- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 14 May 2018 14:13
- Hits: 1346
สรุปแนวโน้ม SET เช้านี้รีบาวน์ แต่จำกัดอยู่บริเวณ 1,770-1,780 จุด ยังไร้ปัจจัยบวกใหม่หนุนที่ชัดเจน ประกอบกับเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการแจ้งงบไตรมาสแรก จับตาสหรัฐรายงานตัวเลขค้าปลีก
*ตลาดหุ้นไทย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ศุกร์ที่ผ่านมา (11 พ.ค.61) ปิดที่ 1765 จุด เพิ่มขึ้น 19.04 จุด หรือ 1.09% มูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท
ดัชนี SET50 ปิดที่ 1168.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.80 จุด หรือ 1.28% มูลค่าการซื้อขาย 3.4 หมื่นล้านบาท
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2585.34 จุด เพิ่มขึ้น 31.15 จุด หรือ 1.22% มูลค่าการซื้อขาย 4.23 หมื่นล้านบาท
ดัชนี mai ปิดที่ 479.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด หรือ 0.05% มูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาท
*ตลาดหุ้นต่างประเทศ-น้ำมันดิบ
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 24,831.17 จุด เพิ่มขึ้น 91.64 จุด หรือ 0.37%
ดัชนี S&P ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 2,727.72 จุด เพิ่มขึ้น 4.65 จุด หรือ 0.17%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 7,402.88 จุด ลดลง 2.09 จุด หรือ -0.03%
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ศุกร์ที่ผ่านมา (11 พ.ค.61) ปิดที่ 1765 จุด เพิ่มขึ้น 19.04 จุด หรือ 1.09% มูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท
ดัชนี SET50 ปิดที่ 1168.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.80 จุด หรือ 1.28% มูลค่าการซื้อขาย 3.4 หมื่นล้านบาท
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2585.34 จุด เพิ่มขึ้น 31.15 จุด หรือ 1.22% มูลค่าการซื้อขาย 4.23 หมื่นล้านบาท
ดัชนี mai ปิดที่ 479.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด หรือ 0.05% มูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาท
*ตลาดหุ้นต่างประเทศ-น้ำมันดิบ
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 24,831.17 จุด เพิ่มขึ้น 91.64 จุด หรือ 0.37%
ดัชนี S&P ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 2,727.72 จุด เพิ่มขึ้น 4.65 จุด หรือ 0.17%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 7,402.88 จุด ลดลง 2.09 จุด หรือ -0.03%
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกติดต่อกัน 7 วันทำการ และปิดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการเพิ่มขึ้น 2.3% สูงสุดนับแต่เดือนมีนาคมปีนี้ หลังนักลงทุน ช้อนซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก ส่งผลให้ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปิดสัปดาห์ด้วยการเพิ่มขึ้น 3.8%
ด้านราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนมิถุนายนที่ตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดที่ระดับ 70.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 66 เซ็นต์ หรือ -0.92%
*มุมมองนักวิเคราะห์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดแนวโน้ม SET Index วันนี้จะแกว่งตัว Sideways หลังที่ปรับตัวขึ้นแรงวันศุกร์ แต่เรามองกรอบการรีบาวด์ยังจำกัดอยู่บริเวณ 1,770-1,780 จุด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น ขณะที่ต้นสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศกำไร ไตรมาส 1/61 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งโดยรวมเท่าที่ประกาศออกมาแล้วถือว่าค่อนข้างแข็ง แต่ยังไม่ถึงขั้น Surpriseในเชิงบวกอย่างมีนัยยะจนนำไปสู่การประบประมาณการขึ้น จึงยังมองว่าหุ้นที่มีกำไรโดดเด่นและยัง Laggard
ตลาดน่าจะสามารถ Outperform
บล.เคทีบี กล่าวว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีมีทิศทางปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์จนลงมาทำ Low1744 จุด หลุด เส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่ 1750 จุด แต่วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีสามารภพลิกฟื้นตัวแรง กลับขึ้นมายืน 1750 จุดอีกครั้ง พร้อมกับทำปิดที่จุดสูงสุดของวันที่ 1765 จุด ทำให้รักษาภาพระยะกลางขาขึ้นที่ยังคงอยู่ ซึ่งการ Rebound คาดยังไม่จบ แต่ด้วยความแรงของวันศุกร์อาจจะทำให้วันนี้ยังไม่น่าจะผ่าน 1772 จุดได้ง่าย แต่หากฝ่าได้มีระยะไปต่อที่ 1780 จุด ขณะที่กรอบล่างควรรักษา 1760 จุดเพื่อรักษาทิศทาง การฟื้นตัวได้ต่อ ประเมินแนวรับ 1753-1759 และแนวต้าน 1772-1780
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,760-1,780 จุด แนะลงทุนกลุ่มพลังงานปิโตร PTTEP, IVL และค้าปลีก BJC พร้อมแนะจับตาสหรัฐรายงานตัวเลขค้าปลีก ซึ่งหากออกมาต่ำกว่าคาดประกอบกับเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมารายงานเงินเฟ้อต่ำคาด อาจส่งผลให้ในระยะสั้น Dollar ชะลอการแข็งค่า ถือเป็นบวกอ้อมๆต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงประเทศไทย
OO8706
ด้านราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนมิถุนายนที่ตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดที่ระดับ 70.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 66 เซ็นต์ หรือ -0.92%
*มุมมองนักวิเคราะห์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดแนวโน้ม SET Index วันนี้จะแกว่งตัว Sideways หลังที่ปรับตัวขึ้นแรงวันศุกร์ แต่เรามองกรอบการรีบาวด์ยังจำกัดอยู่บริเวณ 1,770-1,780 จุด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น ขณะที่ต้นสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศกำไร ไตรมาส 1/61 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งโดยรวมเท่าที่ประกาศออกมาแล้วถือว่าค่อนข้างแข็ง แต่ยังไม่ถึงขั้น Surpriseในเชิงบวกอย่างมีนัยยะจนนำไปสู่การประบประมาณการขึ้น จึงยังมองว่าหุ้นที่มีกำไรโดดเด่นและยัง Laggard
ตลาดน่าจะสามารถ Outperform
บล.เคทีบี กล่าวว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีมีทิศทางปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์จนลงมาทำ Low1744 จุด หลุด เส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่ 1750 จุด แต่วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีสามารภพลิกฟื้นตัวแรง กลับขึ้นมายืน 1750 จุดอีกครั้ง พร้อมกับทำปิดที่จุดสูงสุดของวันที่ 1765 จุด ทำให้รักษาภาพระยะกลางขาขึ้นที่ยังคงอยู่ ซึ่งการ Rebound คาดยังไม่จบ แต่ด้วยความแรงของวันศุกร์อาจจะทำให้วันนี้ยังไม่น่าจะผ่าน 1772 จุดได้ง่าย แต่หากฝ่าได้มีระยะไปต่อที่ 1780 จุด ขณะที่กรอบล่างควรรักษา 1760 จุดเพื่อรักษาทิศทาง การฟื้นตัวได้ต่อ ประเมินแนวรับ 1753-1759 และแนวต้าน 1772-1780
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,760-1,780 จุด แนะลงทุนกลุ่มพลังงานปิโตร PTTEP, IVL และค้าปลีก BJC พร้อมแนะจับตาสหรัฐรายงานตัวเลขค้าปลีก ซึ่งหากออกมาต่ำกว่าคาดประกอบกับเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมารายงานเงินเฟ้อต่ำคาด อาจส่งผลให้ในระยะสั้น Dollar ชะลอการแข็งค่า ถือเป็นบวกอ้อมๆต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงประเทศไทย
OO8706