WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวนในกรอบแคบ รอผลประชุม FOMC-กนง.

    นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะผันผวนในกรอบแคบ อยู่ในทิศทางที่อ่อนตัวลง โดยนักลงทุนส่วนใหญ่รอผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันนี้และพรุ่งนี้ ว่าจะมีทิศทางของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯมากน้อยเพียงใด รวมถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในสัปดาห์นี้ด้วย

    "เช้านี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับเมื่อวาน ตลาดน่าจะผันผวนในกรอบแคบ อยู่ในทิศทางแดนลบ ส่วนใหญ่ยังรอผลการประชุม FOMC ที่จะมีขึ้นวันนี้เป็นวันแรก และรอผลการประชุม กนง. นักลงทุนจึงมีการเทรดรอ"นายเทิดศักดิ์ กล่าว

พร้อมให้แนวรับ 1,570 จุด แนวต้าน 1,590 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(15 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,031.14 จุด เพิ่มขึ้น 43.63 จุด (+0.26%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,518.90 จุด ลดลง 48.70 จุด(-1.07%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,984.13 จุด ลดลง 1.41 จุด (-0.07%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 52.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.89 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 1.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.10 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.01 จุด

      ด้านตลาดหุ้นฮ่องกงเลื่อนเทรดภาคเช้าวันนี้จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี, ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการเนื่องในวันเฉลิมฉลองการจัดตั้งสหพันธรัฐมาเลเซีย

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(15 ก.ย.) 1,579.12 จุด ลดลง 2.24 จุด(-0.14%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 595.48 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ก.ย.57

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(15 ก.ย.)ที่ 92.92 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 65 เซนต์

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(15 ก.ย.)ที่ 7.21 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 32.25/27 แข็งค่าตามภูมิภาค-รอผลประชุม FOMC

    - คลังเดินหน้าปฏิรูปภาษี พุ่งเป้าภาษีจากคนมีรายได้สูง พร้อมเตรียมปรับ "แวต" ปลายปีหน้า ยอมรับภาษีมรดกทำยาก หนุนเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ด้าน "ฉัตรชัย" เตรียมเรียกผู้ประกอบการถกตรึงราคาสินค้า พร้อมออกมาตรการดูแลข้าวเปลือก แต่ไม่ใช่แทรกแซง

    - "ประยุทธ์"สั่งเร่งลงนามโครงการไตรมาส 1 ปี 2558 ที่มีวงเงินต่ำกว่า 500 ล้าน ก่อน 25 ธ.ค.นี้ หวังกระตุ้นจีดีพีปี 2557 ให้ขยายตัวถึง 2% ด้านกระทรวงคมนาคมโดนตัดงบ 2,100 ล้านบาท

    - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล(Digital Economy)ให้เป็นรูปธรรมภายในระยะเวลา 1 ปี เพื่อเป็นรากฐานให้กับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งเป็นส่วนที่ยากที่สุด แต่เป็นนโยบายที่รัฐบาลจะเร่งผลักดันให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยเริ่มวางรากฐานไว้ก่อน แต่เป็นรากฐานที่รัฐบาลชุดต่อไปจะต้องดำเนินการต่อ

    - สภาธุรกิจตลาดทุน เตรียมเสนอกองทุนลดหย่อนภาษีรูปแบบใหม่แทน"แอลทีเอฟ"โดยเพิ่มสัดส่วนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งพันธบัตรรัฐบาลให้มากขึ้น เชื่อเป็นมาตรการสนับสนุนการออม ด้าน"เกศรา"เล็งเสนอมาตรการภาษีเอื้อการควบรวมกิจการ พร้อมหาแนวทางลดหย่อนภาษีให้นักลงทุนต่างประเทศ เชื่อช่วยเสริมแกร่งตลาดทุนไทย ส่วนมาตรการสกัดหุ้นเก็งกำไรที่มีความถี่สูงยังอยู่ในขั้นศึกษา

