นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้นกัน คาดว่าจะมาจาก Fund Flow ที่ไหลเข้ามามากขึ้น จากการโยกเงินลงทุนจากตลาดที่พัฒนาแล้วมาเข้า Emerging Market หลังจากที่เรื่องการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) ในสหรัฐฯยืดเยื้อ และยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องร่างข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit) ด้วย ทำให้ตลาดประเทศที่พัฒนาแล้วไม่น่าสนใจ

 

นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราก็มีเรื่องความชัดเจนในการเลือกตั้งช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้มาลงทุนได้ด้วย อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในช่วงสิ้นเดือนนี้ หลังจากที่รัฐมนตรีของสหรัฐฯได้ออกมาว่า ยังห่างไกลที่จะบรรลุข้อตกลง ทำให้เกิดความกังวลอยู่จึงต้องติดตาม

 

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ม.ค.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,553.24 จุด ลดลง 22.38 จุด

(-0.09%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,642.33 จุด เพิ่มขึ้น 3.63 จุด (+0.14%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,073.46 จุด เพิ่มขึ้น 47.69 จุด (+0.68%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 24.01 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.57 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 161.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 46.27 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.89 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.95 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 6.00 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 10.76 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ม.ค.62) 1,620.53 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด (+0.19%)

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,872.98 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ม.ค.62

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ม.ค.62) ปิดที่ 53.13 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 1%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ม.ค.62) ที่ 1.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 31.69 แข็งค่าจากวานนี้ รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้น มองกรอบวันนี้ 31.65-31.80

- กพช.อนุมติพีดีพี ฉบับใหม่ เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า 5.6 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 2580 เน้นโรงไฟฟ้าก๊าซครองสัดส่วนถึง 53%  กด"ถ่านหิน"เหลือแค่ 12%  เปิดเอกชนยื่นเจรจาสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ภาคตะวันตก 1,400 เมกะวัตต์ ย้ำค่าไฟต้องถูกลง พร้อมอนุมัติต่อสัญญาซื้อไฟเอสพีพี 25 ราย

 

- "สภาพัฒน์" ร่อนหนังสือถึง "ปลัดคมนาคม" เบรก ทอท.สร้างเทอร์มินอล 2 สุวรรณภูมิ ชี้ผิดผังแม่บท (Master Plan) เดิม ไล่กลับขยายอาคารทิศตะวันออกตามเดิมก่อน พร้อมแนะใช้กลไกสัญญาสางปัญหาพื้นที่เชิงพาณิชย์แก้แออัด ชี้ผังแม่บทปี 2561 ปัญหาเพียบ สั่งแก้ไขดูความเหมาะสมปริมาณผู้โดยสาร คำนึงถึงบริบท การพัฒนาประเทศเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง 20 ปี

 

- ดัชนีเชื่อมั่นค้าปลีกสะท้อนกำลังซื้อฟื้น แรงหนุนเลือกตั้งชัด คาดตรุษจีนใช้จ่ายแสนล้าน

- "สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด"คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โตมากกว่า 4%  มองเงินไหลเข้าตลาดหุ้นแค่ระยะสั้น เพื่อรับข่าวเลือกตั้ง แต่ในช่วงกลางปีทิศทางเงินต่างชาติไหลออกจากทั้งหุ้นและบอนด์รับเฟดขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลค่าเงินบาทปลายปีอ่อนค่าแตะ 33.5 บาทต่อดอลลาร์

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- SISB (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 8.84 บาท ใช้หลักสูตรของสิงคโปร์เป็นพื้นฐานในการสอน มีโรงเรียนในกลุ่ม 5 แห่ง และเปิดสอนตั้งแต่เตรียมอนุบาลถึงม.6 สามารถรองรับนักเรียนได้สูงสุด 4,175 คน โดยอยู่ใน Growth Stage เพราะการลงทุนครั้งใหญ่เสร็จสิ้นแล้ว ทำให้มี Capacity รองรับการเติบโตใน 3-5 ปีข้างหน้า โดยคาดกำไรปี 2562-2564 โตเฉลี่ย 51% ต่อปี จาก 1. การเติบโตของรายได้ 2. ประสิทธิภาพให้บริการการศึกษาที่สูงขึ้น และ 3. ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง

 

- PLANB (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 8 บาท คาดกำไรสุทธิ Q4/61 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 191 ล้านบาท ขยายตัว 116%YoY, 7% QoQ  หนุนโดยรายได้ที่ขยายตัวโดดเด่นอยู่ที่ 1,090 ล้านบาท (+41% YoY) และ Gross profit margin อยู่ที่ 35.7% จาก Utilization rate ปรับตัวดีขึ้น อยู่ที่ 77% จาก High season โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-2562 ขึ้น 3.4% และ 2.6% อยู่ที่ 661 และ 883 ล้านบาท ตามลำดับ สะท้อนแนวโน้มของกำไรสุทธิ Q4/61 และการขยาย capacity ที่สูงกว่าที่คาดการณ์เดิม ทั้งนี้ PLANB ยังคงเป็น Top pick กลุ่มมีเดีย มองว่า PLANB ยังได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งและเศรษฐกิจไทยที่เติบโตดี เป็นหนึ่งใน Domestic play ที่เติบโตโดดเด่น

 

- AMATA (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า Consensus 27.5 บาท คาดกำไร Q4/61 ออกมาดี จากยอดขายและยอดโอนที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ขณะที่ กกต.ประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ นิคมฯ และ ค้าปลีก