- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 06 July 2018 11:26
- Hits: 1822
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นฟื้นตัวหลังร่วงแรง เล็งหนุนจากความคาดหวังสหรัฐฯจะยกเลิกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ หลังจากร่วงแรงวานนี้จากแรงขาย Growth Stock ซึ่งคงจะเป็นลักษณะเทคนิคเคิลรีบาวด์ แต่ปัจจัยหลักยังอยู่ที่ต่างประเทศ จากความคาดหวังว่าสหรัฐฯจะมีการยกเลิกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป แต่สหรัฐฯว่ายุโรปจะต้องลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯก่อน ซึ่งทางนายกฯของเยอรมันก็มีท่าทีจะยอม แต่คงจะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมสหภาพยุโรปก่อน ว่าจะให้มีการลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ หรือไม่
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยวันนี้ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และติดตามการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั้งจากจีน และสหรัฐฯ ในอัตรา 25% ซึ่งมีผลในวันนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,595-1,596 ถัดไป 1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,615-1,620 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 ก.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,356.74 จุด เพิ่มขึ้น 181.92 จุด (+0.75%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,736.61 จุด เพิ่มขึ้น 23.39 จุด (+0.86%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,586.43 จุด เพิ่มขึ้น 83.75 จุด (+1.12%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 100.67 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 72.28 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 33.85 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.89 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 23.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.87 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ก.ค.61) 1,601.42 จุด ลดลง 27.78 จุด (-1.71%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,382.60 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 ก.ค.61) ปิดที่ 72.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 1.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ก.ค.61) ที่ 4.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.23 มองกรอบวันนี้ 33.15-33.30 ตลาดกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน,จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐคืนนี้
- "กกพ." โชว์บริหารค่าไฟปีนี้ตรึงยาว กางแผนใช้เงินสะสม 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งล็อตแรกใช้ 3.9 พันล้านบาทเบรกขึ้นค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค. 61 เพื่อตรึงเอฟทีส่งผลให้ประชาชนจ่ายรวมค่าไฟฐานคงเดิมที่ 3.5966 บาท/หน่วย พร้อมนำเงินที่เหลืออีกกว่า 1.1 หมื่นล้านบาทบริหารงวด ม.ค.-เม.ย.62 ได้ต่อเนื่องหลังแนวโน้มค่าไฟต้นปีหน้าจะขยับขึ้นต่ออีก
- ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์เตรียมเลิกการจัดโปรโมชั่นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เพื่อเตรียมรับต้นทุนการเงินที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยทางอ้อม โดยธนาคารจะยังไม่ขยับดอกเบี้ยเงินกู้ทั่วไปอย่างดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ดอกเบี้ยเงินกู้เบิกเกินบัญชี (เอ็มโออาร์) และดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์)
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่น ผู้บริโภคเดือน มิ.ย. 2561 ว่า อยู่ที่ระดับ 81.3 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ 80.1 ซึ่งถือว่าเป็นค่าดัชนีที่สูงสุดในรอบปี และยังเป็นการปรับขึ้นในทุกรายการ เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มคลายความกังวลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ไปจนถึงสิ้นปี สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวชัดเจนในช่วงปลายปี
- แบงก์ชาติเผยผลประชุมร่วม "คณะกรรมการนโยบายการเงิน" และ "คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน" เห็นพ้องระบบการเงินไทยโดยรวมมีเสถียรภาพ เศรษฐกิจไทยแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของภาคธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่ปรับดีขึ้น ขณะภาคอสังหาริมทรัพย์สินเชื่อ เพื่อที่อยู่อาศัยที่มีความเปราะบางมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นและภาระหนี้ของผู้กู้สูงขึ้น
- รถไฟฯอัดทางคู่เฟส 2 เกือบ 3 แสนล้านชงครม.เปิดประมูลในธ.ค. เริ่มก่อสร้างต้นปี 62 เสร็จ ปี 66 เพิ่มการรองรับผู้โดยสารเพิ่มรายได้ ส่วน 2 สายใหม่ คาดใช้เวลา 2 ปี เวนคืนเล็งก่อสร้างปี 64 "วรวุฒิ" เผยปี 61 รายได้แตะ 9 พันล้าน โอดน้ำมันทำต้นทุนพุ่ง เจรจา ปตท.ทำสัญญาซื้อระยะยาว เพิ่มส่วนลดเป็น 90 สต./ลิตร
- 'กนง.-กนส.' จับตาสินเชื่ออสังหาฯส่อเสี่ยงเพิ่ม หลังพบให้กู้สูงกว่ารายได้และเกิน 90% ของมูลค่า แถมหนี้เสียเพิ่ม ซัพพลายยังสูงทั้งคอนโดฯ ค้าปลีก และออฟฟิศ ห่วงนักลงทุนหากำไรจากสหกรณ์แนะยกระดับดูแลด่วน
*หุ้นเด่นวันนี้
- KCE (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 46 บาท ได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนค่า หนุนรายได้ในรูปค่าเงินบาทเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาทองแดงซึ่งเป็นต้นทุนหลักปรับตัวลงต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิในครึ่งปีหลัง