    - รมว.คลัง ไม่มั่นใจจีดีพีทั้งปีโต 2% เหตุต่างชาติมองเศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี รัฐบาลหลายประเทศเก็บภาษีไม่ได้ แต่ไตรมาส 4 คาดว่ามีโอกาสโตกว่า 2% เผยการเก็บภาษีมรดกต้องมีการฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างรอบคอบ เช่นเดียวกับการขึ้นแวตตามแผน คสช.จะปรับขึ้นปลายปีงบ 58 ต้องขอดูตัวเลขก่อน

*หุ้นเด่นวันนี้

     - TUF(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 81 บาท ซื้อธุรกิจปาลซาร์ดีนในนอร์เวย์แบรนด์"คิงส์ ออสการ์"เป็นอันดับ 1 ในนอร์เวย์ สหรัฐ และออสเตรเลีย เป็นการขยายตลาดสู่แถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งเป็นตลาดใหม่เพิ่มเติมจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาซื้อ MerAlliance ขยายตลาดไปสู่สก็อตแลนด์และโปแลนด์ คาดว่าดีลนี้ไม่ใหญ่น่าจะใช้เงินลงทุนจากกระแสเงินสดของบริษัทเอง และคาดเพิ่มรายได้ให้ประมาณ 2% แต่ข้อดีคือกิจการที่ไปซื้อมีแบรนด์

    - MC(เคทีบี)"เก็งกำไร"เป้า 23.30 แนวโน้มเชิงบวกจากการเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่องถึงปี 2558 ผนวกกับช่วง 2H57 กำลังเป็นช่วงที่ย่างเข้าสู่ฤดูกาลขาย อีกทั้งยังอยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบ h-o-h

      - WHA(เคทีบี)"เก็งกำไร"เป้า 40.25 กำลังมีแนวโน้มทางบวกในเชิงราคาหุ้น เนื่องจากบริษัทกำลังจะนำเสนอข้อมูล (roadshow) สำหรับกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า หรือ WHART ซึ่งจะเสนอขายในเดือน พ.ย.57 จึงเป็น positive catalyst ต่อราคาหุ้นในปี 2557

     - MINT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 40 บาท เข้าซื้อกิจการธุรกิจกาแฟและร้านอาหารในออสเตรเลีย VGC Food Group Pty Ltd.ทางอ้อมผ่านบริษัทย่อยคือ Delicious Food Holding (Australia) Pty Ltd ซึ่ง MINT ถือหุ้น 99.73% มูลค่าลงทุน 349 ล้านบาท คาดดีลแล้วเสร็จไตรมาส 3/57 เป็นไปตามแผนขยายการลงทุนในต่างประเทศเป็นบวกกับบริษัทเพราะนอกจากจะเพิ่มฐานลูกค้าและรายได้แล้วยังช่วยให้ธุรกิจกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น คาดกำไรสุทธิปี 57 จะขยายตัว 12% (ต่ำกว่าเป้าบริษัทตั้งที่ 15%) ส่วนในปี 58 เติบโตในอัตราที่เร่งตัวขึ้นที่ 23%

     - SIM(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 4.70 บาท SAMART เป็นหนึ่งใน 16 บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอลที่ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการแลกกล่องดิจิตอล SIM จะได้ประโยชน์เช่นกันเนื่องจากเป็นช่องทางการจัดจำหน่าย Set Top Box ของกลุ่ม SAMART คาดว่าจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจัดจำหน่ายหนุนกำไรสุทธิตั้งแต่ 4Q57 เป็นต้นไป พร้อมคาดกำไรสุทธิ 3Q57 โต yoy และ qoq ทำนิวไฮรายไตรมาสอีกครั้ง จากยอดขายมือถือโตตามเศรษฐกิจฟื้น และคาดรับรู้รายได้บางส่วนจากการขายมือถือล็อตใหญ่ให้ Mobile Operator รายหนึ่งใน 3Q57 และ 4Q57 ส่วนราคาหุ้นยัง Laggard

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ ขณะจับตาประชุมเฟด

       ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซิ้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

