WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET42ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์กรอบแคบคล้ายภูมิภาค ปัจจัยแวดล้อมดีขึ้นแต่งบฯ Q4/61 ส่วนใหญ่ไม่ดีกดดันตลาดฯ
 
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ในกรอบแคบ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ ภายหลังจากที่ทางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 29-30 ม.ค.ระบุในทำนองว่าสามารถอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ซึ่งเรื่องนี้ตลาดฯก็ได้รับรู้ไปแล้ว ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า แต่ราคาน้ำมันก็ได้ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยซึ่งก็น่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้
 
อย่างไรก็ดี ตลาดฯก็ยังรอดูการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อยู่ ที่แม้ขณะนี้จะมีความคืบหน้าในทางที่ดี แต่ก็ต้องรอความชัดเจนก่อน ซึ่งปัจจัยแวดล้อมของตลาดฯขณะนี้ถือว่าดีขึ้น แต่ตลาดฯก็ได้รับแรงกดดันจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในประเทศงวดไตรมาส 4/61 ที่ออกมาส่วนใหญ่ไม่ดี และแม้ว่านักลงทุนต่างชาติเมื่อวานนี้จะซื้อสุทธิกว่า 7 พันล้านบาท แต่หากหักส่วนของบิ๊กล็อตหุ้น RAM ออกไปจะเหลือซื้อสุทธิแค่พันกว่าล้านบาทเท่านั้น
 
พร้อมให้แนวรับ 1,636 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 ก.พ.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,954.44 จุด เพิ่มขึ้น 63.12 จุด (+0.24%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,784.70 จุด เพิ่มขึ้น 4.94 จุด (+0.18%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,489.07 จุด เพิ่มขึ้น 2.30 จุด (+0.03%)
 
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 9.18 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 64.05 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 9.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 5.50 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.81 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.81 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 7.42 จุด
 
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ก.พ.62) 1,645.38 จุด เพิ่มขึ้น 9.67 จุด (+0.59%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 7,983.44 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ก.พ.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 ก.พ.62) ปิดที่ 56.92 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.5%
 
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ก.พ.62) ที่ 2.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.11 อ่อนค่าจากเย็นวานนี้หลังดอลล์ฟื้น มองกรอบวันนี้ 31.05-31.20
- บอร์ด ทอท.เคาะประมูล ดิวตี้ฟรี สุวรรณภูมิพ่วง 3 สนามบิน แยก 3 สัญญาใหญ่ บริหารดิวตี้ฟรี- กิจกรรมพาณิชย์-พิคอัพเคาน์เตอร์ เปิดชิง มี.ค.ได้ผู้ชนะ ก.ย.นี้ พร้อมอนุมัติสร้างเทอร์มินัล 2 ล้มประมูลออกแบบกลุ่มดวงฤทธิ์ ด้านสมาคมค้าปลีกไทย ชี้สัมปทานดิวตี้ฟรี ต้องเปิดกว้างหลายรายตามหมวดสินค้า
 
- "เงินบาท" แข็งค่าสุดรอบ 5 ปี แตะระดับ 31.07 ต่อดอลลาร์ หลังนักลงทุนคลายกังวลสงครามการค้า ขณะ "เฟด" ชะลอขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้าเอเชีย เผยต่างชาติซื้อหุ้น-บอนด์ไทย วันเดียวกว่า 1.5 หมื่นล้าน "ศูนย์วิจัยกสิกร" ชี้มีโอกาสหลุดระดับ 30 ต่อดอลลาร์ ด้าน "คลัง" หวังแบงก์ชาติเข้าดูแลค่าเงิน
 
- รฟม.เซ็นจ้างที่ปรึกษาออกแบบรถไฟฟ้าเชียงใหม่ เร่งทำ EIA พร้อม เสนอ กก.PPP อนุมัติ คู่ขนาน คาดเปิดประมูลเอกชนร่วมทุน 100% ได้ปลายปี 62 ก่อสร้าง 5 ปี ส่วนรถไฟฟ้าภูเก็ต เร่งเจรจากรมทางหลวงปรับแบบลดผลกระทบจราจร คาดประมูล Q3/62
 
- "ส.อ.ท." พร้อมหารือพาณิชย์ 27 ก.พ.ร่วมดันเป้าส่งออกปีนี้ให้โต 8% ยอมรับว่าไม่ใช่ เรื่องง่าย หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลายปัจจัยยังไม่เอื้อ โดยเฉพาะบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องหวัง ธปท.ดูแลใกล้ชิด แถมยังต้องรอลุ้นเลือกตั้ง แนะเร่งหาตลาดใหม่ๆ เพื่อ ขยายส่งออกเพิ่ม ส่วนค่าแรงปีนี้จ่อขึ้น 2-10 บาทให้บอร์ดค่าจ้างเคาะ
 
*หุ้นเด่นวันนี้
- AOT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า Consensus 70 บาท ได้ข่าวดีคณะกรรมการมีมติเดินหน้าลงทุนโครงการอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Terminal 2) มูลค่าโครงการ 4.2 หมื่นล้านบาท และ เห็นชอบแนวทางเปิดประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดจะสามารถประกาศร่างให้เอกชนเข้าร่วมประมูล (TOR) ได้ภายในเดือน มี.ค.62
 
- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 90 บาท คาดกำไร Q4/61 ที่จะประกาศวันนี้ อยู่ในกรอบ 5.5-5.6 พันล้านบาท โตดี Q-Q และทรงตัว Y-Y เพราะงบของ MAKRO ออกมาสวย และ SSSG เฉพาะของ CPALL ยังโตดี ส่วนปี 2562 คาดกำไรโต 15% Y-Y อยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท และได้ประโยชน์จากกำลังซื้อในกลุ่มกลางล่างที่ฟื้น ซึ่งเรามองว่าจะยิ่งเร่งตัวขึ้นหลังการเลือกตั้ง
 
- TASCO (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 17 บาท แนวโน้มผลประกอบการ Q1/62 และ 2562 จะฟื้นตัวดีขึ้น จากมีชัพพลายน้ำมันดิบเข้ามาป้อนอย่างสม่ำเสมอ  รวมถึงราคายางมะตอยปัจจุบันสามารถดีดกลับขึ้นมา 370 เหรียญ/ตัน จากปลายปี 320 เหรียญ/ตัน  และปีนี้จะมีเงินเคลมประกันเข้ามาเสริม  นอกจากนี้ การอัพเกรดโรงกลั่น S-Oil, Hyundai และ SK Energy ทำให้ชัพพลายยางมะตอยหายไปรวมเกือบ 2 ล้านตัน จะส่งผลบวกต่อ TASCO
 
-อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!