WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

21ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์-แต่การฟื้นตัวยังจำกัด-รอดูหลายปัจจัยจากนอกปท./ติดตามงบฯ PTTEP วันนี้
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้บ้าง แต่การฟื้นตัวเป็นไปอย่างจำกัด ทั้งนี้ ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ คละกัน โดยต่างรอติดตามหลายปัจจัยในต่างประเทศ ทั้งการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันนี้ และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) พรุ่งนี้ รวมถึงการหารือระหว่างงผู้นำเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ อีกทั้งตัวเลข GDP ของสหรัฐฯงวดไตรมาส 1/61 วันพรุ่งนี้ด้วย
ส่วนบ้านเราให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป โดยวันนี้ PTTEP จะประกาศผลประกอบการ พร้อมให้แนวรับ 1,770 จุด ส่วนแนวต้าน 1,790 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 เม.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,083.83 จุด เพิ่มขึ้น 59.70 จุด (+0.25%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,639.40 จุด เพิ่มขึ้น 4.84 จุด (+0.18%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,003.74 จุด ลดลง 3.61 จุด (-0.05%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 63.45 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 50.00 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 23.11 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.81 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 14.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.26 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 เม.ย.61) 1,779.52 จุด ลดลง 8.68 จุด (-0.49%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,303.35 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 เม.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 เม.ย.61) ปิดที่ระดับ 68.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 เม.ย.61) ที่ 6.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.53 แนวโน้มยังอ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาคจากแรงซื้อดอลล์-รอติดตามผลประชุม ECB วันนี้
- บอร์ด กสทช.ไฟเขียวประมูลคลื่น 1800 ทันทีหลัง คสช.ให้อำนาจทำงานยาว ดีเดย์ประมูล 3 ใบอนุญาต 45 เมกะเฮิรตซ์ 4 ส.ค.นี้ แจงหากไร้เงาผู้เข้าร่วมประมูลจะปรับลดใบอนุญาตเป็นใบเล็ก 9 ใบๆ ละ 5 เมกะเฮริตซ์ ด้านดีแทคค้านเกณฑ์หัวชนฝา ชี้ไม่เกิดประโยชน์ ขณะ"วิษณุ"แจงยังไม่เคาะใช้ ม.44 อุ้มทีวีดิจิทัลแค่ คสช.เห็นชอบหลักการ
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการประจำเดือน มี.ค. 2561 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 90.7 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 89.9 ในเดือน ก.พ. 2561 โดยค่าดัชนีที่เพิ่มขึ้นเกิดจากผู้ประกอบการเร่งผลิตสินค้าเพื่อชดเชยวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือน เม.ย. ประกอบกับมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในหลายอุตสาหกรรม
- ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 18 Money Expo 2018 ระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคม นี้ ที่เมืองทองธานี เปิดเผยว่า งานมันนีเอ็กซ์โปในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Wealth Transformation มิติใหม่แห่งความมั่งคั่ง" โดยมีธนาคารบริษัทการเงิน (นอนแบงก์) บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน รวมบริษัทโบรกเกอร์ทอง รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงานกว่า 260 แห่ง เพื่อนำบริการ พร้อมด้วยแคมเปญโปรโมชันพิเศษมานำเสนอให้กับผู้เข้าชมงานอย่างเต็มที่
*หุ้นเด่นวันนี้
- IT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.90 บาท คาดกำไรสุทธิ Q1/61 +9% Q-Q, +145% Y-Y อยู่ที่ 14 ลบ. ซึ่งปกติกำไรไตรมาส 1 จะเป็น Low Season และจุดต่ำสุดของปี ปีนี้ออกสตาร์ทดีเพราะตลาดเกมมิ่งและสามาร์ทโฟนขยายตัวแรง (มาร์จิ้นดีสุดในพอร์ท) ซึ่งล่าสุด Acer ออกโน้ตบุ๊ครุ่น Avengers Infinity War Limited Edition เกาะกระแสหนังดัง คาดหนุนงบ 61 โตต่อเนื่อง ขณะที่ PE2561 แค่ 15 เท่า และเมื่อคิดเป็น PEG ยิ่งน่าสนใจเพราะต่ำเพียง 0.4 เท่า น้อยสุดในกลุ่มผู้ขายสินค้าไอที ฐานะการเงิน-Cash Cycle แกร่งสุด และคาดปันผลปีนี้สูงถึง 5% พบ NVDR ซื้อมากสุดในรอบ 6 ปี ที่ 2.2 ล้านหุ้น
- CPF (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 28 บาท ได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า คาดหวังผลกำไรกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่ Q2/61 จากราคาขายสินค้าที่เริ่มฟื้นตัวโดยเฉพาะราคาหมูในไทยและเวียดนาม (ราคาหมูไทยปรับขึ้น 25% จากเฉลี่ย 48 บาท/ก.ก.เป็น 60 บาท/ก.ก., เวียดนามราคาปรับขึ้นจากเฉลี่ย 30,000ดอง/ก.ก. ในช่วงต้นปีเป็น 39,000 ดอง/ก.ก.เพิ่มขึ้น 30%)
- PSL (ไอร่า) "ทยอยสะสม"เป้า 18 บาท ดัชนีค่าระวางเรือล่าสุด 1,376 จุด ปรับขึ้นกว่า 40% จากต้นเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา คาดผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นได้อีกครั้งใน Q2/61 พร้อมคาดปี 61 อุปสงค์–อุปทานเข้าสู่สมดุลมากขึ้น โดยเฉพาะ %Orderbook เรือ Handysize และ Supramax ซึ่งเป็นเรือหลักของ PSL อยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี และ 13 ปี ที่ 7.8% และ 1.7% ตามลำดับ สอดคล้องกับที่ประเมิน Supply เรือเทกองปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพียง 1% ขณะที่ Demand โตในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจโลกประมาณ 3% พร้อมประเด็นด้านกฏเกณฑ์คาดเป็นปัจจัยเร่งให้ Supply ส่วนเกินออกจากอุตสาหกรรมในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า คาดปี 61 พลิกมีกำไรปกติ ประมาณ 291 ล้านบาท และคาดโดดเด่นในปี 62