      ดัชนี MSCI Asia Pacific เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเมื่อเวลา 9.59 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,896.06 จุด ลดลง 52.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,341.03 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,218.85 จุด เพิ่มขึ้น 1.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,039.92 จุด เพิ่มขึ้น 4.10 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,313.48 จุด เพิ่มขึ้น 1.01 จุด

    ตลาดหุ้นฮ่องกงเลื่อนเทรดภาคเช้าวันนี้ จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี ขณะที่ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเฉลิมฉลองการจัดตั้งสหพันธรัฐมาเลเซีย

   ทั้งนี้ นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมเฟด โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับจับตาดูแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 2.75 จุด เหตุวิตกเศรษฐกิจจีน,ยูเครน

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) จากความวิตกเกี่ยวกับสถานความตึงเครียดทางการเมืองในยูเครนและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากจีน

     ดัชนี FTSE 100 ลดลง 2.75 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 6,804.21 จุด

    ความตึงเครียดในยูเครนยังคงถ่วงตลาดหุ้น เนื่องจากการสู้รบยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่ากองกำลังรัฐบาลยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้ทำข้อตกลงหยุดยิงกันแล้ว ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศก็อยู่ในภาวะตกต่ำ โดยรัฐมนตรีคลังของยูเครนคาดว่า เศรษฐกิจยูเครนจะหดตัวลง 6% ในปี 2557 อันเนื่องมาจากภาระทางการเงินของประเทศ ซึ่งกำลังทำสงครามกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครน

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนส.ค.ขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากระดับ 9% ในเดือนก.ค. ซึ่งตอกย้ำว่าเศรษฐกิจจีนกำลังอ่อนแอลง

    หุ้นสปอร์ต ไดเร็ค อินเตอร์เนชันแนล ร่วงลง 3.16% นำขบวนการปรับตัวลงของหุ้นบลูชิพ ขณะที่หุ้นอีซีเจ็ท อ่อนแรงลง 2.51%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกภาคอุตสาหกรรมจีนซบเซา

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลภาคอุตสาหกรรมของจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 343.91 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,428.63 จุด ลดลง 13.07 จุด หรือ -0.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันที่ 6,804.21 จุด ลดลง 2.75 จุด หรือ -0.04% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,659.63 จุด เพิ่มขึ้น 8.50 จุด หรือ +0.09%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนส.ค.ขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากระดับ 9% ในเดือนก.ค.

    หุ้น SABMiller เพิ่มขึ้น 9.8% และหุ้นไฮเนเกนเพิ่มขึ้น 3% หลังจากบริษัทไฮเนเกนปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการของ SABMiller โดยระบุว่าต้องการดำเนินงานอย่างเป็นอิสระ

    หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวลง นำโดยหุ้นฟูโกร เอ็นวี ร่วงลง 2.8% และหุ้น Neste Oil ดิ่งลง 3%

    หุ้นแอร์ ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม กรุ๊ป ซึ่งเป็นสายการบินรายใหญ่ที่สุดของยุโรปลดลง 3.3% เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เหตุการณ์หยุดงานประท้วงของพนักงานบริษัทอาจจะรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2541

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 43.63 จุด ตลาดจับตาการประชุมเฟด

      ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดในแดนลบ ก่อนที่บริษัทอาลีบาบาจะเสนอขายหุ้น IPO ในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ นอกนักลงทุนยังระมัดระวังการซิ้อขายก่อนที่จะทราผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,031.14 จุด เพิ่มขึ้น 43.63 จุด หรือ +0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,984.13 จุด ลดลง 1.41 จุด หรือ -0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,518.90 จุด ลดลง 48.70 จุด หรือ -1.07%

    ทั้งนี้ แม้ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก แต่ดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ปิดตลาดอ่อนแรงลงท่ามกลางภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมเฟด โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับจับตาดูแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยเฟดเปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของสหรัฐหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. นับเป็นอีกสัญญาณบ่งชี้ถึงการขยายตัวที่ยังไม่ต่อเนื่อง

