- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 07 June 2018 11:31
- Hits: 1723
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดตปท. เล็งรับผลจากผ่อนคลายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกัน ตามดาวโจนส์ที่ขึ้นไปกว่า 300 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ผ่อนคลายประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยจีนพร้อมที่จะซื้อสินค้าเพิ่มจากสหรัฐฯ เพื่อจะได้ไม่มีการเก็บภาษีจากจีน
นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกัน ตามดาวโจนส์ที่ขึ้นไปกว่า 300 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ผ่อนคลายประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยจีนพร้อมที่จะซื้อสินค้าเพิ่มจากสหรัฐฯ เพื่อจะได้ไม่มีการเก็บภาษีจากจีน
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยที่จะต้องติดตามในสัปดาห์หน้าเรื่องการพบปะกันระหว่างสหรัฐฯ กับผู้นำเกาหลีเหนือ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ ซึ่งตลาดฯก็คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวไว้ที่ 1,730-1,760 จุด
พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวไว้ที่ 1,730-1,760 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 มิ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,146.39 พุ่งขึ้น 346.41 จุด (+1.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,772.35 จุด เพิ่มขึ้น 23.55 จุด (+0.86%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,689.24 จุด พุ่งขึ้น 51.38 จุด (+0.67%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 122.99 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.00 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 205.53 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 26.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 14.50 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 20.44 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.84 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 มิ.ย.61) 1,738.70 จุด เพิ่มขึ้น 5.99 จุด (+0.35%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 952.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 มิ.ย.61) ปิดที่ 64.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 79 เซนต์ หรือ 1.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 มิ.ย.61) ที่ 5.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.88 แข็งค่าต่อเนื่อง รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตร -จับตาผลประชุมนโยบายการเงิน ECB
- "สมคิด"เผยเศรษฐกิจไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเห็นได้จากหลังประเทศเกิดรัฐประหารซึ่งจากเศรษฐกิจที่เติบโตเพียง 1% ได้ขยายตัวต่อเนื่อง โดยไตรมาสล่าสุดจีดีพีโตถึง 4.8% และภาคเกษตรเติบโต 6.5% ขณะที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการ 64 โครงการ ใช้เงินลงทุน 7 แสนล้านบาท โดยเม็ดเงินได้ลงสู่ธุรกิจเอสเอ็มอีแล้วถึง 4 แสนล้านบาท
- รมว.พลังงาน เปิดเผยในงาน Asian Sustainable Energy Week 2018 ว่า ภายในปี 2561 กระทรวงจะกำหนดรายละเอียดการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา หรือโซลาร์รูฟท็อป ที่อาจจะมีการเปิดรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ หรืออาจจะมีการรับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบหรือไม่ ต้องติดตามรายละเอียดอีกครั้ง
- กบร.อนุมัติเพิ่มอายุเครื่องบินขนส่งสินค้าเป็น 22 ปี หนุนสายการบินคาร์โก้ หาซื้อมาให้บริการได้มากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถอุตฯโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เผยช่วง 3 ปีขนส่งทางอากาศโตพุ่ง 3.6% อีก 20 ปี โตเท่าตัว พร้อมรับทราบแผนพัฒนาสนามบิน ทอท.และภูมิภาค
- ทอท.เร่งเดินหน้าจัดทำทีโออาร์ประมูลงานซ่อมรันเวย์สุวรรณภูมิ 2,500 ล้านบาท คาดเปิดประมูลกลางปี 62 ด้าน กบร.ไฟเขียวขยายอายุเครื่องบินส่งสินค้าหนุนผู้ประกอบการไทยเจาะตลาดอีคอมเมิร์ซอาเซียน พร้อมเห็นชอบแผนแม่บทสนามบินเชิงพาณิชย์ในระยะ 20 ปี
- ในช่วงปลายมิ.ย.นี้ ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ จะร่วมเดินทางกับคณะของนายกรัฐมนตรีไปเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส เพื่อประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลโรดโชว์กับนักลงทุนเกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการต่างๆ ในอีอีซี หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยตั้งเป้าหมายให้เกิดการขอรับบีโอไอ ต่อเนื่องในปี 61 อย่างต่ำเป็นมูลค่า 300,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยขณะนี้ มีนักลงทุนต่างชาติหลายรายสนใจที่จะเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมยานยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมผลิตยา ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เป็นต้น
