- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 22 November 2018 10:32
- Hits: 5237
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นตัวในกรอบแคบหลังตัวเลขส่งออกไทยดีขึ้น-คาดหวังมาตรการกระตุ้นศก.
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะฟื้นตัวในกรอบแคบ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็บวกขึ้นได้เล็กน้อย โดยบรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่ตัวเลขส่งออกของไทยดีขึ้น และยังมีความคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมลุ้นมาตรการช็อปช่วยชาติได้อีก
นอกจากนี้ ตลาดต่างประเทศก็ปรับตัวลงหนักมา 2 วันแล้ว ทำให้ Downside มีจำกัด และราคาน้ำมันก็ฟื้นตัวขึ้นได้ด้วย รวมถึงคาดว่าจะมีแรงซื้อจากเม็ดเงิน LTF เข้ามาบ้างในวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้มีแรงซื้อเข้ามาบางส่วนแล้ว
อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่จะต้องติดตามอยู่ที่ช่วงปลายเดือนนี้ ในการประชุม G20 ซึ่งให้จับตาการเจรจาการค้านอกรอบระหว่างสหรัฐฯ และจีน
พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 พ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,464.69 จุด ลดลง 0.95 จุด (-0.00%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,649.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.04 จุด (+0.30%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,972.25 จุด เพิ่มขึ้น 63.43 จุด (+0.92%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 167.92 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.39 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 14.15 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 27.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.46 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 74.93 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 4.64 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.78 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 พ.ย.61) 1,617.33 จุด เพิ่มขึ้น 5.30 จุด (+0.33%)
- นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 789.23 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 พ.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 พ.ย.61) ปิดที่ 54.63 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 2.25%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 พ.ย.61) ที่ 5.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.91 แข็งค่าจากวานนี้ตามภูมิภาค หลังดอลล์อ่อนจากแรงขายทำกำไร
- บอร์ดทอท.มีมติเบรก โครงการก่อสร้างเทอร์มินัล 2 เผย รอคำตอบและความเห็นจาก"ไอเคโอ-อัยการสูงสุด" ชี้ตรงประเด็นที่สุดแล้ว วอนสังคมมองส่วนรวมเป็นหลัก เคารพ 2 หน่วยงานกลาง ส่วนอีก 2 โครงการเดินหน้าชง สศช.อนุมัติสร้างรันเวย์ 3 และส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันตก วงเงินรวมกว่า 2.8 หมื่นล้าน คาดเสนอครม.ไฟเขียวภายใน ธ.ค. "นิตินัย"บอกรอได้ เพื่อให้สังคมไร้ข้อกังขา
- "ศิริ" มั่นใจ 3 มาตรการกระทรวงพลังงานหลักจะดูดซับสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ในเดือน พ.ค.62 จำนวน 4 แสนตันเกือบเกลี้ยงซึ่งจะดันให้ราคา ปาล์มทะลายราคาขยับสู่เป้าหมาย 3.20 บาทต่อ กก.จากขณะนี้ 2.50 บาทต่อ กก. วอนเกษตรกรอย่าเพิ่งรีบขาย กฟผ.จ่อซื้อถึงลานเทและโรงสกัด ธ.ค.นี้
- "สมคิด" เร่งรัดรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนในช่วง 2 เดือนสุดท้ายปีนี้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้าย มั่นใจปี 61 จีดีพี โตได้ 4% หลังส่งออก ต.ค. ฟื้นตัวโต 8.7% "อุตตม" มั่นใจปี 62 ได้ไปต่อแน่ หลังเลือกตั้ง และอีอีซี เดินตามโรดแมปที่วางไว้ชัดเจนดึงเชื่อมั่น นักลงทุน ลั่นแม้มีความเสี่ยงสงครามการค้า แต่พื้นฐานการเงิน การคลังแข็งแกร่ง พร้อมใช้ศักยภาพประธานอาเซียนผนึกกำลังดัน "อีอีซี" พลิกโฉมอาเซียนเชื่อมเวทีโลก
- พาณิชย์มั่นใจส่งออกปีนี้โตตามเป้า 8% เร่ง 2 เดือนสุดท้าย ตั้งทีมเฉพาะกิจเกาะติดปัจจัยลบปีหน้า
- กรุงไทยคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โตไม่เกิน 4.5% มั่นใจในเชิงคุณภาพยังขยายตัวดี เดือน ธ.ค.นี้ ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
*หุ้นเด่นวันนี้
- SAT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 26 บาท ราคาหุ้นร่วงรับข่าวผู้บริหารนิสสันและมิตซูบิชิถูกจับมากเกินไป แม้ SAT จะผลิตชิ้นส่วนให้มิตซูบิชิ 35% และนิสสัน 3% ของรายได้รวม แต่รุ่นที่ผลิตคือ Triton และ Eco Car ซึ่งเป็นรุ่นขายดี และมีอายุสัญญาถึงปี 2565 ระยะสั้นจึงไม่กระทบต่อผลประกอบการของ SAT พร้อมคาดกำไรปกติ Q4/61 ที่ 229 ลบ. +17% Y-Y ส่วนทั้งปีนี้ +20% Y-Y เป็น 873 ลบ. และปีหน้า +6% Y-Y เป็น 926 ลบ. ด้าน PE ตอนนี้ 8 เท่า เป็นกรอบล่างของ PE Band ในรอบ 10 ปี และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตัวเองและกลุ่มที่ 12 เท่า
- BDMS (เอเชีย เวลท์) "ซื้อ"เป้า 30 บาท ลงนาม MOU กับ Ping An Good Doctor ผู้ให้บริการ Online Healthcare Platform รายใหญ่ในจีน มีฐานสมาชิกในเครือข่ายใหญ่ถึง 228 ล้านราย และมีผู้ใช้บริการแบบ Active รายเดือนที่ 48.6 ล้านคน เพิ่มโอกาสแก่ BDMS อีกมากในการขยายลูกค้าชาวจีน เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ Q4/61 ที่ 2.4 พันล้านบาท ลดลง 16% QoQ ตามผลของฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้น 19% YoY หนุนโดยจำนวนผู้ป่วยสูงขึ้น ส่วนหนึ่งจากเปิดโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง และค่ารักษาตามความซับซ้อนโรคที่สูงขึ้นจากการอัพเกรดโรงพยาบาลแม่ข่ายให้เป็น Center of Excellence ประมาณการ Normalized EPS โต 24.6% ในปี 2561 และ 11.2% ในปี 2562
- SAWAD (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 55 บาท วันนี้มี Analyst meeting คาดตลาดจะทยอยปรับประมาณการณ์กำไรและราคาเป้าหมายขึ้นหลังจากที่ผลประกอบการ Q3/61 เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นและดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ จากแรงหนุนของยอดสินเชื่อที่ยังเติบโต และ NPLs ลดลง
--อินโฟเควสท์