WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET11ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวขึ้น ตาม Sentiment ตลาดตปท.- ราคาน้ำมันปรับขึ้น, จับตาโหวตเสียง Brexit วันนี้
 
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นตาม Sentiment ของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยตลาดสหรัฐฯปรับตัวขึ้นกว่า 200 จุด และตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็อยู่ในแดนบวกกัน ขานรับการปรับตัวของกลุ่มเทคโนโลยี และข่าวการเจรจาแบงก์ในยุโรปที่จะมีการควบรวมกิจการกัน
 
นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นด้วย หลังจากที่รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียยืนยันจะลดกำลังการผลิตไปจนถึงกลางปีนี้
 
ทั้งนี้ วันนี้ให้ติดตามการโหวตเสียงข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งกว่าจะรู้ผลก็น่าจะเป็นวันพรุ่งนี้ โดยได้มอง 3 แนวทาง คือ 1.เห็นชอบข้อตกลง ซึ่งก็มองให้น้ำหนักน้อย 2.ไม่เห็นชอบข้อตกลง ก็ให้น้ำหนักน้อย และ 3. ขยายเวลากำหนดการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 29 มี.ค.
 
พร้อมให้แนวรับ 1,624-1,616 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640-1,645 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,650.88 จุด เพิ่มขึ้น 200.64 จุด (+0.79%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,783.30 จุด เพิ่มขึ้น 40.23 จุด (+1.47%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,558.06 จุด เพิ่มขึ้น 149.92 จุด (+2.02%)
 
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 22.09 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 256.97 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 20.28 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 236.52 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 19.50 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 44.09 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.33 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 16.51 จุด
 
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 มี.ค.62) 1,627.43 จุด ลดลง 2.69 จุด (-0.16%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 319.07 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 มี.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 มี.ค.62) ปิดที่ 56.79 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.3%
 
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 มี.ค.62) ที่ 4.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.64/67 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดจับตารัฐสภาอังกฤษโหวต Brexit วันนี้
- "ไพรินทร์" ยันเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อขยาย "หัวลำโพง-บางแค" วันที่ 30 ก.ย.62 คาดเพิ่มผู้โดยสาร ช่วงเตาปูน-หัวลำโพง-ท่าพระ-บางแค แตะ 6 แสนคนต่อวัน เผยหากทะลุถึง 1 ล้านคนต่อวัน เตรียมเจรจา BEM ลงทุนต่อถึงพุทธมณฑลสาย 4 พร้อมเร่ง PPP สายสีส้ม เปิด TOR ประมูล มิ.ย.นี้ ส่วนสายสีชมพู-เหลือง ก่อสร้างล่าช้ากว่าแผน 4% เหตุติดปัญหาการเข้าพื้นที่ช่วงถนนแจ้งวัฒนะและศรีนครินทร์
 
- ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย คาดเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท หากจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้สำเร็จ เหตุตลาดหุ้นทั่วโลกยังเป็นขาขึ้น ขณะที่ บล.ไทยพาณิชย์แนะนำหุ้นกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก โรงพยาบาล นิคมอุตสาหกรรม พลังงาน
 
- พาณิชย์ ยกเลิกเพดานราคาปาล์มขวดชั่วคราว กดราคาให้เหลือ 30 บาท/ขวด จี้โรงสกัดเร่งรับซื้อผลปาล์ม ราคา 3-3.25 บาท/กก.
- "อภิศักดิ์" ย้ำหนี้ครัวเรือนพุ่งจากนโยบายอุดหนุนคนมีบ้าน รวมทั้งการดึงหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ ชี้ควรแยกแยะคุณภาพ เหตุทำให้คนมีความเป็นอยู่ดีขึ้น พร้อมระบุการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายยิ่งสร้างความเหลื่อมล้ำเพิ่ม
 
*หุ้นเด่นวันนี้
- ROBINS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 80 บาท คาดกำไรปีนี้ +15% Y-Y เป็น 3,422 ล้านบาท จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัว, แผนการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง, การเติบโตของรายได้ค่าเช่า, และอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวตามสัดส่วนสินค้า House Brand  และเป็นหุ้น Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง แต่ราคายัง Laggard หุ้นใน SET50 อยู่ราว 5% อีกทั้งยังเคลื่อนไหวที่แนวรับสำคัญของรอบ Sideway ชุดใหญ่แถว 62 บาท ความเสี่ยงขาลงค่อนข้างจำกัด
 
- TOP (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 80 บาท ค่าการกลั่นเริ่มฟื้นตัว เข้าสู่ฤดูการซ่อมบำรุงที่สหรัฐฯ และ TOP มีความได้เปรียบโรงกลั่นรายอื่น เนื่องจากเป็นโรงกลั่นแบบ integration โดยมีผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ โดยเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์มวลเบาที่ออกจากโรงกลั่น ประกอบกับราคาพาราไซลีนที่ล่าสุดทรงตัวอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ส่วนต่าง Px-ULG95 ทรงตัวสูงที่ 510-530 USD/ton แม้ในช่วงที่ค่าการกลั่นลดลงอยู่ในระดับต่ำ แต่ TOP สามารถรับมือได้ โดยยังมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเกิน 100% ประกอบกับ cash cost ธุรกิจโรงกลั่นของ TOP อยู่ที่เพียง 1.8 USD/bbl
 
- ERW (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 8.2 บาท คาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1.2 ล้านคน ได้อีกครั้งในเดือน ก.พ. จากแรงส่งของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ และ เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นบวกต่อรายได้และกำไรของกลุ่มธุรกิจโรงแรมโดยตรง เลือก ERW เป็น Top pick (Pure Hotel)
-อินโฟเควสท์
 
 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!