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 มิ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,146.39 พุ่งขึ้น 346.41 จุด (+1.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,772.35 จุด เพิ่มขึ้น 23.55 จุด (+0.86%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,689.24 จุด พุ่งขึ้น 51.38 จุด (+0.67%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 122.99 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.00 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 205.53 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 26.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 14.50 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 20.44 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.84 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 มิ.ย.61) 1,738.70 จุด เพิ่มขึ้น 5.99 จุด (+0.35%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 952.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 มิ.ย.61) ปิดที่ 64.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 79 เซนต์ หรือ 1.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 มิ.ย.61) ที่ 5.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.88 แข็งค่าต่อเนื่อง รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตร -จับตาผลประชุมนโยบายการเงิน ECB
- "สมคิด"เผยเศรษฐกิจไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเห็นได้จากหลังประเทศเกิดรัฐประหารซึ่งจากเศรษฐกิจที่เติบโตเพียง 1% ได้ขยายตัวต่อเนื่อง โดยไตรมาสล่าสุดจีดีพีโตถึง 4.8% และภาคเกษตรเติบโต 6.5% ขณะที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการ 64 โครงการ ใช้เงินลงทุน 7 แสนล้านบาท โดยเม็ดเงินได้ลงสู่ธุรกิจเอสเอ็มอีแล้วถึง 4 แสนล้านบาท
- รมว.พลังงาน เปิดเผยในงาน Asian Sustainable Energy Week 2018 ว่า ภายในปี 2561 กระทรวงจะกำหนดรายละเอียดการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา หรือโซลาร์รูฟท็อป ที่อาจจะมีการเปิดรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ หรืออาจจะมีการรับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบหรือไม่ ต้องติดตามรายละเอียดอีกครั้ง
- กบร.อนุมัติเพิ่มอายุเครื่องบินขนส่งสินค้าเป็น 22 ปี หนุนสายการบินคาร์โก้ หาซื้อมาให้บริการได้มากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถอุตฯโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เผยช่วง 3 ปีขนส่งทางอากาศโตพุ่ง 3.6% อีก 20 ปี โตเท่าตัว พร้อมรับทราบแผนพัฒนาสนามบิน ทอท.และภูมิภาค
- ทอท.เร่งเดินหน้าจัดทำทีโออาร์ประมูลงานซ่อมรันเวย์สุวรรณภูมิ 2,500 ล้านบาท คาดเปิดประมูลกลางปี 62 ด้าน กบร.ไฟเขียวขยายอายุเครื่องบินส่งสินค้าหนุนผู้ประกอบการไทยเจาะตลาดอีคอมเมิร์ซอาเซียน พร้อมเห็นชอบแผนแม่บทสนามบินเชิงพาณิชย์ในระยะ 20 ปี
- ในช่วงปลายมิ.ย.นี้ ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ จะร่วมเดินทางกับคณะของนายกรัฐมนตรีไปเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส เพื่อประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลโรดโชว์กับนักลงทุนเกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการต่างๆ ในอีอีซี หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยตั้งเป้าหมายให้เกิดการขอรับบีโอไอ ต่อเนื่องในปี 61 อย่างต่ำเป็นมูลค่า 300,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยขณะนี้ มีนักลงทุนต่างชาติหลายรายสนใจที่จะเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมยานยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมผลิตยา ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เป็นต้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- SDC-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.สามารถ ดิจิตอล (SDC)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 1,731,043,303 หน่วย อายุ 5 ปี ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 28 ธ.ค.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 1 มิ.ย.66
- HANA (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 39 บาท ยอดขาย Global semiconductor กลับมาฟื้นตัว หนุน SOX Index ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงหุ้นกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของอเมริการับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,438 จุด ใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,446 จุด เป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนของหุ้น HANA ซึ่งมี Correlation กับ SOX Index สูงถึง 80%
