WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

7 ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-ลุ้นขึ้น เล็งรับ Sentiment บวกจากตปท., เริ่มเห็นสัญญาณชะลอของเงินทุนไหลออก
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up โดยได้ Sentiment บวกจากตลาดต่างประเทศที่ต่างปรับตัวขึ้นกันหมด หลังจากที่ตัวเลข ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯที่ออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งยังคลายความกังวลเกี่ยวกับอิตาลีหลังจากที่สามารถตั้งรัฐบาลผสมได้ ส่วนสเปนก็ได้รัฐมนตรีขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่
สำหรับบ้านเราเริ่มมีสัญญาณการชะลอของเงินทุนไหลออก จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิเล็กน้อย และคาดหวังว่าจะกลับมาซื้อคืนบ้าง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก พร้อมให้แนวรับ 1,710-1,715 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730-1,735 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 มิ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,635.21 จุด เพิ่มขึ้น 219.37 จุด (+0.90%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,734.62 จุด เพิ่มขึ้น 29.35 จุด (+1.08%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,554.33 จุด เพิ่มขึ้น 112.21 จุด (+1.51%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 193.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 8.29 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 343.86 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 53.07 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.66 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 13.69 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5.23 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 10.88 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 มิ.ย.61) 1,719.82 จุด ลดลง 7.15 จุด (-0.41%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 132.01 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 มิ.ย.61) ปิดที่ 65.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 มิ.ย.61) ที่ 6.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.99 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 31.95-32.05 หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ หนุนดอลล์แข็ง
- ขณะนี้เอกชนให้ความสนใจลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐจำนวนมาก อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วงเงิน 2.15 แสนล้านบาท มีบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ BTS จะร่วมกับกลุ่มซิโน-ไทยฯ และราชบุรี โฮลดิ้ง ภายใต้ชื่อกลุ่ม BSR เข้าประมูล เช่นเดียวกับ บมจ.ปตท. และกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่จะเข้าประมูลเช่นกัน
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างทำแผนขยายรถไฟฟ้าเพิ่มเติมส่วนต่อขยายอีก 7 เส้นทาง ระยะทาง 85.9 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อกรุงเทพฯ ชั้นในและปริมณฑล ก่อนจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆ นี้
- ผู้ประกอบการทีวีดิจัลมีแผนที่จะรวมตัวกันไปขอความชัดเจนจากภาครัฐ หลังจากที่คสช.ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลใน 2 เรื่อง คือ พักชำระหนี้ 3 ปี โดยจ่ายตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และให้สำนักงานกสทช. ช่วยจ่ายค่าเช่าสัญญาณโครงข่ายครึ่งหนึ่งนั้น แต่มาตรการดังกล่าวยังมีแนวทางปฏิบัติที่ไม่ชัดเจน โดยจะขอความชัดเจนเพิ่มเติมใน 3 เรื่อง ได้แก่ ค่าโครงข่ายที่ลดลงจะมีการเจรจาอย่างไรให้มีราคากลาง ,การที่กสทช.จะช่วยจ่าย 50% จะเริ่มเมื่อไหร่ และความช่วยเหลือที่ประกาศออกมาต้องมีความชัดเจน
- การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 5 มิ.ย. 2561 กระทรวงพาณิชย์จะเสนอมาตรการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบออกตลาดต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสต็อกน้ำมันปาล์มล้นระบบ ที่ปีนี้คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันปาล์มดิบจะมีมากถึง 8.5 แสนตัน หรือมีปริมาณส่วนเกิน 6 แสนตัน จากระดับปกติ 2-3 แสนตัน ดังนั้น จึงต้องหามาตรการช่วยเหลือเพื่อผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มออกไปต่างประเทศ
- กรมสรรพสามิต เผยจากการหารือร่วมกับกระทรวงพลังงานเพื่อขอจัดเก็บภาษีก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ (ซีโอทู) กับน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน ดีเซล แอลพีจี เอ็นจีวี และแก๊สโซฮอล์ที่จำหน่ายตามสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศต้องชะลอออกไปก่อน เพราะไม่ต้องการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนในตอนนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- CWT-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 68,763,745 หน่วย อายุ 8 เดือน ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท มีอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 3 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 24 ม.ค.62 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 24 ม.ค.62
- EPG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 9 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นค่อนข้างจำกัดเนื่องจากบริษัทสามารถปรับเพิ่มราคาขายได้ส่งผลให้ GPM ยังเพิ่มขึ้น โดยปีนี้คาดกำไรสุทธิกลับมาเติบโตเป็น 1,271 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 18% yoy เติบโตเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
- PCSGH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 13 บาท คาดกำไรสุทธิ Q2/61 โตโดดเด่น Y-Y ตามอุตสาหกรรมที่เร่งตัว ยอดสั่งซื้อจากกลุ่ม Non-Auto ที่เพิ่มขึ้น และเริ่มรับรู้กำไรจากโรงงานในยุโรป และคาดได้รับคำสั่งผลิตชิ้นส่วน EV เพิ่มเติมในเร็ววันนี้ เพราะชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ด้านราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่มยานยนต์ โดย -5% YTD สวนทาง SAT +2% และ AH +11%
- TPIPP (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ทยอยซื้อ"เป้า 8.50 บาท ผู้บริหารยังให้ความเชื่อมั่นในโครงการโรงไฟฟ้าขยะใหม่ภายใต้กระทรวงมหาดไทย (หนองแขม, อ่อนนุช) ในขณะที่คาดกำไร Q2 ทำระดับสูงสุด โดยคาดผลประกอบการ Q2/61 จะมีกำไรทะลุ 1 พันล้านบาท โรงไฟฟ้าสำคัญ คือ โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ 70MW (TG6) รวมกับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 30 MW (TG4) ได้จำหน่ายไฟฟ้าให้ กฟผ. 90MW และ ได้ adder 3.50 บาท เพิ่มเติมจากค่าไฟฟ้าพื้นฐาน 7 ปี ได้เริ่มต้น COD เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา มีการเดินเครื่องดีขึ้นเป็นลำดับ คือ เดือน เม.ย. มีการใช้กำลังการผลิต 87% เดือน พ.ค. 90-95% ซึ่งโรงไฟฟ้า TG4+TG6 คาดจะช่วยเพิ่มกำไรประมาณ 2-2.5 พันล้านบาทต่อปี ทำให้กำไรตั้งแต่ไตรมาสสองจะเติบโตแบบก้าวกระโดดมากกว่าพันล้านบาท ด้านปันผลสูงกว่า 6%