- PSL (ไอร่า) เป้า 18 บาท แนวโน้ม Q2/61 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ Q1/61 ที่มีกำไรสุทธิ 108 ล้านบาท จากภาคอุตสาหกรรมหนักของจีนที่กลับมาผลิตเป็นปกติ (ช่วงฤดูหนาวถูกปิดบางส่วนจากปัญหาหมอกควัน) โดยล่าสุดค่าเฉลี่ย QTD ของค่าระวางเรือ Handysize และ Supramax ซึ่งเป็นขนาดเรือของ PSL เพิ่มขึ้น 5.3% และ 10.4% QoQ ตามลำดับ โดยระยะกลาง มุมมองด้าน Demand - Supply เข้าสู่สมดุลขึ้นเป็นลำดับ สอดคล้องกับการประเมินของสำนักต่างๆ ที่คาด Supply เรือเทกอง เพิ่มขึ้นเพียงราว 1-2% ในปี 61-62 ขณะที่ Demand เติบโตสัมพันธ์กับเศรษฐกิจโลกที่ราว 4% ขณะที่ระยะยาว ปัจจัยด้านกฏเกณฑ์ ได้แก่ ข้อตกลงการจัดการน้ำถ่วงเรือ และเกณฑ์การจำกัดค่ากำมะถันในเชื้อเพลิง ที่จะบังคับใช้ในปี 62–63 กดดันให้เรืออายุมากปลดระวางเรือเร็วขึ้น
- INTUCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 67.50 บาท เป็นหุ้นที่น่าสนใจในช่วงตลาดขาลง เพราะ Defensive ทั้งตัวธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับต่างประเทศ และในเชิง Valuation ที่ Discount จาก NAV ของ ADVANC ถึง 25% รวมถึงยังมีค่าเบต้าต่ำแค่ 0.67 เท่า และมีปันผลสูงเฉลี่ย 5-6% ต่อปี ด้านราคาหุ้นเกิดสัญญาณ Golden Cross ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันและ 10 วัน ถือเป็นโมเมนตัมเชิงบวกสำหรับการปรับตัวขึ้นต่อในทางเทคนิค
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับดาวโจนส์ปิดพุ่ง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน ขานรับรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าจะยุติการเรียกเก็บภาษีรถยนต์จากยุโรป ขณะที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาสนับสนุนให้สหภาพยุโรป (EU) ปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐเช่นกัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า คณะกรรมการเฟดยังคงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และยังคงเดินหน้าแผนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 21,647.66 จุด เพิ่มขึ้น 100.67 จุด, +0.47% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,731.35 จุด ลดลง 2.53 จุด, -0.09% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,254.37 จุด เพิ่มขึ้น 72.28 จุด, +0.26% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,645.66 จุด เพิ่มขึ้น 33.85 จุด, +0.32% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,261.44 จุด เพิ่มขึ้น 3.89 จุด, +0.17% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,232.96 จุด ลดลง 23.75 จุด, -0.73% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,694.52 จุด เพิ่มขึ้น 3.87 จุด, +0.23%
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยในวันนี้ สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็เตรียมเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐในวงเงินเดียวกันในวันนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่ง และคาดว่า อัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 3.8%
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 30.13 จุด ตลาดคลายกังวลข้อพิพาทภาษีสหรัฐ-ยุโรป
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรปที่ต่างก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ขานรับรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐ และสหภาพยุโรป (EU) มีแนวโน้มที่จะยุติข้อพิพาทเกี่ยวกับภาษีนำเข้ารถยนต์
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,603.22 จุด เพิ่มขึ้น 30.13 จุด หรือ +0.40%
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมนีรายงานว่า นายริชาร์ด เกรเนลล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยอรมนี ได้กล่าวต่อผู้บริหารของบริษัทรถยนต์ยุโรปว่า ปธน.ทรัมป์พร้อมที่จะยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปในอัตรา 20% ถ้าหากยุโรปปรับลดภาษีต่อรถยนต์สหรัฐเช่นเดียวกัน
ทางด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ออกมาแสดงท่าทีขานรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว ด้วยสนับสนุนให้ EU ปรับลดอัตราภาษีต่อรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ
หุ้นเกลนคอร์ ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ดีดตัวขึ้น 2.1% หลังจากที่ราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการที่เกลนคอร์เข้าไปทำธุรกิจในไนจีเรียและเวเนซุเอลา
หุ้น Superdry ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้า ทะยานขึ้น 6.4% หลังจากบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น ภายหลังจากที่ยอดขายของบริษัทพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
หุ้นแอสโซซิเอท บริติช ฟู้ดส์ (ABF) ร่วงลง 4.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทไพรมาร์ค ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกในเครือของ ABF ชะลอตัวลง
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก รับความหวังสหรัฐ-ยุโรปยุติสงครามภาษีรถยนต์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าจะยุติการเรียกเก็บภาษีรถยนต์จากยุโรป ขณะที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาสนับสนุนให้สหภาพยุโรป (EU) ปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐเช่นกัน
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 381.59 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,464.29 จุด เพิ่มขึ้น 146.68 จุด +1.19% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,366.32 จุด เพิ่มขึ้น 45.82 จุด +0.86% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,603.22 จุด เพิ่มขึ้น 30.13 จุด +0.40%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมนีรายงานว่า นายริชาร์ด เกรเนลล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยอรมนี ได้กล่าวต่อผู้บริหารของบริษัทรถยนต์ยุโรปว่า ปธน.ทรัมป์พร้อมที่จะยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปในอัตรา 20% ถ้าหากยุโรปปรับลดภาษีต่อรถยนต์สหรัฐเช่นเดียวกัน