- AH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 47 บาท กลุ่มยานยนต์ปีนี้จะกลับมาขยายตัวดีสุดในรอบ 4 ปี ตามยอดผลิตรถยนต์ที่คาดโต 5% Y-Y จากแรงหนุนของทั้งยอดขายในประเทศและยอดส่งออกที่เร่งตัวพร้อมกัน พร้อมคาดกำไรสุทธิ Q2/61 โต Y-Y แรงสุดในกลุ่ม เพราะ Q2/60 ยังไม่มีดอกเบี้ยรับจาก SGAH ส่วนกำไรทั้งปีคาดไว้ 1.4 พันล้านบาท +23% Y-Y ด้านราคาหุ้นช่วงหลัง laggard โดย 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นเพียง 3% เทียบกับ SAT ที่ขึ้น 5% และ STANLY ที่ขึ้น 11%
- PSL (เอเอสแอล) "ซื้อ" เป้า Consensus เฉลี่ย 14.68 บาท ดัชนีค่าระวางเรือล่าสุด 1,340 จุด ปรับเพิ่ม 29% ในรอบสัปดาห์ และเป็นการปรับขึ้น 5 วันติดต่อกัน มองเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มเดินเรือ และ Consensus มีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 61 และประเมินผลประกอบการปี 61 จะพลิกกลับมาเป็นกำไร โดยสัดส่วนสัญญาเช่าเรือระยะยาว (ปี 2561 - 65) ปรับเพิ่มต่อเนื่อง ลดความผันผวนของรายได้ในระยะยาว ขณะที่ภาพรวมธุรกิจ Demand ขยายตัวมากกว่าจำนวนกองเรือที่เพิ่มขึ้น (ข้อมูลจาก Clarksons) ด้านราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาจากเดือนก่อน ราว 14% ทำให้ Downside Risk จำกัด
- HANA (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 39 บาท ยอดขาย Global semiconductor กลับมาฟื้นตัว หนุน SOX Index ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงหุ้นกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของอเมริการับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,438 จุด ใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,446 จุด เป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนของหุ้น HANA ซึ่งมี Correlation กับ SOX Index สูงถึง 80%
- AH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 47 บาท กลุ่มยานยนต์ปีนี้จะกลับมาขยายตัวดีสุดในรอบ 4 ปี ตามยอดผลิตรถยนต์ที่คาดโต 5% Y-Y จากแรงหนุนของทั้งยอดขายในประเทศและยอดส่งออกที่เร่งตัวพร้อมกัน พร้อมคาดกำไรสุทธิ Q2/61 โต Y-Y แรงสุดในกลุ่ม เพราะ Q2/60 ยังไม่มีดอกเบี้ยรับจาก SGAH ส่วนกำไรทั้งปีคาดไว้ 1.4 พันล้านบาท +23% Y-Y ด้านราคาหุ้นช่วงหลัง laggard โดย 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นเพียง 3% เทียบกับ SAT ที่ขึ้น 5% และ STANLY ที่ขึ้น 11%
- PSL (เอเอสแอล) "ซื้อ" เป้า Consensus เฉลี่ย 14.68 บาท ดัชนีค่าระวางเรือล่าสุด 1,340 จุด ปรับเพิ่ม 29% ในรอบสัปดาห์ และเป็นการปรับขึ้น 5 วันติดต่อกัน มองเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มเดินเรือ และ Consensus มีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 61 และประเมินผลประกอบการปี 61 จะพลิกกลับมาเป็นกำไร โดยสัดส่วนสัญญาเช่าเรือระยะยาว (ปี 2561 - 65) ปรับเพิ่มต่อเนื่อง ลดความผันผวนของรายได้ในระยะยาว ขณะที่ภาพรวมธุรกิจ Demand ขยายตัวมากกว่าจำนวนกองเรือที่เพิ่มขึ้น (ข้อมูลจาก Clarksons) ด้านราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาจากเดือนก่อน ราว 14% ทำให้ Downside Risk จำกัด
ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อคืน ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขขาดดุลการค้าที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน หลังจากยอดส่งออกของสหรัฐทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,748.72 จุด เพิ่มขึ้น 122.99 จุด, +0.54% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,121.18 จุด เพิ่มขึ้น 6.00 จุด, +0.19% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 31,464.63 จุด เพิ่มขึ้น 205.53 จุด, +0.66% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 11,228.64 จุด เพิ่มขึ้น 26.81 จุด, +0.24% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,468.26 จุด เพิ่มขึ้น 14.50 จุด, +0.59% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,488.25 จุด เพิ่มขึ้น 20.44 จุด, +0.59% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,779.97 จุด เพิ่มขึ้น 2.84 จุด, +0.16%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าเดือนเม.ย.