- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 31 January 2019 11:19
- Hits: 4403
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้น เล็งตอบรับเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย-ราคาน้ำมันพุ่ง-ตัวเลข PMI จีนดีกว่าคาด
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ตอบรับการส่งสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ชัดเจนขึ้นในการจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก็จะเป็นบวกต่อตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) โดยเฉพาะตลาดในกลุ่ม TIP ทำให้คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามา จากการมองว่านักลงทุนบางกลุ่มอาจจะไม่อยากรับความเสี่ยงในเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ยังมีความไม่แน่นอน ก็เลยนำเงินมาพักไว้ในตลาดเกิดใหม่ก่อน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นแรงด้วย จากเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง ดังนั้น จึงคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยคาดว่าวันนี้จะมีแรงซื้อเข้ามาที่หุ้นบิ๊กแคป อีกทั้งล่าสุดตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 49.5 ก็ออกมาดีกว่าตลาดฯคาดด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,645-1,650 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 ม.ค.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,014.86 จุด พุ่งขึ้น 434.90 จุด (+1.77%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,681.05 จุด เพิ่มขึ้น 41.05 จุด (+1.55%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,183.08 จุด เพิ่มขึ้น 154.79 จุด (+2.20%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 27.20 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 19.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.75 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 199.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 13.35 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 10.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 16.68 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 276.37 จุด
ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ (31 ม.ค.) เนื่องในวันเปิดให้ชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์เท่านั้น
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ม.ค.62) 1,632.60 จุด เพิ่มขึ้น 8.55 จุด (+0.53%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 13.65 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ม.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 ม.ค.62) ปิดที่ 54.23 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ม.ค.62) ที่ 1.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.25/26 แข็งค่าในรอบ 10 เดือน รับเม็ดเงินไหลเข้า มองกรอบวันนี้ 31.20-31.35
- ก.ล.ต. สั่งห้ามขาย "ไอซีโอ" จนกว่ามีประกาศออกมาชัดเจน คาดไม่เกินสิ้นเดือนหน้า ย้ำหากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย ขณะ "สรรพากร" ระบุกำไรเงินลงทุนต้องนำมาคำนวณรายได้สิ้นปี พร้อมยกเว้น "แวต" ให้รายย่อย ขณะ "ไอเทล" พับแผนออกไอซีโอ หลังประเมินแล้วไม่คุ้ม ด้าน "โปรฟิน กรุ๊ป" ประกาศเลื่อนขายพรีเซล รอความชัดเจน
- ก.พลังงานรับลูกมหาดไทยทบทวนแผนซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชนใหม่ให้สอดรับกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องคาด ก.ย.ได้ข้อสรุป วงในแย้มแนวโน้มรับซื้อเพิ่มมากกว่า 500 เมกะวัตต์ ขณะที่สมาคมการค้าพลังงานขยะจ่อถกท่าทีสมาชิก 6 มิ.ย.หวังส่งสัญญาณรัฐย้ำราคารับซื้อหากต่ำไปลงทุนไม่เกิดแน่ ด้าน "ครม." ไฟเขียว บ.พีอีเอ เอนคอม ร่วมทุน 3 บริษัทเดินหน้าโรงไฟฟ้า ชีวมวล 3 จังหวัดชายแดนใต้ลงทุนรวม 1.5 พันล้านบาท
- กสิกรไทยเผยดัชนีครองชีพของครัวเรือนพฤษภาคม ปรับลดต่อเดือนที่ 4 ต้นเหตุน้ำมัน-ก๊าซแพง ดันราคาของกินของใช้สูงขึ้น 1.49% สะท้อนครัวเรือนหันใช้บัตรเครดิตเพิ่ม กังวลกระทบการชำระหนี้อนาคต
- กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมประกาศห้ามตั้งและขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตในเวลา 5 ปีเร็วๆ นี้หลัง "ครม."ไฟเขียวหลักการร่างประกาศแล้วก่อนกำหนดมาตรฐานสิ่งแวดล้อมใหม่สกัดตั้งโรงงานนำเครื่องจักรเก่ามาใช้ พร้อมปลดล็อกระยะห่างโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบเอื้อลงทุน Bio Economy
- วงสัมมนาอสังหาริมทรัพย์ มองปี 62 ชะลอเปิดโครงการใหม่ เร่งระบายสต๊อกสินค้า ที่อยู่ระหว่างขาย 5.3 แสนล้านบาท จับตาเลือกตั้งปัจจัยกดดัน ชี้มาตรการแอลทีวีเร่งโอนกรรมสิทธิ์ คาดเริ่มส่งผลกระทบไตรมาส 2
- คลังโยน "ธปท." ดูแลเงินบาทหลังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง แนะผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบออกมาสะท้อนปัญหา ช่วยจี้ออกมาตรการดูแล ด้าน ธ.เกียรตินาคิน ชี้เศรษฐกิจไทยปี 62 ยังโตแบบชะลอตัว ขณะที่ซิตี้แบงก์คาดเศรษฐกิจโลกปี 62 โต 3.1%
*หุ้นเด่นวันนี้
- EA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 65 บาท คาดกำไรสุทธิปี 2562 ยังโตต่อเนื่องอีก 15% Y-Y อยู่ที่ 6.1 พันล้านบาท จากปี 2561 ที่คาด +40% Y-Y อยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท และการเติบโตหลังจากนี้จะมั่นคงมากขึ้น การ COD โรงไฟฟ้าลมส่วนที่เหลือ 260 MW จะทำให้ฐานกำไรรายไตรมาสไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท โดยมีตัวเปิด Upside จากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและการติดตั้งสถานีชาร์ทกว่า 1 พันแห่ง รวมถึงโครงการแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน และการต่อยอดธุรกิจเดิมในโครงการ Green diesel ซึ่งล้วนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- JMT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 14.2 บาท คาดกำไรสุทธิ Q4/61 พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 141 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2%qoq และ 42%yoy ตามพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัว
- BEAUTY (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 10.30 บาท จากราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมามากและนักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาสนใจ โดยใช้ประเด็นในเรื่องการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของไทยเข้ามาช่วย แนวโน้มกำไร Q4/61 อาจยังไม่ดีนัก (คาดกำไรสุทธิ Q4/61 ชะลอตัว -37%YoY, -21%QoQ) จากยอดขายต่อสาขาลดลง 10% และ Gross margin ลดลง พร้อมปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-2562 ไว้ที่ 1,126 และ 1,306 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับปี 2562 มองว่าผลประกอบการ BEAUTY จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หนุนโดย รายได้จาก Beauty channels จะขยายตัว จากการบริโภคในประเทศที่ขยายตัวและนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวโดยรัฐบาลได้ขยาย VoA ถึงวันที่ 30 เม.ย.
-อินโฟเควสท์