WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET บวกต่อ เก็งเฟดคงดอกเบี้ย พร้อมตามประเด็นภาษีจาก ก.คลัง แนะ Wait&See หรือซื้อเมื่ออ่อนตัว

      โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยแกว่งตัวบวก ลุ้นผลประชุมเฟดวันสุดท้าย หลังวันนี้บวกรับกระแสเฟดอาจไม่ขึ้นดอกเบี้ย ส่วนใน ปท.ยังต้องตามนโยบายการคลัง โดยเฉพาะเรื่องภาษี  - พ.ร.บ.งบปี 58 แนะชะลอการลงทุน (Wait&See) หรือรอซื้อเมื่อดัชนีฯ อ่อนตัว ประเมินแนวรับ 1,570-1,553 จุด แนวต้าน 1575-1,585 จุด 

     นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า วันนี้ดัชนีฯ หุ้นไทยสามารรีบาวน์กลับได้ หลังจากวานนี้ปรับตัวร่วงลงแรงกว่า 10 จุด เนื่องจากเป็นแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ที่มีลักษณะการลงทุนเน้นเก็งกำไร  อีกทั้ง นักลงทุนต่างคาดการณ์ถึงผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าเฟดจะยังไม่ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไวกว่าคาด เพราะว่าถึงแม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะเป็นจังหวะปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ จีนได้กระตุ้นด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ ด้วยการปล่อยเงินกู้ระยะสั้น 3 เดือนให้แก่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง เป็นวงเงิน 5 แสนล้านหยวน

     สำหรับ วันพรุ่งนี้ คาดว่าหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวในแดนบวกต่อ โดยให้จับตาดูข้อสรุปผลการประชุมเฟดในคืนนี้ หากเฟดไม่ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ก็จะคลายแรงกดดันต่อภาพบรรยากาศการลงทุนได้พอสมควร

    ส่วนในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงินคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2% และคาดว่าน่าจะคงที่ระดับนี้จนถึงสิ้นปีหรืออาจจะถึงกลางปีหน้า และให้ติดตามความชัดเจนต่อนโยบายการคลัง ในเรื่องการบริหารจัดการของกระทรวงการคลัง ต่อการจัดเก็บรายได้ หลังจากช่วงครึ่งปีแรกมีปัญหาทางการเมือง จนไม่สามารถจัดเก็บได้ตามเป้า ซึ่งต้องติดตามถึงข้อสรุปในเรื่องการจัดเก็บภาษีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษีมรดก ภาษีที่ดิน ตลอดจนการไม่ต่ออายุลดหย่อนภาษีในกองทุนรวม LTF

    ด้านกลยุทธ์ แนะชะลอการลงทุน (Wait&See) เพื่อรอดูข้อสรุปการประชุมเฟด และในช่วงสั้นนี้ หากดัชนีฯ สามารถไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้านหลัก 1,590-1,600 จุด ให้ระมัดระวังการปรับฐานมากขึ้น โดยประเมินแนวรับ 1,570-1,565 จุด แนวต้าน 1580-1,585 จุด

     นายธวัชชัย อัศวพรไชย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ดัชนีปรับตัวขึ้นสูง หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อคืนที่ผ่านมายังไม่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศยังออกมาเป็นที่น่าพอใจ ประกอบกับภาพรวมตลาดหุ้นภูมิภาคก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตามที่ทางธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบวงเงิน 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 5 แสนล้านหยวนเข้าไปยังธนาคารรายใหญ่ของรัฐบาลจำนวน 5 รายของจีน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

   ส่วนปัจจัยภายในประเทศที่คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่เร่งปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ ถึงแม้ว่าดัชนีฯจะเคลื่อนไหวในแดนบวกแตะที่ระดับ 1,575 จุด แต่ก็ลงมากพอสมควรแตะที่แนวรับเดิมที่ 1,562-1,560 จุด ตามแรงขายหลังตอบรับประเด็นบวกในช่วงเช้าที่ผ่านมา

    สำหรับ แนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด เพราะตลาดฯ ยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ มีแต่ปัจจัยที่ต้องติดตามกับผลการประชุมเฟดอีก 1 วัน ว่าตลาดหุ้นต่างประเทศจะตอบรับในเชิงบวกเช่นเดียวกับวันนี้หรือไม่ อีกทั้งนักลงทุนยังคาดหวังต่อปัจจัยการเมืองภายในประเทศ ทั้งการประกาศเลิกกฎอัยการศึก และการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายรอความคืบหน้าการอนุมัติโครงการต่างๆ รวมถึงการผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 58 ที่อยู่ในขั้นตอนรอนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ซึ่งร่างดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ประมาณเดือนหน้า และจะทำให้ตลาดฯ มีประเด็นสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรมากกว่าช่วงนี้ได้

   ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ซื้อเมื่อดัชนีฯ อ่อนตัวลง และขายทำกำไรเมื่อดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับที่ 1,560-1,553 จุด และแนวต้านที่ 1,575-1,585 จุด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!