- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 03 September 2018 12:05
- Hits: 2394
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงย่อลง เล็งวอลุ่มเทรดบาง หลังสหรัฐฯ-แคนาดาไม่ได้ข้อสรุปทางการค้า
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ อิงไปในทางย่อตัวลง คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบเล็กน้อย ภายหลังจากที่สหรัฐฯ และแคนาดา ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องนโยบายการค้าระหว่างกัน และจะมีการเจรจาใหม่ในวันพุธนี้
นอกจากนี้ คาดว่าวอลุ่มเทรดของตลาดฯน่าจะเบาบางต่อเนื่องต่ำกว่าระดับ 50,000 ล้านบาท/วัน เนื่องจากวันนี้ (3 ก.ย.) ตลาดสหรัฐฯก็ปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน ทำให้ไม่มีทิศทางตลาดสหรัฐฯชี้นำ อย่างไรก็ดียังต้องติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,714-1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (31 ส.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,964.82 จุด ลดลง 22.10 จุด (-0.09%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,109.54 จุด เพิ่มขึ้น 21.17 จุด (+0.26%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,901.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.39 จุด (+0.01%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 45.98 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.85 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 79.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 23.92 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.51 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.40 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 23.29 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 6.95 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 ส.ค.61) 1,721.58 จุด เพิ่มขึ้น 1.15 จุด (+0.07%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 746.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ส.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 ส.ค.61) ปิดที่ 69.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 45 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 ส.ค.61) ที่ 5.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.79 มองกรอบวันนี้ 32.70-32.85 ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของไทย
- การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 5 ก.ย.นี้ซึ่งมีนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงานเป็นประธาน จะมีการพิจารณาอนุมัติขยายกรอบวงเงินการอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เพิ่มเติม หลังจากล่าสุดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีแอลพีจีติดลบเกินกรอบวงเงินเดิมที่ กบง.เคยอนุมัติไว้ 3,000 ล้านบาทเพื่อนำมาตรึงราคาแอลพีจี ภาคครัวเรือนถัง 15 กิโลกรัม (กก.) ไว้ที่ 363 บาท จนถึงสิ้นปีนี้
- อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าขั้นตอนการเปิดประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช ว่า ชธ.ได้ ทำการปิดห้องศึกษาข้อมูล (ดาต้ารูม) เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เอกชนด้านสำรวจและขุดเจาะที่ผ่านคุณสมบัติ เบื้องต้น (พรีคิว) ที่จะเข้าเป็นผู้ดำเนินการหลัก (โอเปอเรเตอร์) ทั้ง 5 ราย รวมทั้งบริษัทที่สนใจร่วมลงทุนกับผู้ที่ ผ่านพรีคิว ได้ทยอยเข้าศึกษาข้อมูลครบถ้วนแล้ว จากนี้แต่ละรายจะได้ไปทำข้อสรุปก่อนยื่นเสนอชื่อเข้าประมูลคือ วันที่ 25 ก.ย. 2561
- "แบงก์ชาติ" โดดคุมสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เตรียมให้ใบอนุญาตเอง หวังคุมผู้ประกอบการ ไม่ให้คิดดอกเบี้ยโหด มีหลักเกณฑ์ดูแลผู้บริโภค เผยปัจจุบันอยู่ระหว่างทำเฮียริ่ง คาดประกาศใช้ได้ภายในสิ้นปีนี้ ยอมรับที่ผ่านมามีผู้ร้องเรียนเข้ามามาก
- ขณะนี้ กสทช.ได้เตรียมความพร้อมในการประมูลคลื่นครั้งต่อไป โดยจะนำคลื่นความถี่ที่ยังเหลืออยู่มาจัดสรรครั้งก่อนนำมาประมูลคือคลื่น 1800 MHz จำนวน 7 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 5 MHz และคลื่น 900 MHz ที่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดยื่นความประสงค์จะเข้าร่วมประมูล ในจำนวน 1 ใบอนุญาตจำนวน 5 MHz โดยกรอบเวลากสทช.อยากให้การประมูลเกิดขึ้นครั้งหน้าในช่วงต้นปี 2562 หรือภายในไตรมาส 1 ปีหน้าให้ได้
*หุ้นเด่นวันนี้
- PLAT (เอเอสแอล) "ซื้อ"เป้า 9.25 บาท รับปัจจัยเศรษฐกิจไทยเติบโต โดย Q2/61 GDP ไทยเติบโต 4.6%YoY ดีกว่าคาด หนุนธุรกิจหลักในส่วนศูนย์การค้าส่งของ PLAT และแนวโน้มผลประกอบการ H2/61 เติบโตต่อเนื่อง หลังการปรับค่าเช่าทำได้ดีต่อเนื่อง ระยะยาวโดดเด่น หลังจากโครงการ The Market ที่จะเปิดให้บริการใน Phase แรก ช่วง Q4/61 ซึ่งปัจจุบันมีการจองพื้นที่และเซ็นสัญญาไปแล้ว 65% พร้อมคาดหมายอัตราการเช่าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 90% เมื่อเปิดให้บริการ
- CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.86 บาท โมเมนตัมการเติบโตของกำไรใน H2/61 ยังคงแข็งแกร่งทั้ง H-H และ Y-Y จากอานิสงส์ของ High Season และฐานปีก่อนที่ยังไม่สูง โดยผู้ป่วยเงินสดยังมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นต่อเนื่องและเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนกำไร พร้อมคาดกำไรปกติทั้งปี 2561 +27.6% Y-Y เป็น 722 ล้านบาท โตโดดเด่นกว่าเฉลี่ยของกลุ่มการแพทย์ที่ราว 16% Y-Y ส่วนปีหน้าคาด +9% Y-Y อยู่ที่ 788 ล้านบาท
- TKN (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 21.5 บาท คาดกำไร H2/61 จะโตทั้ง yoy และ hoh จากการเข้าสู่ช่วง High season, กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากการเริ่มผลิตของโรงงานใหม่ (เฟส3), และได้ประโยชน์จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลง
ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ นักลงทุนจับตาเจรจาการค้าสหรัฐ-แคนาดา
ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับแคนาดาอย่างใกล้ชิด
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,819.17 จุด ลดลง 45.98 จุด, -0.20% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,716.40 จุด ลดลง 8.85 จุด, -0.32% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,809.45 จุด ลดลง 79.10 จุด, -0.28% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 11,087.86 จุด เพิ่มขึ้น 23.92 จุด, +0.22%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,317.93 จุด ลดลง 4.95 จุด, -0.21% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,209.97 จุด ลดลง 3.51 จุด, -0.11% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,821.06 จุด เพิ่มขึ้น 1.40 จุด, +0.08% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,879.00 จุด เพิ่มขึ้น 23.29 จุด, +0.30% ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ที่ 6,025.41 จุด เพิ่มขึ้น 6.95 จุด, +0.12%
นางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของแคนาดา เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า แคนาดายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่กับสหรัฐ
ด้านนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ยังคงปฏิเสธที่จะผ่อนปรนเงื่อนไขของสหรัฐ แม้ว่านางฟรีแลนด์ได้เสนอที่จะประนีประนอมในการรักษากลไกการแก้ไขข้อพิพาททางการค้าอย่างอิสระภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่
อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายมีกำหนดจัดการเจรจาอีกครั้งในวันพุธนี้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 83.61 จุด วิตกนโยบายการค้าสหรัฐ, เจรจา Brexit ยังไร้ทิศทาง
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ตลอดจนความไม่แน่นอนของการเจรจาในประเด็นที่อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,432.42 จุด ลดลง 83.61 จุด หรือ -1.11%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนของการเจรจาในประเด็นที่อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป EU (Brexit) หลังจากที่นายมิเชล บาร์นิเยร์ ตัวแทนเจรจาฝ่ายสหภาพยุโรป (EU) ในประเด็นการถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) กล่าวว่า ยุโรปจะต้องเตรียมตัวรับมือกรณีที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง
"EU จำเป็นจะต้องรับมือกับทุกสถานการณ์ ซึ่งรวมถึงกรณีที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกัน" เขากล่าว
นายบาร์นิเยร์ยังระบุว่า ประเด็นชายแดนไอร์แลนด์กับไอร์แลนด์เหนือถือเป็นประเด็นที่มีความเปราะบางมากที่สุด
นายบาร์นิเยร์ระบุดังกล่าว หลังจากที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า EU เตรียมเสนอให้อังกฤษได้รับสถานะการเป็นหุ้นส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากการแยกตัวออกจาก EU แต่ EU จะไม่อนุญาตให้มีการดำเนินการใดๆที่จะทำให้ระบบตลาดเดี่ยวของ EU อ่อนแอไป
ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐ โดยเมื่อวานนี้ตัวแทนเจรจาการค้าของแคนาดาได้ออกมายอมรับว่ายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่กับสหรัฐได้ตามกำหนดเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุไว้ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในการเจรจา
ในขณะเดียวกัน ความยัดแข้งระหว่างจีนและสหรัฐก็ยังคงไม่คลี่คลาย หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศหลายแห่งซึ่งรวมถึงสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ต้องการเดินหน้าตามแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าของจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวานนี้อีกว่า จะถอนสหรัฐออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) หากทาง WTO ไม่ปฏิบัติต่อสหรัฐให้ดีกว่านี้ โดยผู้นำสหรัฐมองว่า ประเทศของตนถูก WTO เอาเปรียบมาเป็นเวลาหลายปี
การออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวของผู้นำสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างนโยบายด้านการค้าของทรัมป์ และระบบการค้าที่เปิดกว้างซึ่งทาง WTO ได้ดูแลอยู่
หุ้นแอสตราเซเนกา ผู้ผลิตเภสัชภัณฑ์รายใหญ่ ลดลง 2% และหุ้นเซจ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ร่วลง 7.8%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ นักลงทุนวิตกนโยบายการค้าสหรัฐ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในด้านโยบายการค้าของสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาประกาศเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์จากจีน พร้อมขู่ว่าจะถอนสหรัฐออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 3.10 จุด หรือ -0.80% ปิดที่ 382.26 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,364.06 จุด ลดลง 130.18 จุด หรือ -1.04% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,406.85 จุด ลดลง 71.21 จุด หรือ -1.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,432.42 จุด ลดลง 83.61 จุด หรือ -1.11%
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐ หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศหลายแห่งซึ่งรวมถึงสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ต้องการเดินหน้าตามแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าของจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวานนี้อีกว่า จะถอนสหรัฐออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) หากทาง WTO ไม่ปฏิบัติต่อสหรัฐให้ดีกว่านี้ โดยผู้นำสหรัฐมองว่า ประเทศของตนถูก WTO เอาเปรียบมาเป็นเวลาหลายปี
การออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวของผู้นำสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างนโยบายด้านการค้าของทรัมป์ และระบบการค้าที่เปิดกว้างซึ่งทาง WTO ได้ดูแลอยู่
ในขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาในประเด็นที่อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป EU (Brexit) และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดาซึ่งยังคงหาข้อยุติไม่ได้
หุ้นวิทเบรด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของคอสต้า คอฟฟี่ และพรีเมียร์ อินน์ ทะยานขึ้น 14% หลังโคคาโคล่าประกาศเตรียมเข้าซื้อกิจการร้านกาแฟคอสต้า คอฟฟี่จากบริษัทในมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 22.10 จุด หลังเจรจาการค้าสหรัฐ-แคนาดาคว้าน้ำเหลว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์ (31 ส.ค.) หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดาจบลงโดยที่ยังหาข้อยุติไม่ได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,964.82 จุด ลดลง 22.10 จุด หรือ -0.09% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,109.54 จุด เพิ่มขึ้น 21.17 จุด หรือ +0.26% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,901.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.39 จุด หรือ +0.01%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.7% ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.9% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.1%
สำหรับการซื้อขายตลอดทั้งเดือนส.ค. ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 2.2% ดัชนี S&P เพิ่มขึ้น 3% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.7%
ดัชนีดาวโจนส์พลิกกลับมาปิดตลาดในแดนลบ หลังจากที่ปรับตัวแดนบวกในช่วงแรก เนื่องจากตัวแทนเจรจาการค้าของแคนาดาได้ออกมายอมรับว่ายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่กับสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุไว้ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในการเจรจา
นางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของแคนาดา กล่าวต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า แคนาดายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่กับสหรัฐ
นางฟรีแลนด์กล่าว หลังจากมีข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะไม่ประนีประนอมในการเจรจาการค้ากับแคนาดา
ด้านนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ยังคงปฏิเสธที่จะผ่อนปรนเงื่อนไขของสหรัฐ แม้ว่านางฟรีแลนด์ได้เสนอที่จะประนีประนอมในการรักษากลไกการแก้ไขข้อพิพาททางการค้าอย่างอิสระภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่
อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายมีกำหนดจัดการเจรจาอีกครั้งในวันพุธนี้
หุ้นโคคาโคล่าร่วงลง 0.9% หลังจากที่บริษัทน้ำอัดลมรายใหญ่เปิดเผยว่าจะเข้าซื้อกิจการร้านกาแฟคอสต้า คอฟฟี่ จากบริษัทวิทเบรดในมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ ส่วนหุ้นวิทเบรดทะยานขึ้น 14%
--อินโฟเควสท์
OO13239