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับดาวโจนส์ปิดดีดตัว
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืน จากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงติดต่อกัน 5 วันทำการที่ผ่านมา
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,278.77 จุด เพิ่มขึ้น 63.45 จุด, +0.29% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,119.50 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด, +0.05% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 30,378.15 จุด เพิ่มขึ้น 50.00 จุด, +0.16% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,583.08 จุด เพิ่มขึ้น 23.11 จุด, +0.22%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,460.62 จุด เพิ่มขึ้น 11.81 จุด, +0.48% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,582.61 จุด เพิ่มขึ้น 14.60 จุด, +0.41% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,856.19 จุด เพิ่มขึ้น 4.26 จุด, +0.23%
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ยังคงปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 3% หลังจากที่ได้ทะลุระดับดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557
ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3% นั้น อาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชนและกลุ่มผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น และท้ายที่สุดจะเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับอัตราเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ และเครื่องมือทางการเงินในระบบ

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 46.08 จุด วิตกบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งหนุนเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) เนื่องจากความกังวลที่ว่า การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชนและกลุ่มผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,379.32 จุด ลดลง 46.08 จุด หรือ -0.62%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ยังคงปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 3% เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ได้ทะลุระดับดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557
ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3% นั้น อาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชนและกลุ่มผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น และท้ายที่สุดจะเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับอัตราเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ และเครื่องมือทางการเงินในระบบ
หุ้นไชร์ พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของไอร์แลนด์ ปิดตลาดร่วงลง 2.8% หลังจากที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ทาเคดา ฟาร์มาซูติคัล ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้เพิ่มวงเงินการเสนอซื้อกิจการ ไชร์ พีแอลซี เป็น 4.6 หมื่นล้านปอนด์ หรือประมาณ 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นอันโตฟากัสตา ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ร่วงลง 1.8% หลงจากบริษัทเปิดเผยปริมาณการผลิตทองแดงลดลง 10.5% ในไตรมาส 1
หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ปรับตัวลง 1.7% แม้ว่าธนาคารได้เปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้น 23% ในไตรมาส 1 ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หุ้นสกาย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายเคเบิลทีวีของยุโรป พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทคอมแคสต์ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการบริษัทสกายอย่างเป็นทางการในวันนี้ ด้วยวงเงิน 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ วงเงินที่คอมแคสต์เสนอซื้อกิจการของสกาย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายเคเบิลทีวีของยุโรป สูงกว่าวงเงินที่บริษัท ทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ของนายรูเพิร์ท เมอร์ดอค เสนอที่ระดับ 2.58 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.2559 เพื่อซื้อหุ้นส่วนที่เหลือของบริษัทสกายจำนวน 61% ที่ฟ็อกซ์ยังไม่ได้ถือครอง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกผลกระทบบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชนและกลุ่มผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.8% ปิดที่ 380.18 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,413.30 จุด ลดลง 30.86 จุด หรือ -0.57% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,422.30 จุด ลดลง 128.52 จุด หรือ -1.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,379.32 จุด ลดลง 46.08 จุด หรือ -0.62%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับผลกระทบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ยังคงปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 3% เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ได้ทะลุระดับดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557
ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3% นั้น อาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชนและกลุ่มผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น และท้ายที่สุดจะเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับอัตราเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ และเครื่องมือทางการเงินในระบบ
