- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 25 September 2014 10:30
- Hits: 2304
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าขึ้นต่อทดสอบ 1,600 จุดตามตลาดหุ้นโลกหลังปัจจัยตปท.หนุน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัว ขึ้นไปทดสอบ 1,600 จุด โดยคาดว่าจะมีการปรับตัวขึ้นไปตามดัชนีตลาดหุ้นในทั่วโลกหลังจากที่ได้รับแรงหนุนจากรายงานยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18% ซึ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยในยูโรโซนจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหากออกมาปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ อาจจะส่งผลให้มีแรงขายออกมาได้
พร้อมให้แนวรับดัชนีวันนี้ที่ 1,587-1,588 จุด แนวต้าน 1,600 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(24 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,210.06 จุด เพิ่มขึ้น 154.19 จุด (+0.90%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,555.22 จุด เพิ่มขึ้น 46.53 จุด(+1.03%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,998.30 จุด เพิ่มขึ้น 15.53 จุด(+0.78%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 159.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.29 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 126.77 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 28.27 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.02 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.88 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.70 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 27.50 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.44 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(24 ก.ย.)1,591.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด(+0.11%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,557.38 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ก.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(24 ก.ย.)ที่ 92.80 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(24 ก.ย.)ที่ 6.81 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.24/26 ปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยตามแรงขายทำกำไร
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ได้เข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมกับนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนาน 2 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรีได้ปรึกษางานด้านเศรษฐกิจหลายเรื่อง โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 ที่ได้วางแผนไว้แล้วว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการต่างๆ มาช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
- พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟม. ได้อนุมัติให้ผู้รับเหมาที่ซื้อแบบประมูลทั้ง 31 ราย ยื่นประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร วงเงิน 26,464 ล้านบาท ในวันที่ 30 ก.ย. นี้ และจะตรวจสอบทางเทคนิคเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะเปิดให้เสนอราคาในเดือน ธ.ค. นี้
- พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อร่วมกันดูแลค่าครองชีพประชาชนนั้นทางผู้แทนภาคเอกชนยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้ากับภาครัฐอย่างเต็มที่ แต่หากจะมีการขอปรับขึ้นราคาสินค้า เอกชนก็สามารถเสนอเข้ามาให้พิจารณาได้ แต่ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนและสามารถตอบได้ว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาจากอะไร และขึ้นราคาเท่าไหร่จึงจะรับได้ทั้งฝ่ายผู้ผลิตและผู้บริโภค หากไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนก็จะไม่พิจารณาอนุมัติให้
- ก.ล.ต. ปรับปรุงเกณฑ์การแก้ไขฐานะเงิน กองทุนสำหรับ โบรกเกอร์ที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิได้ มีผลเดือน ต.ค.นี้ ด้านนายกสมาคมบล. ยืนยันสมาชิกฐานะแข็งแกร่ง ไร้ปัญหาแต่ที่ปรับเกณฑ์เพราะรองรับธุรกรรมในอนาคตและรับมือความผันผวนของตลาดทุน
- ไทยพาณิชย์เชื่อแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มฟื้น คาดปีหน้าโตได้ 4-5% ดันสินเชื่อทั้งระบบโต 6-9% ส่วนปีนี้เน้นทำรายได้-ลดต้นทุนเข้าเป้า สินเชื่อเรื่องรอง ส่วนกรณีสกริมมิ่งยันพัฒนาระบบตลอด หากเกิดปัญหาเร่งคืนเงินเร็วที่สุด