ของสหรัฐลดลง 2.1% สู่ระดับ 4.62 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 2.112 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การนำเข้าสินค้าและบริการลดลง 0.2% สู่ระดับ 2.574 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่แคนาดาในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นการค้า รวมถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะพบปะหารือกับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ในระหว่างการประชุม G7 ครั้งนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,748.72 จุด เพิ่มขึ้น 122.99 จุด, +0.54% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,121.18 จุด เพิ่มขึ้น 6.00 จุด, +0.19% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 31,464.63 จุด เพิ่มขึ้น 205.53 จุด, +0.66% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 11,228.64 จุด เพิ่มขึ้น 26.81 จุด, +0.24% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,468.26 จุด เพิ่มขึ้น 14.50 จุด, +0.59% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,488.25 จุด เพิ่มขึ้น 20.44 จุด, +0.59% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,779.97 จุด เพิ่มขึ้น 2.84 จุด, +0.16%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าเดือนเม.ย.ของสหรัฐลดลง 2.1% สู่ระดับ 4.62 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 2.112 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การนำเข้าสินค้าและบริการลดลง 0.2% สู่ระดับ 2.574 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่แคนาดาในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นการค้า รวมถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะพบปะหารือกับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ในระหว่างการประชุม G7 ครั้งนี้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: หุ้นเหมือง,พลังงานพุ่ง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 25.57 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่ม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ที่ประเทศแคนาดา
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,712.37 จุด เพิ่มขึ้น 25.57 จุด หรือ +0.33%
ตลาดหุ้นยุโรปได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 1.5% ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน ทะยานขึ้น 2.2% และหุ้นเกลนคอร์ พุ่งขึ้น 1.1%
ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานนั้น หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวขึ้น 0.4% ขณะที่หุ้นบีพี ดีดตัวขึ้น 0.3%
หุ้นดับเบิลยูเอช สมิธ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ ทะยานขึ้น 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้น 4% ในช่วงเวลา 13 สัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 2 มิ.ย. โดยได้ปัจจัยหนุนจากการขยายร้านค้าที่สนามบินและสถานีรถไฟหลายแห่ง
นักลงทุนจับตาการประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศแคนาดาในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นการค้า รวมถึงกรณีที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ประเทศคู่ค้าเหล่านี้ได้ประกาศมาตรการตอบโต้เช่นกัน
รายงานระบุว่า นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ปธน.ทรัมป์จะพบปะหารือกับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ในระหว่างการประชุม G7 ครั้งนี้
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดผันผวน หลังกรรมการ ECB ส่งสัญญาณลดวงเงิน QE
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวผันผวนเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) หลังจากนายปีเตอร์ แพรท สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า คณะกรรมการ ECB อาจพิจารณาปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมสัปดาห์หน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.01 จุด ปิดที่ระดับ 386.88 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,457.56 จุด ลดลง 3.39 จุด หรือ -0.06% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,830.07 จุด เพิ่มขึ้น 42.94 จุด หรือ +0.34% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,712.37 จุด เพิ่มขึ้น 25.57 จุด หรือ +0.33%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้เป็นไปอย่างผันผวน หลังจากปีเตอร์ แพรท สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ ECB เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ECB อาจพิจารณาปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในการประชุมนโยบายการเงินซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.ที่เมืองริกา ประเทศลัตเวีย
"ในสัปดาห์หน้า กรรมการ ECB จะประเมินว่าความคืบหน้าของการขยายตัวทางเศรษฐกิจมีความเพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้เราลดการซื้อพันธบัตร" นายแพรทกล่าว
ก่อนหน้านี้ ECB มีมติซื้อพันธบัตรเดือนละ 3 หมื่นล้านยูโรจนถึงเดือนก.ย.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า ECB จะยุติมาตรการซื้อพันธบัตรในช่วงสิ้นปีนี้