ทางด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ออกมาแสดงท่าทีขานรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว ด้วยสนับสนุนให้ EU ปรับลดอัตราภาษีต่อรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ
ขณะที่ VDA ซึ่งเป็นสมาคมผู้ค้ารถยนต์เยอรมนีก็ได้ออกมาขานรับเช่นกัน โดยกล่าวว่า ข้อเสนอที่ให้ทั้งสองฝ่ายยกเลิกการเก็บภาษี และกำแพงการค้าระหว่างกัน ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดี โดยปัจจุบัน สหรัฐเก็บภาษีต่อรถยนต์นำเข้าที่ระดับ 2.5% และเก็บภาษีรถบรรทุก 25% ขณะที่ EU เก็บภาษี 10% ต่อรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐ
หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นขานรับข่าวดังกล่าว โดยหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นโฟล์คสวาเกน ดีดขึ้น 4.1% หุ้นเดมเลอร์ ปรับตัวขึ้นกว่า 4% หุ้นเปอร์โยต์ พุ่งขึ้น 3.5% และหุ้นเรโนลท์ ทะยานขึ้น 2.9%
หุ้นเกลนคอร์ ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ดีดตัวขึ้น 2.1% หลังจากที่ราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการที่เกลนคอร์เข้าไปทำธุรกิจในไนจีเรียและเวเนซุเอลา
หุ้น Superdry ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้า ทะยานขึ้น 6.4% หลังจากบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น ภายหลังจากที่ยอดขายของบริษัทพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
หุ้นแอสโซซิเอท บริติช ฟู้ดส์ (ABF) ร่วงลง 4.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทไพรมาร์ค ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกในเครือของ ABF ชะลอตัวลง
นักลงทุนจับตาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยในวันนี้ สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็เตรียมเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐในวงเงินเดียวกันในวันพรุ่งนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่ง และคาดว่า อัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 3.8%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 181.92 จุด ขานรับทรัมป์ส่งสัญญาณยุติสงครามภาษีรถยนต์ยุโรป
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าจะยุติการเรียกเก็บภาษีรถยนต์จากยุโรป ขณะที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาสนับสนุนให้สหภาพยุโรป (EU) ปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐเช่นกัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า คณะกรรมการเฟดยังคงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และยังคงเดินหน้าแผนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,356.74 จุด เพิ่มขึ้น 181.92 จุด หรือ +0.75% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,736.61 จุด เพิ่มขึ้น 23.39 จุด หรือ +0.86% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,586.43 จุด เพิ่มขึ้น 83.75 จุด หรือ +1.12%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมนีรายงานว่า นายริชาร์ด เกรเนลล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยอรมนี ได้กล่าวต่อผู้บริหารของบริษัทรถยนต์ยุโรปว่า ปธน.ทรัมป์พร้อมที่จะยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปในอัตรา 20% ถ้าหากยุโรปปรับลดภาษีต่อรถยนต์สหรัฐเช่นเดียวกัน
ทางด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ออกมาแสดงท่าทีขานรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว ด้วยสนับสนุนให้ EU ปรับลดอัตราภาษีต่อรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ
ขณะที่ VDA ซึ่งเป็นสมาคมผู้ค้ารถยนต์เยอรมนีก็ได้ออกมาขานรับเช่นกัน โดยกล่าวว่า ข้อเสนอที่ให้ทั้งสองฝ่ายยกเลิกการเก็บภาษี และกำแพงการค้าระหว่างกัน ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดี โดยปัจจุบัน สหรัฐเก็บภาษีต่อรถยนต์นำเข้าที่ระดับ 2.5% และเก็บภาษีรถบรรทุก 25% ขณะที่ EU เก็บภาษี 10% ต่อรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐ
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 12-13 มิ.ย. โดยกรรมการเฟดยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และยังคงยืนยันถึงจุดยืนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้กรรมการเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของข้อพิพาททางการค้าก็ตาม
หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นหลังจากผู้นำเยอรมนีสนับสนุนให้ EU ปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐ โดยหุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ ออโต้โมบิลส์ พุ่งขึ้น 6% หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ปรับตัวขึ้น 1.3%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 3% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.8% หุ้นอเมซอน เพิ่มขึ้น 0.3% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดีดขึ้น 2% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 2.2% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.7% หุ้น Nvidia ทะยานขึ้น 2.5% หุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) เพิ่มขึ้น 3.3%
นักลงทุนจับตาการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยในวันนี้ สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็เตรียมเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐในวงเงินเดียวกันในวันพรุ่งนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่ง และคาดว่า อัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 3.8%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 177,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 225,000 ราย
--อินโฟเควสท์
OO10876