หุ้นออสแรม ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลอดไฟรายใหญ่ของเยอรมนี ดิ่งลง 17% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปีงบการเงิน 2561
หุ้นไชร์ พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของไอร์แลนด์ ปิดตลาดร่วงลง 2.8% หลังจากที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ทาเคดา ฟาร์มาซูติคัล ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้เพิ่มวงเงินการเสนอซื้อกิจการ ไชร์ พีแอลซี เป็น 4.6 หมื่นล้านปอนด์ หรือประมาณ 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นอันโตฟากัสตา ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ร่วงลง 1.8% หลงจากบริษัทเปิดเผยปริมาณการผลิตทองแดงลดลง 10.5% ในไตรมาส 1 ขณะที่หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ปรับตัวลง 1.7% แม้ว่าธนาคารได้เปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้น 23% ในไตรมาส 1
อย่างไรก็ตาม หุ้นเครดิต สวิส ธนาคารรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 3.6% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 1 พุ่งขึ้น 16% สู่ระดับ 694 ล้านฟรังก์(ประมาณ 709.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 653 ล้านฟรังก์
ส่วนรายได้ในไตรมาส 1 ของเครดิต สวิส อยู่ที่ 5.64 พันล้านฟรังก์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 5.53 พันล้านฟรังก์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 5.49 พันล้านฟรังก์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 59.70 จุด รับผลประกอบการสดใส แต่ตลาดยังกังวลผลกระทบบอนด์ยีลด์พุ่ง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงโบอิ้ง และคอมแคสต์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงติดต่อกัน 5 วันทำการที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลว่า การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐนั้น จะเป็นแรงผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชนและกลุ่มผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,083.83 จุด เพิ่มขึ้น 59.70 จุด หรือ +0.25% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,639.40 จุด เพิ่มขึ้น 4.84 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,003.74 จุด ลดลง 3.61 จุด หรือ -0.05%
นักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ โดยโบอิ้งเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 ที่ระดับ 3.64 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.58 ดอลลาร์ ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 2.338 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.226 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นโบอิ้งปิดตลาดพุ่งขึ้น 4.2%
หุ้นคอมแคสต์ ดีดตัวขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 ที่ระดับ 62 เซนต์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 59 เซนต์ นอกจากนี้ คอมแคสต์ยังได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการบริษัทสกายอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ ด้วยวงเงิน 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ วงเงินที่คอมแคสต์เสนอซื้อกิจการของสกาย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายเคเบิลทีวีของยุโรป สูงกว่าวงเงินที่บริษัท ทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ของนายรูเพิร์ท เมอร์ดอค เสนอที่ระดับ 2.58 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.2559 เพื่อซื้อหุ้นส่วนที่เหลือของบริษัทสกายจำนวน 61% ที่ฟ็อกซ์ยังไม่ได้ถือครอง
หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกรายใหญ่ พุ่งขึ้น 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2561 ด้วย
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 2% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 1.3% และหุ้นเชฟรอน ปรับตัวขึ้น 0.1%
ส่วนหุ้นทวิตเตอร์ ร่วงลง 2.4% แม้บริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 ที่ระดับ 16 เซนต์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 12 เซนต์/หุ้น ขณะที่รายได้อยู่ที่ 655 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 608 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ยังระบุว่า จำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ระดับ 336 ล้านคน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 334.2 ล้านคน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ มาจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงติดต่อกัน 5 วันทำการที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ยังคงปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 3% หลังจากที่ได้ทะลุระดับดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557
ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3% นั้น อาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชนและกลุ่มผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น และท้ายที่สุดจะเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับอัตราเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ และเครื่องมือทางการเงินในระบบ
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2561 และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
--อินโฟเควสท์
OO7986

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!