- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 11 February 2019 10:33
- Hits: 3007
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวน-มีโอกาสอ่อนตัวลง จากประเด็นทางการเมืองในปท.กดดัน
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน และมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลง จากประเด็นทางการเมืองในประเทศเป็นหลัก หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทำให้เกิดความไม่แน่นอนสูงขึ้น โดยบรรยากาศความแตกแยกทางการเมืองทำให้ลดทอนบรรยากาศเชิงบวกจากการเลือกตั้ง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ ยกเว้นตลาดหุ้นไต้หวันที่กลับมาเปิดเทรดหลังเทศกาลตรุษจีนที่สามารถยืนในแดนบวกได้ราว 1% โดยยังต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) ในสหรัฐฯว่าจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่ รวมถึงได้เริ่มเห็นการปรับลดประมาณการผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดีภาพใหญ่ของตลาดบ้านเรายังเป็นบวกอยู่ โดยให้เลือกลงทุนหุ้นที่ยังปรับขึ้นได้น้อย และไม่ไล่ราคาหุ้น รวมถึงควรเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจับต้องได้อย่าง P/E ไม่แพง เป็นต้น ซึ่งก็ชอบหุ้น PTT, PTTEP, TOP, BCP, MAJOR, CPF เป็นต้น
พร้อมให้แนวรับ 1,640 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 ก.พ.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,106.33 จุด ลดลง 63.20 จุด (-0.25%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,707.88 จุด เพิ่มขึ้น 1.83 จุด (+0.07%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,298.20 จุด เพิ่มขึ้น 9.85 จุด (+0.14%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.06 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 18.87 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 97.58 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.49 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 26.04 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.18 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 17.45 จุด
ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันสถาปนาประเทศ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ก.พ.62) 1,651.68 จุด ลดลง 1.43 จุด (-0.09%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 649.75 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ก.พ.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 ก.พ.62) ปิดที่ 52.72 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ก.พ.62) ที่ 2.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.35 แนวโน้มผันผวน จับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศ-เจรจาการค้าสหรัฐฯกับจีน
- นักเศรษฐศาสตร์ฟันธงเศรษฐกิจจีน "ชะลอ" ชัดเจน ห่วงหนี้เสียปะทุ จับตาแบงก์จีนรับมือไหวหรือไม่ หวั่นฉุดเศรษฐกิจไทยวูบตาม ย้ำเกาะติดผลกระทบ 3 ด้าน "ส่งออก-ท่องเที่ยว-อสังหาฯ" ชี้มาตรการกระตุ้นรัฐบาลจีน แค่บรรเทา "พาณิชย์" ไม่สนเศรษฐกิจจีนชะลอตัว เจาะตลาดจีนรายมณฑล ดันเป้าส่งออกไปจีน 12%
- "พาณิชย์" นัดถกคณะทำงานพิจารณามาตรการดูแลยา และเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์นัดแรก ดูโครงสร้างต้นทุนราคายา ก่อนนำเทียบกับที่โรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่งคิด หากพบสูงเกินจริง จะมีมาตรการจัดการ นำร่อง 1,000 รายการ
- คมนาคม สั่ง รฟท.เร่งทบทวนสายสีแดง "ตลิ่งชัน-ศิริราช" ปรับลดค่าก่อสร้าง 883 ล้านบาท หลังบอร์ด สศช.ให้ย้ายโรงซ่อมหัวจักรธนบุรีออกจากพื้นที่แทนการปรับปรุงเพื่อลดปัญหาฝุ่นควัน "วรวุฒิ" คาดชง ครม.เริ่มประมูลในปีนี้
- บอร์ดสภาพัฒน์ผ่าน 2 เส้นสุดท้าย'สีส้ม-สีแดงส่วนต่อขยาย' จ่อคิวเข้าครม., แผนลงทุนรถไฟฟ้า 10 สาย รัฐบาล "บิ๊กตู่" จบ สภาพัฒน์ผ่าน 2 เส้นสุดท้าย ชงเข้า ครม.ก่อนเลือกตั้ง
- คมนาคมตั้งเป้าผู้นำอุตสาหกรรมอาเซียน ส่งออกรถไฟฟ้าไปซีแอลเอ็มวี เล็งตั้งจุดตรวจวีซ่าในสถานีกลางบางซื่ออำนวยความสะดวกไฮสปีดเชื่อมอาเซียน ลุ้นบิ๊กคมนาคมแคนดิเดตชิงตำแหน่งผู้บริหารกรมราง
*หุ้นเด่นวันนี้
- NPPG-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) (NPPG) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 749,612,446 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (21 มกราคม 2562) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 มี.ค. 2562 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 20 ม.ค. 2565
- PTTEP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 150 บาท มองบวกจากแผนการทยอยตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายภายในปีนี้ ทั้งแหล่งโมซัมบิค เวียดนามและแอลจีเรีย ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเพิ่มปริมาณการผลิตในส่วนของ PTTEP ได้อีกราว 40,000 บาร์เรล/วัน ในช่วงปี 2566 และยังช่วยเพิ่มปริมาณสำรอง/การผลิตได้อีกราว 1.5 ปี ยังไม่รวมปริมาณสำรองของบงกช-เอราวัณ ที่พึ่งประมูลได้อีกราว 4 ปี ทำให้ปริมาณสำรอง/การผลิต สิ้นสุดปลายปี 2562 คาดว่าจะอยู่ที่ 10 ปี ส่วนการรุกธุรกิจ gas to power ในเมียนมา ยังเป็น upside ให้กับกำไรและมูลค่าหุ้นในอนาคต และปันผลงวด H2/61 อยู่ที่ 3.25 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 2.6% ขึ้น XD วันที่ 12 ก.พ.นี้
- STEC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 29 บาท ได้อานิสงส์ภาครัฐเร่งเปิดประมูลงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการเพื่อทิ้งทวนก่อนเลือกตั้ง อาทิ รถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท และรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง มูลค่ารวมกว่า1.4 แสนล้านบาท เลือก STEC เป็น top pick
-อินโฟเควสท์