 จุด ลดลง 14.94 จุด หรือ -0.73% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดที่ 8,957.56 จุด ลดลง 54.03 จุด หรือ -0.60% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดที่ 1,840.01 จุด ลดลง 3.10 จุด หรือ -0.17% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดที่ 3,276.84 จุด ลดลง 14.15 จุด หรือ -0.43%

     ส่วนดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 23,581.56 จุด ลดลง 186.57 จุด หรือ -0.78% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,339.29 จุด ลดลง 5.81 จุด หรือ -0.25%

     ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 264.26 จุด หรือ -1.54% ปิดที่ 16,945.80 จุด หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ร่วงลง 18.2% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 18% เนื่องจากยอดสั่งซื้อเครื่องบินพลเรือนลดลงอย่างมาก

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 66.56 จุด หลังธ.กลางอังกฤษส่งสัญญาณขึ้นดบ.

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) หลังจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณว่าธนาคารมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

     ดัชนี FTSE 100 ลดลง 66.56 จุด หรือ 0.99% ปิดที่ 6,639.71 จุด

     ตลาดได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของนายคาร์นีย์เกี่ยวกับแนวโน้มในการคุมเข้มนโยบายการเงินของอังกฤษ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดกันว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะมีขึ้นอย่างเร็วในปีหน้า

    นายคาร์นีย์ระบุว่าช่วงเวลาที่ชัดเจนของการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจประเทศ

     หุ้นฮาร์กรีฟส์ แลนส์ดาวน์ ร่วงนำตลาด 4.2% ตามด้วยหุ้นแองโกล อเมริกันที่รูดลง 3.7% ขณะที่หุ้นเฟรสนิลโล ปรับลง 3.55%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดร่วง หลังแบงก์ชาติอังกฤษส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากการที่นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.9% ปิดที่ 341.44 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,355.28 จุด ลดลง 58.44 จุด หรือ -1.32% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,510.01 จุด ลดลง 151.96 จุด หรือ -1.57% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,639.71 จุด ลดลง 66.56 จุด หรือ -0.99%

    ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ หลังจากนายคาร์นีย์กล่าวว่า ธนาคารกลางอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2558 เมื่อพิจารณาจากค่าแรงปรับตัวสูงขึ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศก็เป็นไปในทิศทางที่ดี

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ร่วงลง 18.2% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12,000 ราย แตะที่ 293,000 ราย และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ 58.5 ลดลงจากเดือนส.ค.ที่ระดับ 59.5

    หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง นำโดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 2.9% และหุ้นริโอทินโต ร่วงลง 2.4%

    อย่างไรก็ตาม หุ้น Outokumpu Oyj ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ของฟินแลนด์ พุ่งขึ้น 5% หลังจากบริษัทประกาศแผนการลดต้นทุนมูลค่าสูงถึง 250 ล้านยูโร

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในวันนี้ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของเยอรมนีซึ่งรายงานโดยสถาบัน GfK, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ของฝรั่งเศส และดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนก.ย.ของอิตาลี

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดลบ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจซบเซา

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดอ่อนแรงลงในวันนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวสูงขึ้น และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนส.ค.

    ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 51.18 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 17,158.88 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับลง 6.88 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 1,991.42 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 15.46 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 4,539.77 จุด

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12,000 ราย แตะที่ 293,000 ราย ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ร่วงลง 18.2% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 18% เนื่องจากยอดสั่งซื้อเครื่องบินพลเรือนลดลงอย่างมาก

     ด้านมาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.ของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 58.5 ลดลงจากเดือนส.ค.ที่ระดับ 59.5

     หุ้นแอปเปิล อิงค์ ร่วงลง 2.3% ส่วนหุ้น Jabil Circuit  ซึ่งเป็นผู้ผลิตระบบอิเล็คทรอนิกให้กับบริษัทแอปเปิล อิงค์ และซิสโก ซิสเต็มส์ เพิ่มขึ้น 1.2%% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ต่อหุ้นรายไตรมาสจะอยู่ที่ 41 เซนต์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 40 เซนต์

      นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ รวมถึงจีดีพีขั้นสุดท้ายช่วงไตรมาส 2/2557 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!