- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 02 January 2019 13:21
- Hits: 4052
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นตัวขึ้น แต่วอลุ่มเทรดยังบาง เล็งแรงหนุนจากปัจจัยในประเทศ
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ แต่วอลุ่มเทรดคงจะยังบางอยู่ เนื่องจากยังมีบางตลาดในภูมิภาคเอเชียยังปิดทำการอยู่ แต่ความกังวลปัจจัยนอกประเทศตลาดฯได้รับรู้ไปเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ตลาดฯมีปัจจัยบวกจากภายในประเทศ ทั้งเรื่องการเลือกตั้งที่ชัดเจนขึ้น และจะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งก็น่าจะทำให้มีเม็ดเงินสะพัด ซึ่งน่าจะกระตุ้นกลุ่มสื่อ และการท่องเที่ยวให้ดีขึ้นได้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันฟิวเจอร์ส และดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส เช้านี้ต่างก็บวกได้เล็กน้อย ซึ่งก็น่าจะมาช่วยหนุนตลาดฯได้ด้วย ส่วนแรงขายจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) น่าจะเกิดขึ้นได้น้อย เนื่องจากปีที่แล้วดัชนี SET ได้ปรับตัวลงมา 10.82% จึงไม่น่าจะขาย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยปัจจัยนอกประเทศยังต้องติดตามการแก้ไขเรื่องที่สหรัฐฯปิดหน่วยงานรัฐฯ, การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งก็มีท่าทีดีขึ้น และติดตามทิศทางราคาน้ำมัน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจ
พร้อมให้แนวรับ 1,555 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ (1 ม.ค.62) เนื่องในวันปีใหม่
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.98 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 21.26 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 2.14 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.51 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.23 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.93 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 30.55 จุด
ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันปีใหม่
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ธ.ค.61) 1,563.88 จุด เพิ่มขึ้น 15.51 จุด (+1.00%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,527.07 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.61
- ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการ (1 ม.ค.62) เนื่องในวันปีใหม่
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ ปิดทำการ (1 ม.ค.62) เนื่องในวันปีใหม่
- เงินบาทเปิด 32.39 แข็งค่าตามภูมิภาคจากปิดสิ้นปี 61 หลังดอลล์อ่อนจากแรงขายทำกำไร-จับตาตัวเลขเงินเฟ้อของไทย
- สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 4-6 พ.ค. ตามพระราชประเพณี เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลของประเทศชาติและราชอาณาจักร ให้เป็นที่ชื่นชมยินดีของประชาชนผู้มีความหวังตั้งใจอยู่ทั่วกัน
- เข้าสู่ปี 2562 ปีที่ทุกคนเฝ้ารอ หลังรัฐบาล คสช.ที่บริหารประเทศมาได้ประกาศที่จะให้เกิดการเลือกตั้งขึ้นมาแน่นอน จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เริ่มมั่นใจถึงบรรยากาศทางการเมืองที่มีความชัดเจน และพร้อมขยายการลงทุน ซึ่งจะเป็นจักรกลสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตได้
- กูรูตลาดทุนส่องดัชนีหุ้นไทยปี 62 มั่นใจไปต่อ หลังประเมินปัจจัยต่างประเทศเริ่มคลี่คลาย "ไพบูลย์" ฟันธงเศรษฐกิจไทยยังโตดี ลงทุนรัฐเอกชนหนุน ดันดัชนีพุ่งแตะ 1,850 จุด ขณะ "ไทยพาณิชย์" มองยาวมีลุ้น 2,000 จุด ด้าน "ทรีนีตี้" ให้เป้าเพียง 1,764 จุด ประเมินยังมีปัจจัยลบทั้งสงครามการค้า เศรษฐกิจโลกชะลอ
- "คมนาคม" เดินหน้าประมูลบิ๊กโปรเจกต์ ดันล็อตแรก ประเดิมต้นปี ไตรมาส 1/62 วงเงินกว่า 3.9 แสนล้านบาท รับเหมายังมีงานแน่นๆ ต่อเนื่อง ด้าน "ผู้ว่าฯ รฟท." เร่งทีโออาร์ ระบบอาณัติสัญญาณทางคู่เฟสแรก 1.1 หมื่นล้านบาท ก่อสร้างทางคู่ "เด่นชัยเชียงราย" 7.2 หมื่นล้านบาท และรถไฟไทย-จีน อีก 12 สัญญา ขณะที่กรมทางหลวง จ่อขายซอง "ทางยกระดับพระราม 2" กว่า 1 หมื่นล้านบาท
- ธปท.ห่วงสินเชื่อรถยนต์ ชี้ภาระหนี้ผู้กู้พุ่งต่อเนื่อง หลังนำรถไป จำนำทะเบียนต่อขอท็อปอัพ เพื่อไปใช้จ่าย อุปโภคและต่อยอดธุรกิจ แถมตลาด ยังแข่งขันร้อนแรง เอื้อปล่อยกู้ได้ง่าย เตรียมส่งสัญญาณเตือนแบงก์-นอนแบงก์เข้มงวดปล่อยกู้มากขึ้น ไม่สร้างภาระหนี้เกินตัว หวั่นส่งผลให้หนี้เสียครัวเรือนปูด
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL (กสิกรไทย) "ซื้อ" เป้าหมายที่ 82 บาท ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-2563 ที่ -2.2 ถึง +1.6% เพื่อสะท้อนกำไรสุทธิไตรมาส 3/2561 ที่แข็งแกร่งและการปรับประมาณการกำไรสุทธิของ MAKRO โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ CPALL จะเติบโตขึ้น 4.2-14.3% ในปี 2561-2563 หรือมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ช่วง 3 ปีที่ 10% แม้คาดว่าผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับบุหรี่จะบรรเทาลงในไตรมาส 4/2561 แต่คาดอัตราเติบโตเฉลี่ยของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในเชิง QTD ของ CPALL จะยังอยู่ในแนวบวกหนุนจากการตอบรับที่ดีจากลูกค้าของแคมเปญแสตมป์
- STEC (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเก็งกำไร" เป้า 29 บาท กำไร Q4/61 จะยังเด่น 327 ล้านบาท รวมปี 2561 คาดจะกำไรสุทธิจะฟื้นตัวเด่น 1,306 ล้านบาท ดีขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 611 ล้านบาท ปี 2561 STEC ได้งานใหม่แล้ว 3 หมื่นล้านบาท ปี 2562 ตั้งเป้าหมายจะได้งานใหม่ 35,000 ล้านบาท เสริม Backlog ปัจจุบันที่สูง 1.13 แสนล้านบาท คาดกำไรปี 2562 จะโตสูงต่อ 1,689 ล้านบาท (+29%YoY) ราคาหุ้นทรุดลงมามากไป สวนกับแนวโน้มกำไรจะโตเด่น
- THANI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10 บาท คาดกำไรสุทธิ Q4/61 ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เพราะเป็น High Season ของสินเชื่อและค่าใช้จ่ายสำรองที่ลดลง ส่วนกำไรทั้ง 2561 คาดที่ 1.63 พันล้านบาท (+44.8%Y-Y) และคาดโตต่อเนื่องอีก 10% Y-Y อยู่ที่ 1.78 พันล้านบาท ในปี 2562 อีกทั้งเป็นหุ้นเข้า FTSE SET Mid-Cap Index ที่ราคา Underperform มากสุดใน ธ.ค. 61 โดย -14% MTD ขณะที่หุ้นตัวอื่นที่เข้าคำนวณใหม่เหมือนกัน -5% MTD
-อินโฟเควสท์