    ดัชนี NASDAQ ปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก่อนที่บริษัทอาลีบาบาจะเสนอขายหุ้น IPO ในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี และจะเริ่มซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กภายใต้สัญลักษณ์ "BABA"

    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลังจากตลาดปิดทำการแล้ว บริษัทอาลีบาบาได้เปิดเผยช่วงราคาหุ้น IPO ที่ระดับ 66-68 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มจากระดับที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ระดับ 60-66 ดอลลาร์

    หุ้นเฟซบุ๊ก หุ้นทวิตเตอร์ และหุ้นทริปแอดไวเซอร์ ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 3.5% เนื่องจากนักลงทุนเทขายก่อนที่บริษัทอาลีบาบาจะเสนอขายหุ้น IPO

  หุ้นไมโครซอฟท์ร่วงลง 1% จากข่าวที่ว่าไมโครซอฟท์ตกลงเข้าซื้อกิจการบริษัท Mojang AB ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟท์และเป็นผู้ผลิตเกมชื่อดังอย่าง Minecraft มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะหนุนธุรกิจเอ็กซ์บอกซ์และโมบาย

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 ก.ย.2557

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,031.14 จุด                       เพิ่มขึ้น 43.63 จุด    +0.26%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,518.90 จุด                   ลดลง 48.70 จุด     -1.07%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,984.13 จุด                     ลดลง 1.41 จุด      -0.07%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,804.21 จุด                  ลดลง 2.75 จุด      -0.04%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,659.63 จุด                           เพิ่มขึ้น 8.50 จุด     +0.09%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,428.63 จุด                       ลดลง 13.07 จุด     -0.29%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,217.46 จุด                         ลดลง 5.72 จุด      -0.06%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,035.82 จุด                      ลดลง 6.04 จุด      -0.30%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,475.40 จุด    ลดลง 56.90 จุด     -1.03%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,473.50 จุด          ลดลง 57.60 จุด     -1.04%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,339.14 จุด                   เพิ่มขึ้น 7.19 จุด     +0.31%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,161.27 จุด           ลดลง 40.61 จุด     -0.56%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,356.99 จุด                             ลดลง 238.33 จุด    -0.97%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,144.90 จุด    เพิ่มขึ้น 1.19 จุด     +0.02%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,847.30 จุด                     ลดลง 8.34 จุด      -0.45%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,312.47 จุด                     ลดลง 33.08 จุด     -0.99%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,816.56 จุด                       ลดลง 244.48 จุด    -0.90%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดในแดนลบ ก่อนที่บริษัทอาลีบาบาจะเสนอขายหุ้น IPO ในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ นอกนักลงทุนยังระมัดระวังการซิ้อขายก่อนที่จะทราผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,031.14 จุด เพิ่มขึ้น 43.63 จุด หรือ +0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,984.13 จุด ลดลง 1.41 จุด หรือ -0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,518.90 จุด ลดลง 48.70 จุด หรือ -1.07%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลภาคอุตสาหกรรมของจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 343.91 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,428.63 จุด ลดลง 13.07 จุด หรือ -0.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันที่ 6,804.21 จุด ลดลง 2.75 จุด หรือ -0.04% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,659.63 จุด เพิ่มขึ้น 8.50 จุด หรือ +0.09%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) จากความวิตกเกี่ยวกับสถานความตึงเครียดทางการเมืองในยูเครนและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากจีน

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 2.75 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 6,804.21 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมของจีน

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 92.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 96.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นวันแรกหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 1,235.1 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.4 เซนต์ ปิดที่ 18.62 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,363.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ ปิดที่ 836.90 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2937 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2948 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6228 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6254 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 107.20 เยน เทียบกับระดับ 107.32 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9355 ฟรังค์ จาก 0.9340 ฟรังค์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9028 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9044 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,173.00 จุด ลดลง 8.00 จุด, -0.68%

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!