WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET80ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตอบรับผ่อนคลายสงครามการค้า-Fund Flow เข้าต่อเนื่อง-เลือกตั้งชัดเจนขึ้น
 
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะเคลื่อนไหวไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1,590 จุด จากรายงานข่าวสหรัฐกำลังหารือกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ทำให้ภาพสงครามการค้ามีแนวโน้มคลี่คลาย
 
นอกจากนี้กระแสเงินทุนยังคงมีทิศทางไหลเข้า จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าสุดในรอบประมาณ 9 เดือน ขณะที่ภาพการเลือกตั้งในประเทศมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่เมื่อวานนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ส่งสัญญาณว่าวันที่ 24 มี.ค.เหมาะสมที่สุดในการจัดการเลือกตั้ง ทำให้คาดว่าการเลือกตั้งจะมีความชัดเจนมากขึ้นภายในสิ้นเดือนม.ค.นี้  ก็อาจจะเป็นแรงหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องมากขึ้นด้วย
 
ส่วนการประกาศผลประกอบการปี 61 ของกลุ่มแบงก์ที่ออกมา ล่าสุด SCB รายงานกำไรสุทธิลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้น ก็อาจจะกดดันต่อ Sentiment การลงทุนกลุ่มแบงก์บ้าง แต่ภาพรวมราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ก็ปรับตัวลดลงมาพอควรก่อนหน้านี้ ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ในปีนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น จากแรงกดดันลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล ทำให้ภาพการลงทุนกลุ่มแบงก์น่าจะเป็นลักษณะ Selective Buy
 
พร้อมให้แนวรับที่บริเวณ 1,575 จุด และแนวต้านที่ 1,590 และ 1,600 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ม.ค.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,370.10 จุด เพิ่มขึ้น 162.94 จุด (+0.67%) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,084.46 จุด เพิ่มขึ้น 49.77 จุด (+0.71%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,635.96 จุด เพิ่มขึ้น 19.86 จุด (+0.76%)
 
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 70.54 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 8.10 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 237.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 7.76 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.37 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.99 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.89 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 4.91 จุด
 
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ม.ค.62) 1,580.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด (+0.18%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 526.16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ม.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ม.ค.62) ปิดที่ 52.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.5%
 
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ม.ค.62) ที่ 2.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.70 ทรงตัวจากวานนี้ หลายปัจจัยยังไร้ความชัดเจน มองกรอบวันนี้ 31.65-31.80
- โบรกเกอร์ ฟันธงเงินต่างชาติไหลกลับหุ้นไทย "ทรีนีตี้" ประเมิน ปีนี้ซื้อสุทธิ 1.4 แสนล้านบาท หรือราวครึ่งหนึ่ง ของที่ขายออกไปในปีก่อน ชี้แค่ 6 วันทำการซื้อสุทธิแล้วกว่า 8 พันล้านบาท "ไพบูลย์" ชี้อานิสงส์เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยดึงเงินไหลกลับตลาดเกิดใหม่
 
- ปลัดพลังงานยันชงวาระแผนพีดีพีฉบับใหม่และต่ออายุโรงไฟฟ้าเอสพีพีให้ กพช.ชี้ขาด 24 ม.ค.นี้ แม้ว่าไร้ข้อสรุปรายละเอียด พร้อมสั่งสนพ.ทำความเข้าใจ ส.อ.ท. เกี่ยวกับการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนในแผนพีดีพี
 
- กรมประมงปลื้ม ไทยส่งออกมากขึ้นหลังอียูปลดใบเหลือง พร้อมเปิดทางรัฐบาลใหม่ยกระดับ พ.ร.ก.ประมงเป็น พ.ร.บ.ประมง ชี้กฎเข้มงวดเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มโทษอาญาแค่โทษแพ่งก็หนักพอ เร่งตั้งกองทุนช่วยเหลือชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ
 
- เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) ระบุว่า จากการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์และผู้นำภาคธุรกิจ (CEO)ทั่วโลก วิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย บางกลุ่มเชื่อว่าจะเริ่มตั้งแต่ปลายปีนี้ หรือในปี 63 ดังนั้นการสร้างการลงทุนในประเทศโดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะมาชดเชยปัจจัยจากนอกประเทศที่จะมากระทบเศรษฐกิจไทยในอนาคต และเชื่อว่าไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศการพัฒนาอีอีซี ก็จะยังคงเดินหน้าต่อเนื่องจากเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนประเทศ ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจให้ขยายตัวจากฐานอีก 2% ทำให้ 5 ปีจากนี้เศรษฐกิจไทยจะโตมากกว่า 5%
 
- อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวในงานสัมมนา "เศรษฐกิจไทยกับการเลือกตั้ง" ประเมินว่า จะมีเงินจากการเลือกตั้งเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 50,000 ล้านบาท สามารถช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยในปี 62 ขยายตัวได้ 0.3% เนื่องจากผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้จ่ายเงินในระหว่างการหาเสียง จนทำให้การบริโภคระดับครัวเรือนขยายตัวทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น
 
- คนร.เบรก ขสมก.ขึ้นราคา 21 ม.ค. เพื่อลดภาระค่าครองชีพ โดย ขสมก.จะปรับเฉพาะรถใหม่ NGV และรถร่วมฯ ขึ้น 2 บาทตามเดิม พร้อมเร่งรัด รฟท.ส่งแผนรถไฟทางคู่เฟส 2 และตั้ง บ.ลูกเดินรถสีแดง รมว.คมนาคม เรียกประชุมขนส่งฯ นัดพิเศษให้ชะลอปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์
 
- "วิษณุ"เอ่ยปากแล้ว 24 มี.ค.เหมาะเลือกตั้งที่สุด ไม่กระทบช่วงงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คาด พ.ร.ฎ.เลือกตั้งประกาศสัปดาห์หน้า ซัด"สมชัย"อย่าจินตนาการตีตนไปก่อนไข้ว่าเลือกตั้งจะโมฆะ เกรงอาจมีปัญหาหากรับรอง ส.ส.เข้าสภาก่อน สอยทีหลัง
 
*หุ้นเด่นวันนี้
- SCB (หยวนต้าฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 155 บาท แม้มองราคาหุ้นวันนี้จะตอบรับเชิงลบต่อกำไร 4Q61 ที่ออกมาต่ำคาด แต่ยังแนะ"ซื้อ"จากแนวโน้มกำไรปีนี้ที่ฟื้นตัวจากการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจใหม่ รวมถึงประมาณการอาจมี Upside หากการบริหารค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าคาด และระยะยาวผลบวกจาก SCB Transformation ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกมาก ขณะที่มีมุมมอง"เป็นลบ"ต่อกำไรใน 4Q61 จากเหตุผล 1) กำไร 4Q61 ต่ำคาด จากการตั้งสำรองสูงกว่าคาด 2) ตั้งเป้ารุกสินเชื่อรายย่อยผลตอบแทนสูง และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อชดเชยผลกระทบจาก Non-NII ที่ยังอ่อนแอ 3) ปรับประมาณการกำไรปี 62-63 ลดลง 8.6% และ 6.1% ตามลำดับ
 
- SYNEX (เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 17 บาท ประเมินกำไร 4Q61 ยังขยายตัว +10%QoQ ,+11%YoY ตามยอดขายที่เข้าสู่ช่วง High season และการเปิดตัวสินค้าใหม่โดยเฉพาะ Huawei และ Samsung ที่เป็นสัดส่วนหลักมีกระแสตอบรับที่ดี หนุนทั้งปี 2561 มีกำไรสุทธิ 720 ล้านบาท +16%YoY  โดยยังมีมุมมองบวกต่อภาพข้างหน้าที่อุตสาหกรรมสินค้า IT ยังขยายตัวได้อีกหลายปี ประเมินกำไรปี 2562 ขยายตัว +17%YoY
 
- BAY (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ"ราคาเหมาะสมที่ 44.60 บาท โดยรายงานกำไร 4Q61 ใกล้เคียงกับที่คาดที่ 6.1 พันล้านบาท -1.7% Q-Q (ค่าใช้จ่ายสำรองฯและค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพิ่มขึ้น) แต่ +7.6% Y-Y (จากรายได้หลักที่เพิ่มขึ้น) กำไรปี 2561 อยู่ที่ 2.48 หมื่นล้านบาท +6.9% Y-Y เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดีขึ้น คงคาดการณ์กำไรปี 2562 ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท +1.1% Y-Y ยังไม่รวมกำไรจากการขายบริษัทเงินติดล้อใน 1Q62 ซึ่งในเบื้องต้นคาดการณ์ว่าบันทึกกำไรจากการขายหลังหักภาษีทีราว 2-4 พันล้านบาท (อิงราคาขายที่ PBV 3-5 เท่า)
--อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!