WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET25ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตปท. รับผลแอปเปิลถูกลดประมาณการยอดขาย ,หวั่นเลื่อนเลือกตั้งในปท.กระทบ Sentiment ตลาด
 
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างก็ปรับตัวลงกันทั่วหน้า นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น และตลาดไต้หวัน เช่นเดียวกับดาวโจนส์ที่ปรับตัวลงไป เนื่องจากทาง"โกลด์แมน แซคส์"ได้ปรับลดประมาณการยอดขายของ บริษัท แอปเปิล อิงค์ ทำให้หุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 10% เมื่อวานนี้ จึงไปดึงให้ดาวโจนส์ และ Nasdaq ปรับตัวลงมาก
 
ส่วนตลาดบ้านเราคาดว่าจะปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอยู่ ทำให้น่าจะไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีได้บ้าง ส่วนกระแสข่าวการเลื่อนการเลือกตั้งในประเทศไปเป็นวันที่ 24 มี.ค.นั้น ทำให้ Sentiment เสียไปบ้างอาจเกิดแรงขายบ้าง
 
สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ก็ทำให้ Sentiment ลบเล็กน้อยเพราะทำให้ต้นทุนของแบงก์เพิ่มแต่ก็ไม่มาก
 
พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,565 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 ม.ค.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,686.22 จุด ร่วงลง 660.02 จุด (-2.83%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,447.89 จุด ลดลง 62.14 จุด (-2.48%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,463.50 จุด ดิ่งลง 202.43 จุด (-3.04%)
 
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 359.64 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 18.34 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 118.24 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 65.18 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.30 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 18.86 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.25 จุด
 
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ม.ค.62) 1,560.03 จุด ลดลง 5.91 จุด (-0.38%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,966.92 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ม.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 ม.ค.62) ปิดที่ 47.09 ดอลลาร์/บาร์เรล  เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.2%
 
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ม.ค.62) ที่ 3.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทแข็งค่าแตะ 32.00 จากเปิดที่ 32.18 หลังดอลล์อ่อนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซบเซา
- "วิษณุ" แจงกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โยน กกต.ตัดสินใจเลื่อนวันเลือกตั้ง ระบุหากกาบัตร 24 ก.พ.รับรองส.ส. 24 เม.ย. ติดงานพระราชพิธี ชี้เร็วสุด 17 มี.ค. ช้าสุด 7 เม.ย. คาด 24 มี.ค.เหมาะสมที่สุด ด้าน 7 กกต.นัดประชุมด่วนวันนี้ กำหนดวันเลือกตั้ง
 
- "พาณิชย์"มั่นใจเปลี่ยนรัฐบาลไม่ทำประชุมอาเซียนสะดุด ชู 12 ประเด็นเศรษฐกิจ ปิดรอบเจรจาอาร์เซป ชี้ไทย ได้ประโยชน์จากตลาดการค้าเกือบ 30% ของโลก เตรียมจัดเวทีใหญ่อาเซียนซัมมิต มิ.ย.นี้ ด้านสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)-เอกชนมองบทบาทไทยเป็น ประธานอาเซียนหนุนมาตรฐานสินค้า หนุน 4 วาระเศรษฐกิจ
 
- กบง.เตรียมดันร่างแผนพีดีพีเสนอ กพช. 7 ม.ค.นี้ แม้จะมีผู้คัดค้าน เตรียมข้อมูลชี้แจงผู้ที่เห็นต่างแล้ว "กุลิศ" พร้อมตั้งทีมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการโดยเฉพาะ โซลาร์รูฟท็อป และไฟฟ้าจากขยะ
 
- "สมคิด" ประชุม คจร.รับทราบแนวคิดแผนแม่บทรถไฟฟ้า ระยะ 2 ดันรถไฟฟ้าสีน้ำตาล สร้างพร้อมทางด่วน N2 เปิดปี 67 พ่วงมาตรการจูงใจเอกชนร่วมงดใช้รถยนต์ส่วนตัว เล็งเพิ่มค่าจอดรถใจกลางเมือง-เพิ่มอัตราภาษีรถยนต์
 
- "เอสซีบี" นำตลาด ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 0.25% สำหรับบัญชีฝากประจำไม่เกิน 5 ล้านทุกประเภท มีผลทันที 4 ม.ค. ด้าน "กสิกรไทย" โดดตาม แต่มีผลวันที่ 5 ม.ค. ดันดอกเบี้ยฝากทั้ง 2 แบงก์สูงสุดของระบบที่ 1.15-1.85% จับตา แบงก์อื่นๆขยับตาม กันลูกค้าโยกเงินหนี
 
*หุ้นเด่นวันนี้
- BGRIM (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 39 บาท เช้านี้มีข่าว GLOW เสนอ SPP1 ให้ BGRIM ชงเรื่องเข้าบอร์ดสัปดาห์หน้า ประเด็นการต่ออายุโรงไฟฟ้า SPP ซึ่ง Overhang ราคาหุ้นคาดคลี่คลายได้ในต้นปี 2562 หลัง กพช. ประกาศให้ต่ออายุอย่างเป็นทางการ ด้านผลการดำเนินงาน คาดกำไรปกติ Q4/61 อยู่ที่ 388 ล้านบาท -8% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล +7% YoY จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นราว 252MW (+26% YoY) ซึ่งชดเชย GPM ที่ลดลงราว 320bps YoY จากค่า Ft ที่ถูกตรึงสวนทางกับต้นทุนค่าก๊าซที่เพิ่มขึ้นและทำให้ผลประกอบการทั้งปี 2561 คาดยังอยู่ในกรอบประมาณการกำไรปกติที่ 1.9 พันล้านบาท ทั้งนี้ยังคงประมาณการปี 2562 กำไรปกติที่ 3.2 พันล้านบาท เติบโตโดดเด่น +70% YoY หนุนโดยกำลังผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีกราว 466 MW (+40% YoY) และรับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการที่ COD ในปี 2561
 
- BEM (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 11.5 บาท ยังมั่นใจได้ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนอีก 37 ปี เพิ่ม Valuation ให้ BEM 2.9 บาทต่อหุ้น อีกทั้งยังปลดล็อก Overhang ของสัญญาสัมปทานเดิมที่จะหมดอายุในปี 2563
 
- SCC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 480 บาท แนวโน้มกำไร Q4/61 น่าจะฟื้น Q-Q เพราะต้นทุนแนฟทาถูกลง และปูนซีเมนต์+วัสดุก่อสร้างในประเทศฟื้นตัว ส่วนกำไรทั้งปี 2561 จะชะลอ 11% Y-Y ก่อนจะฟื้น 5% Y-Y ในปีนี้จากแรงหนุนของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ด้านราคาหุ้นกลับมา Outperform SET50 และ NVDR ซื้อเพิ่มเดือนที่ 3 ติดต่อกันอยู่ที่ 86.30 ล้านหุ้น หลังจากที่ขายจนทำจุดต่ำสุดใน ต.ค. 61 ที่ 82.66 ล้านหุ้น ขณะที่ปันผลเฉพาะ H2/61 คาดให้ผลตอบแทน 2.4%
 
-อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!