WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงตามตลาดภูมิภาค หวั่นเฟดจะขึ้นดบ.เร็วกว่าคาด

       นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง(BLS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนลบกันทั่วหน้า โดยมองว่าตลาดฯคงจะปรับตัวระยะสั้นก่อนที่จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯที่อาจจะปรับขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งทำให้เป็นแรงกดดันตลาดฯในระยะสั้น แต่ทางฝ่ายวิจัยของเราคิดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯอย่างเร็วน่าจะเกิดในกลางปีหน้า

      ส่วนตลาดบ้านเราเวลานี้ก็ขาดปัจจัยหนุน ดังนั้นจึงพร้อมที่จะอ่อนตัวลง อย่างไรก็ดีนักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่อยากขายหุ้น เพราะ Yield ดอกเบี้ยต่ำ และตลาดฯก็ยังไม่ได้เสียหลักอะไร เพียงแต่ระยะสั้นอาจจะปรับตัวลงมาได้ใกล้ ๆ 10 จุดหรือประมาณ 0.6% ซึ่งก็ใกล้เคียงกับตลาดใหญ่

พร้อมให้แนวรับ 1,574 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590-1,593 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(9 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,013.87 จุด ลดลง 97.55 จุด(-0.57%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,552.29 จุด ลดลง 40.00 จุด (-0.87%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,988.44 จุด ลดลง 13.10 จุด (-0.65%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 60.60 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.03 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 221.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 24.15 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.96 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.58 จุด ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลขอบคุณพระเจ้า

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(9 ก.ย.)1,583.18 จุด ลดลง 1.59 จุด(-0.10%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,051.15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ก.ย.57

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(9 ก.ย.)ที่ 92.75 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 9 เซนต์

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(9 ก.ย.)ที่ 6.05 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 32.08/10 อ่อนค่าต่อตามภูมิภาค จับตา Fund Flow

      - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้มีการบรรจุการกำหนดพื้นที่การเกษตรและพื้นที่อุตสาหกรรมไว้ในนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 12 ก.ย. นี้

      - แหล่งข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)เปิดเผยว่า รฟม.กำลังจัดทำข้อมูลเชิงลึกเพื่อเปรียบเทียบรายละเอียดด้านราคาและระยะเวลาในการคัดเลือกเอกชนมาเดินรถไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเส้นทางหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อท่าพระ ระยะทาง 27 กม.เพื่อเสนอต่อกระทรวงคมนาคมและคณะกรรมการตามมาตรา 13 ของ พ.ร.บ. ให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) พิจารณาเปิดเจรจาโดยตรงกับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ (บีเอ็มซีแอล) แทนการเปิดประมูล

      - ธปท.ชี้จำนวนนักท่องเที่ยวหดตัวต่อไปอีกระยะหนึ่ง เหตุอัตราการจองห้องพักล่วงหน้า 3 เดือนยังต่ำ แต่คาดว่าอัตราการหดตัวของนักท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มลดลงเป็นลำดับ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวล่าสุดในเดือนก.ค.ของปีนี้ธปท.มองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและแม้ฟื้นตัวชัดเจนขึ้น แต่ก็ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ เพราะหลายประเทศยังไม่ยกเลิกการเตือน

      - "พาณิชย์" เผยส่งออกปี 57 อาจโตไม่ได้ตามเป้า 3.5% เตรียมนัดประชุมทูตพาณิชย์ ประเมินอีกครั้งช่วงเดือน ต.ค.นี้ ด้านอุตฯ เฟอร์นิเจอร์โอ่ส่งออกทั้งปีขยายตัว 5% มูลค่ากว่า 4.2 หมื่นล้านบาท

      - ตลาดรถเก๋งเล็กไม่ฟื้น หดตัวมากที่สุด 50% ฉุดตลาดรวม 7 เดือนร่วงหนัก ค่ายรถ อัดแคมเปญกระตุ้นยอด เน้นเงื่อนไขเป็นเจ้าของง่าย ดาวน์ต่ำ ผ่อนนาน ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ระบุอาจต้องประเมินตลาดใหม่อีกรอบ

*หุ้นเด่นวันนี้

     - PTT, BANPU(เคทีบี)"เก็งกำไร"โดย PTT มีปัจจัยพื้นฐานบวกจากการปรับโครงสร้างพลังงานด้วยการปรับเพิ่มราคา LPG-NGV ลดภาระขาดทุน PTT ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ส่วน BANPU ปัจจัยกดดันราคาหุ้นผ่อนคลายลง เมื่อศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคดีโรงไฟฟ้าหงสา-ราคาถ่านหินผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่การฟื้นตัวยังล่าช้า ทำให้ผลประกอบการจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในอนาคต โดยให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 420 และ 36 บาท ตามลำดับ