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ 3 กรมภาษี คือกรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต เตรียมพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บรายได้ปีงบ 2558 เพื่อให้การเก็บภาษีเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 2.325 ล้านล้านบาท ไม่ควรจะให้ต่ำกว่าเป้าหมายเหมือนในปีนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- BTS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 10.80 บาท วานนี้ บอร์ด รฟม.มีมติเห็นชอบให้มีการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสีเขียวเหนือ (หมดชิต-สะพานใหม่-คูคต) ตาม TOR เดิม โดยมีกำหนดยื่นเอกสาร 30 ก.ย. นับเป็นปัจจัยบวกต่อ BTS เพราะมีโอกาสสูงสุดในการได้งานเดินรถต่อเนื่องจากสายสีเขียวเดิม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มปริมาณผู้โดยสารสายสีเขียวเดิมได้อย่างมาก นอกจากนั้น BTS ยังสนใจเข้าบริหารงานเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์หากภาครัฐเปิดให้เอกชนเข้าร่วมงาน รวมถึงสนใจเข้าประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ส่วนงานในต่างประเทศอยู่ระหว่างรอผลประมูลรถไฟฟ้าที่ปักกิ่งระยะทาง 50 ก.ม. ซึ่งเลื่อนประกาศจากเดือนมื.ย. 2014 ประมาณการกำไรของเรายังไม่รวมโครงการดังกล่าว
- PTTEP, BTS, CK (เคทีบี)"เก็งกำไร"โดย PTTEP ราคาหุ้นจะได้แรงหนุนบวกระยะสั้น จากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเมื่อคืนนี้ ขณะที่ยังเห็นแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทที่ดีต่อเนื่องในช่วง 2H57 แม้มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน (stock loss) ในงวด 3Q57 9ตามราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง q-o-q ส่วน BTS และ CK ได้แรงหนุนจากข่าว รฟม. มีมติเดินหน้าประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ซึ่งทั้งสองบริษัทมีโอกาสได้งานสูงจากผลงานที่ผ่านมา โดยให้ราคาเป้าหมาย PTTEP, BTS, CK เท่ากับ 204, 10.83 และ 29.96 บาท ตามลำดับ
- INTUCH(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 88.20 บาท คาดผลประกอบการ 3Q57 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นของ ADVANC รวมถึงการเติบโตของ THCOM และราคาหุ้นยังมี upside ราว 20% จากมูลค่าเหมาะสม
- DTAC (เคเคเทรด)"เก็งกำไร"เป้า 112 บาท คาดผลประกอบการ 3Q57 จะเป็นไตรมาสต่ำสุดของปีและมีแนวโน้มฟื้นตัวในไตรมาส 4 จากรายจ่ายโปรโมชั่นที่ออกในช่วงไตรมาสนี้จะหนุนให้จำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น และส่งผลให้รายได้ฟื้นตัวช่วงไตรมาสสุดท้าย ราคาหุ้นยังมี upside จากมูลค่าเหมาะสมเกือบ 6%
- ADVANC(เคเคเทรด)"เก็งกำไร"เป้า 220 บาท ฟื้นตัวได้เร็วกว่า DTAC เพราะสามารถขยายโครงข่ายและลูกค้าระบบ 3G-2100 ได้เร็วกว่าเป้า อีกทั้งรายได้ non-voice ของ ADVANC มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเร็วกว่า อย่างไรก็ตามราคาหุ้น ADVANC ปรับขึ้นมาสะท้อนมูลค่าที่เหมาะสมที่แล้ว
- IFEC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 11.40 บาท มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นหลัง IFEC ประกาศเข้าร่วมลงทุนในบริษัทกรีน โกรท (GG) ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังลม 10 MW ที่ จ.นครศรีธรรมราช และมีกำหนดเริ่มขายไฟฟ้าตั้งแต่ 1 พ.ค.2558 ส่งผลให้ IFEC กลายเป็นบริษัทเดียวในประเทศที่บริหารโครงการพลังงานทดแทนครบทุกด้าน ทั้ง โซลาร์ฟาร์ม, โซลาร์รูฟ, ชีวมวล, ขยะ และลม ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมจะเริ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 38 MW ในปี 2557 เป็น 163 MW ในปี 2558 และเพิ่มขึ้น 250 MW ในปี 2559 พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +54.4% yoy เป็น 404 ล้านบาท และเติบโตก้าวกระโดด +426.6% yoy เป็น 2,130 ล้านบาท ในปี 2559 และ Valuation ในระยะยาวยังมีความถูก
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 30.19 จุด หลังข้อมูลอสังหาฯสหรัฐแกร่ง
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมือง และยอดขายบ้านใหม่สหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 30.19 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 6,706.27 จุด
ตลาดขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18% ในเดือนส.ค.จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 504,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นเพียง 3.4% ในเดือนดังกล่าว