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ รับตัวเลขจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่พุ่งเกินคาดในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราว่างงานก็ต่ำกว่าคาดการณ์
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,365.09 จุด เพิ่มขึ้น 193.74 จุด, +0.87% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,083.43 จุด เพิ่มขึ้น 8.29 จุด, +0.27% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 30,836.77 จุด เพิ่มขึ้น 343.86 จุด, +1.13% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 11,002.15 จุด เพิ่มขึ้น 53.07 จุด, +0.48% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,444.62 จุด เพิ่มขึ้น 5.66 จุด, +0.23% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,441.20 จุด เพิ่มขึ้น 13.69 จุด, +0.40% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,761.61 จุด เพิ่มขึ้น 5.23 จุด, +0.30% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,619.38 จุด ลดลง 10.88 จุด, -0.14%
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 188,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2543 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 8 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.1% ในเดือนเม.ย. และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนเม.ย.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 23.57 จุด นลท.คลายวิตกการเมืองอิตาลี, สเปน
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในอิตาลีและสเปน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 23.57 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 7,701.77 จุด
หุ้นบาร์รัตต์ ดีเวลอปเมนท์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.5% หุ้นแองโกล อเมริกัน ทะยาน 2.7% และหุ้นเกลนคอร์ พีแอลซี บวก 2.5%
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองในอิตาลี หลังจากที่นายจูเซปเป คอนเต ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายของอิตาลี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นผู้นำรัฐบาลผสม
การบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสมจะช่วยให้อิตาลีสามารถปลดล็อกทางการเมืองที่ดำเนินมานาน 3 เดือน หลังการเลือกตั้งในวันที่ 4 มี.ค. ที่ไม่มีพรรคการเมืองใดครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในสเปนนั้น นายเปโดร ซานเชส ผู้นำพรรคสังคมนิยม ได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน หลังจากนายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรี ได้พ่ายแพ้การลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภาเมื่อวานนี้ โดยคาดว่านายซานเชสจะเข้าทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันจันทร์หน้า และจะมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.4 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 53.9 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน
ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคการผลิตของสหราชอาณาจักรยังคงมีการขยายตัว โดยดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 เป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกัน ขณะที่ได้รับปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก หลังวิกฤตการเมืองอิตาลี, สเปนคลี่คลาย
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในอิตาลีและสเปน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ทะยานขึ้น 1% ปิดที่ 386.91 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,724.27 จุด เพิ่มขึ้น 119.38 จุด หรือ 0.95% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,465.53 จุด เพิ่มขึ้น 67.13 จุด หรือ 1.24% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,701.77 จุด เพิ่มขึ้น 23.57 จุด หรือ 0.31%
หุ้นดอยซ์แบงก์บวก 2.8% แม้ว่าทางธนาคารจะถูกสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวลงเหลือ BBB+ จากระดับเดิมที่ A-
หุ้นธนาคารอิตาลีปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า โดยหุ้นบังโค บีพีเอ็ม พุ่ง 8.5% และหุ้นบีพีอีอาร์ บังกา ทะยาน 7.9%
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองในอิตาลี หลังจากที่นายจูเซปเป คอนเต ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายของอิตาลี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นผู้นำรัฐบาลผสม
การบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสมจะช่วยให้อิตาลีสามารถปลดล็อกทางการเมืองที่ดำเนินมานาน 3 เดือน หลังการเลือกตั้งในวันที่ 4 มี.ค. ที่ไม่มีพรรคการเมืองใดครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในสเปนนั้น นายเปโดร ซานเชส ผู้นำพรรคสังคมนิยม ได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน หลังจากนายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรี ได้พ่ายแพ้การลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภาเมื่อวานนี้ โดยคาดว่านายซานเชสจะเข้าทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันจันทร์หน้า และจะมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 188,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2543 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 8 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.1% ในเดือนเม.ย. และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนเม.ย.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 219.37 จุด รับตัวเลขจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (1 มิ.ย.) ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่พุ่งเกินคาดในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราว่างงานก็ต่ำกว่าคาดการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยาน 219.37 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 24,635.21 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 29.35 จุด หรือ 1.08% ปิดที่ 2,734.62 จุด ดัชนี Nasdaq บวก 112.21 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 7,554.33 จุด
หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ทะยาน 3% หลังมีรายงานว่าบริษัทกำลังเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดการโฆษณาออนไลน์
หุ้นลูลูเลมอน แอธลีติกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตชุดออกกำลังกายชื่อดัง พุ่งขึ้น 17% หลังรายงานผลประกอบการที่สูงกว่าคาดการณ์
หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ดีดตัวขึ้น 1.7% หลังจากที่ร่วงลง 8% เมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากถูกมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดอันดับ
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 188,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2543 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 8 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.1% ในเดือนเม.ย. และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐ โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM พุ่งขึ้นสู่ระดับ 58.7 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 57.3 ในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวสู่ระดับ 58.4
ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัวของภาคการผลิต และเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 21
--อินโฟเควสท์
OO9556

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!