     - TOG(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 6.80 บาท ผลงานใน 2H14 มีทิศทางที่ดีจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดร่วมกับลูกค้า และได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อน เพราะส่งออกถึง 95% และมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดีขึ้น ทำให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น จึงปรับกำไรปกติปี 2014 ขึ้น 7% และปี 2015 ขึ้น 5% เป็นเติบโต 80% ในปีนี้และโต 10% ปี 2015

      - TTA(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 31 บาท Sentiment บวกจากการปรับตัวขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือ BDI เป็นวันที่ 4 ติดต่อกันอีก 31 จุด เป็น 1,197 จุด และคาด BDI จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากเข้าสู่ High Season ของธุรกิจตั้งแต่ปลาย 3Q ถึง 4Q พร้อมคาดผลประกอบการ 4Q56/57(ก.ค.-ก.ย.57) จะเร่งตัวขึ้น qoq จาก 3Q56/57 ที่มีกำไรสุทธิ 255 ล้านบาท จากการปรับตัวขึ้นของรายได้ทั้ง 3 ธุรกิจ ได้แก่ เรือเทกอง, เรือขุดเจาะ และปุ๋ย โดย PMTA และส่งผลให้ผลประกอบการปี 56/57 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 988 ล้านบาท จากปี 55/56 ที่ขาดทุนสุทธิ 5,080 ล้านบาท

     - CK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 31 บาท คาดราคาหุ้นตอบรับเชิงบวกหลังบริษัทลูกคือ BMCL ขึ้นมา +7.5% วานนี้ ส่งผลให้ NAV ต่อหุ้นของมูลค่าเงินลงทุนใน 4 บริษัทลูก ได้แก่ BECL, BMCL, TTW, CKP เพิ่มขึ้นเป็น 18.14 บาท ตลาดให้มูลค่าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของ CK ณ ปัจจุบันเพียง 10.00 บาทต่อหุ้น สะท้อนให้เห็นว่า CK ยังถูกกว่า STEC มาก ขณะที่กำไรสุทธิ 3Q57 คาดโตสูงทั้ง yoy และ qoq จากบันทึกกำไรพิเศษขายหุ้น BMCL ราว 800 ล้านบาท

ตลาดหุ้นเอเชียหดตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นและออสเตรเลีย โดยได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.3% เมื่อเวลา 10.09 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,688.55 จุด ลดลง 60.60 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,318.50 จุด ลดลง 8.03 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,969.39 จุด ลดลง 221.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,410.62 จุด ลดลง 24.15 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,336.00 จุด ลดลง 6.96 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,870.54 จุด ลดลง 3.58 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 5.77 จุด หลังธ.กลางอังกฤษส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) ขณะที่นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีเกินคาด

     ดัชนี FTSE 100 ลดลง 5.77 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 6,829.00 จุด

     นายคาร์นีย์กล่าวว่า ธนาคารกลางอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2558 ขณะที่ค่าแรงปรับตัวสูงขึ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศก็เป็นไปในทิศทางที่ดี

     ขณะเดียวกัน นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการลงประชามติว่าด้วยการแยกตัวเป็นอิสระของสกอตแลนด์ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 18 ก.ย.นี้

     นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในยูเครนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดตลาดหุ้นลอนดอน

     ทั้งนี้ ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ที่ได้ตกลงกันไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีการเปิดฉากยิงกันอีกครั้งในพื้นที่ตะวันออกของยูเครนเมื่อวันอาทิตย์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกสกอตแลนด์แยกตัวจากสหราชอาณาจักร

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าหากสกอตแลนด์แยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอังกฤษ และลุกลามไปถึงเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆของยุโรปด้วย

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 344.87 จุด

     ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,710.70 จุด ลดลง 47.33 จุด หรือ -0.49% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,452.37 จุด ลดลง 22.56 จุด หรือ -0.50% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,829.00 จุด ลดลง 5.77 จุด หรือ -0.08%

    ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่าสกอตแลนด์เตรียมลงมติเพื่อแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร โดยสกอตแลนด์จะมีการลงมติในวันที่ 18 ก.ย.นี้

    สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับการแยกตัวของสกอตแลนด์นั้น การรณรงค์ที่ใช้ชื่อว่า Better Together ซึ่งสนับสนุนให้สกอตแลนด์รวมเป็นส่วนหนึ่งกับสหราชอาณาจักรนั้น ได้เรียกร้องให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหลังการลงประชามติเพื่อให้สกอตแลนด์แยกตัวเป็นอิสระ โดยเตือนถึงผลลัพธ์ในแง่ของการรวมตัวทางเศรษฐกิจ ความเป็นปึกแผ่นของสังคม และสหภาพการเมือง

   ขณะที่นายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังอังกฤษ ได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มอำนาจให้กับสกอตแลนด์ หากผู้ลงคะแนนปฏิเสธการแบ่งแยกตัวเป็นอิสระจากสหราชอาณาจักรในการลงประชามติที่กำลังจะมีขึ้น หลังจากที่ผลสำรวจของ YouGov ที่จัดทำสำหรับเดอะ ซันเดย์ ไทม์ส ระบุว่า ผู้ที่สนับสนุนให้สกอตแลนด์แยกตัวเป็นอิสระมีจำนวน 51% ขณะที่มีผู้ที่ออกเสียงคัดค้าน 49% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ผู้สนับสนุนการแยกตัวมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ปฏิเสธ