ทั้งนี้ ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเดือนส.ค. ทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี ซึ่งนับเป็นสัญญาณดีที่บ่งชี้ว่าดีมานด์จากผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น และตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐยังคงฟื้นตัว
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มเหมืองที่ปรับตัวแข็งแกร่ง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตันพุ่งนำตลาด 3.2% ขณะที่หุ้นเฟรสนิลโลดีดขึ้น 2.2% หลังยูบีเอสปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุน ขณะที่หุ้นริโอ ทินโตปรับขึ้น 2.4% หลังมอร์แกน สแตนลีย์แนะให้นักลงทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นดังกล่าว
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก จากคาดการณ์อีซีบีกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ห้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.7% ปิดที่ 344.35 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,661.97 จุด เพิ่มขึ้น 66.94 จุด หรือ +0.70% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,413.72 จุด เพิ่มขึ้น 54.37 จุด หรือ +1.25% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,706.27 จุด เพิ่มขึ้น 30.19 จุด หรือ +0.45%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้น ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนก.ย.ร่วงลงแตะ 104.7 จาก 106.3 ในเดือนส.ค. และอ่อนแรงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 105.7 สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ Europe 1 ของฝรั่งเศสว่า อัตราดอกเบี้ยในยูโรโซนจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงซบเซา โดยเฉพาะอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง
หุ้นเมอร์ก ในกลุ่มเวชภัณฑ์ พุ่งขึ้น 1.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของคอมเมิร์ซ แบงก์ ได้แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นเมอร์ก โดยเชื่อว่าการที่เมอร์กตัดสินใจเข้าซื้อกิจการบริษัทซิกมา-อัลดริช คอร์ป จะช่วยหนุนผลประกอบการให้แข็งแกร่งขึ้น
หุ้นริโอทินโตปรับตัวขึ้น 2.4% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว เนื่องจากเงินสดหมุนเวียนของริโอทินโตปรับตัวเพิ่มขึ้นและสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 154.19 จุด รับยอดขายบ้านใหม่สหรัฐสดใส
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยในยูโรโซนจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,210.06 จุด เพิ่มขึ้น 154.19 จุด หรือ +0.90% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,555.22 จุด เพิ่มขึ้น 46.53 จุด หรือ +1.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,998.30 จุด เพิ่มขึ้น 15.53 จุด หรือ +0.78%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18% ในเดือนส.ค.จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 504,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นเพียง 3.4% ในเดือนดังกล่าว
ข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ภายหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เพิ่งเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนส.ค. ลดลง 1.8% สู่ระดับ 5.05 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นแตะ 5.20 ล้านยูนิต
หุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภคทะยานขึ้น รวมถึงหุ้นวอล-มาร์ท ปรับขึ้น 2% ขณะที่หุ้นกรีน ดอท พุ่งขึ้น 24% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้
หุ้นเบธ บาธ แอนด์ บียอนด์ พุ่งขึ้น 7.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ดีเกินคาด ส่วนหุ้นไฟเซอร์ อิงค์ ในกลุ่มเวชภัณฑ์ ปรับขึ้น 0.9%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเมดโทรนิก ปรับตัวลง 0.5% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า กระทรวงการคลังสหรัฐได้กฎระเบียบใหม่เพื่อจัดการกับบริษัทเอกชนที่ต้องการลดภาระการจ่ายเงินภาษี (tax inversion) ด้วยการย้ายสำนักงานใหญ่ของบริษัทไปในประเทศที่จัดเก็บภาษีในอัตราต่ำกว่า
ทั้งนี้ คาดว่ากฎระเบียบใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อบริษัทสหรัฐหลายแห่งที่กำลังอยู่ระหว่างการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ รวมถึงบริษัทเมดโทรนิก ที่กำลังยื่นขอซื้อกิจการบริษัทโควีเดียน ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์จากไอร์แลนด์ และแผนการควบรวมกิจการของเบอร์เกอร์คิง เวิลด์ไวด์ และทิม ฮอร์ตันส์ ซึ่งเป็นเชนกาแฟและโดนัทของแคนาดา
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.