หุ้นอิเล็กทริกซิตี เดอ ฟรองซ์ ร่วงลง 2.4% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทในเครือของอิเล็กทริกซิตี เดอ ฟรองซ์ จะทุ่มเงินลงทุน 16 ล้านยูโร หรือ 17.7 ล้านดอลลาร์ ในบริษัทแมคฟี เอนเนอร์จี เพื่อพัฒนาก๊าซไฮโดรเจนชนิดปลอดคาร์บอน
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 1.5% ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน ทะยานขึ้น 2.2% และหุ้นเกลนคอร์ พุ่งขึ้น 1.1% ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานนั้น หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ บวก 0.4% หุ้นบีพี ดีดขึ้น 0.3%
หุ้นดับเบิลยูเอช สมิธ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ ทะยานขึ้น 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้น 4% ในช่วงเวลา 13 สัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 2 มิ.ย. โดยได้ปัจจัยหนุนจากการขยายร้านค้าที่สนามบินและสถานีรถไฟหลายแห่ง
นักลงทุนจับตาการประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศแคนาดาในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นการค้า รวมถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ประเทศคู่ค้าเหล่านี้ได้ออกมาตรการตอบโต้เช่นกัน
ทางด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐจะพบปะหารือกับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ในระหว่างการประชุม G7 ครั้งนี้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 346.41 จุด รับหุ้นแบงก์ดีดแรง,ข้อมูลเศรษฐกิจสดใส
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขขาดดุลการค้าที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน หลังจากยอดส่งออกของสหรัฐทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 346.41 จุด หรือ +1.40% ปิดที่ 25,146.39 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.ปีนี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 23.55 จุด หรือ +0.86% ปิดที่ 2,772.35 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 51.38 จุด หรือ +0.67% ปิดที่ 7,689.24 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ต้องพึ่งพากำไรจากดอกเบี้ย หลังจากมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะช่วยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้
ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดขึ้น 1.7% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.2% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวขึ้น 2%
ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยได้แรงหนุนจากหุ้นคอมแคสต์ที่พุ่งขึ้น 3.8% หลังจากรัฐบาลอังกฤษอนุมัติให้คอมแคสต์เข้าซื้อกิจการของบริษัทสกาย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายเคเบิลทีวีของยุโรป ขณะที่หุ้นเทสลาร์ มอร์เตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ทะยานขึ้น 9.7% หลังจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นว่า ทางบริษัทอาจผลิตรถยนต์รุ่น Model 3 ได้มากถึงสัปดาห์ละ 5,000 คัน
ส่วนหุ้นเฟซบุ๊ก ปิดตลาดอ่อนแรงลง 0.8% หลังจากบริษัทยอมรับว่าได้ร่วมมือกับบริษัทจีนอย่างน้อย 4 แห่ง ในการแบ่งปันข้อมูลของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก โดยบริษัทจีนเหล่านี้รวมถึง หัวเว่ย เทคโนโลยีส์, เลอโนโว กรุ๊ป, ออปโป้ และทีซีแอล คอร์ป
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าเดือนเม.ย.ของสหรัฐลดลง 2.1% สู่ระดับ 4.62 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 2.112 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การนำเข้าสินค้าและบริการลดลง 0.2% สู่ระดับ 2.574 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในไตรมาส 1 เมื่อเทียบรายไตรมาส และเมื่อเทียบเป็นรายปี ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานเพิ่มขึ้น 1.3% ในไตรมาส 1
นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนาย คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่จะมีขึ้นในช่วงเช้าวันอังคารที่ 12 มิ.ย.นี้ โดยทำเนียบขาวยืนยันว่าการประชุมจะจัดขึ้นที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซาของสิงคโปร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่แคนาดาในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นการค้า รวมถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะพบปะหารือกับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ในระหว่างการประชุม G7 ครั้งนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้และวันพรุ่งนี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย.
--อินโฟเควสท์
OO9742