     หุ้นลอรีอัล ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ของฝรั่งเศส ร่วงลง 1.3% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของตลาดเครื่องสำอางในช่วงเวลา 6 เดือนจนถึงเดือนธ.ค.ปีนี้ ลงสู่ระดับ 3-3.5% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 3.5-4%

    หุ้นเทเลคอม อิตาเลีย ปรับตัวขึ้น 3% ส่วนหุ้นกาเมซา เทคโนโลจิกา ร่วงลง 5.5%

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลล์แข็งต่อเนื่อง จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า

     ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนต่างคาดการณ์กันมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปีหน้า

    ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2920 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2908 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6091 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6121 ดอลลาร์

    ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 106.34 เยน เทียบกับระดับ 105.88 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9340 ฟรังค์ จาก 0.9344 ฟรังค์

    ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9198 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9291 ดอลลาร์

     ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใสในช่วงที่ผ่านมาได้หนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของตลาดแรงงานที่ชะลอลงก็ยังคงเป็นปัจจัยหนึ่งที่สร้างความวิตก

     ส่วนเงินปอนด์ฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงแรก หลังจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ระบุว่าธนาคารกลางอาจเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า แต่เงินปอนด์ได้ชะลอแรงบวก จากความวิตกเกี่ยวกับการลงประชามติที่กำลังจะมีขึ้นเกี่ยวกับการแยกตัวเป็นอิสระของสกอตแลนด์

    ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่สนับสนุนให้สกอตแลนด์แยกตัวออกจากราชอาณาจักรมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 51% ส่วนผู้ที่คัดค้านลดลงมาอยู่ที่ 49% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ผู้มีสิทธิลงคะแนนส่วนใหญ่ต้องการให้มีการแยกตัวเป็นอิสระ โดยสกอตแลนด์จะจัดการลงประชามติในวันที่ 18 ก.ย.นี้

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ก.ย.2557

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,013.87 จุด                       ลดลง 97.55 จุด    -0.57%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,552.29 จุด                      ลดลง 40.00 จุด    -0.87%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,988.44 จุด                      ลดลง 13.10 จุด    -0.65%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,829.00 จุด                    ลดลง 5.77 จุด     -0.08%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,710.70 จุด                         ลดลง 47.33 จุด    -0.49%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,452.37 จุด                      ลดลง 22.56 จุด    -0.50%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,434.77 จุด                        เพิ่มขึ้น 26.83 จุด   +0.29%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,749.15 จุด                    เพิ่มขึ้น 44.04 จุด   +0.28%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,608.60 จุด           เพิ่มขึ้น 29.70 จุด   +0.53%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,607.90 จุด              เพิ่มขึ้น 30.90 จุด   +0.55%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,326.53 จุด                   เพิ่มขึ้น 0.09 จุด    +0.00%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,253.67 จุด               ลดลง 61.27 จุด    -0.84%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,197.12 จุด         ลดลง 49.36 จุด    -0.94%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,874.12 จุด                    เพิ่มขึ้น 3.03 จุด    +0.16%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,342.96 จุด                    เพิ่มขึ้น 7.77 จุด    +0.23%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,265.32 จุด                      ลดลง 54.53 จุด    -0.20%

    ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ

   ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,013.87 จุด ลดลง 97.55 จุด หรือ -0.57% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,552.29 จุด ลดลง 40.00 จุด หรือ -0.87% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,988.44 จุด ลดลง 13.10 จุด หรือ -0.65%

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าหากสกอตแลนด์แยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอังกฤษ และลุกลามไปถึงเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆของยุโรปด้วย

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 344.87 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,710.70 จุด ลดลง 47.33 จุด หรือ -0.49% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,452.37 จุด ลดลง 22.56 จุด หรือ -0.50% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,829.00 จุด ลดลง 5.77 จุด หรือ -0.08%

               ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) ขณะที่นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีเกินคาด

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 5.77 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 6,829.00 จุด

               สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กยังคงปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 1,248.5 ดอลลาร์/ออนซ์

   สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.1 เซนต์ ปิดที่ 18.92 ดอลลาร์/ออนซ์

   สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 11.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,385.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 25.70 ดอลลาร์ ปิดที่$860.45 ดอลลาร์/ออนซ์

     สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลง ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

   สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 92.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

    ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

     ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนต่างคาดการณ์กันมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปีหน้า

    ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2920 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2908 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6091 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6121 ดอลลาร์

    ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 106.34 เยน เทียบกับระดับ 105.88 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9340 ฟรังค์ จาก 0.9344 ฟรังค์

    ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9198 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9291 ดอลลาร์

    ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,197.00 จุด เพิ่มขึ้น 31.00 จุด, +2.66%

                        --อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!