WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

2 1ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้เล็งฟื้นตัวหลังปรับฐานวานนี้ ,หุ้น PTT เทรดพาร์ใหม่วันแรก-ราคาน้ำมันรีบาวด์
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up โดยวันนี้ตลาดฯน่าจะฟื้นตัวหลังจากที่มีการปรับฐานเมื่อวานนี้จากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน นำโดยหุ้น PTT ซึ่งวันนี้หุ้น PTT จะเทรดพาร์ใหม่หุ้นละ 1 บาทเป็นวันแรก และราคาน้ำมันก็กลับมารีบาวด์เมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้น่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ อย่างไรก็ดียังมองว่าการเคลื่อนไหวของตลาดฯในวันนี้น่าจะขึ้นกับหุ้น PTT ด้วย
นอกจากนี้ ยังขึ้นกับการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย ซึ่งเช้านี้ HMPRO ประกาศงบฯไตรมาส 1/61 ออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์ฯคาดเล็กน้อย ขณะที่ DTAC งบฯไตรมาส 1/61 ออกมาดี และ DTAC ก็มีการเซ็นสัญญาคลื่น 2300 MHz แล้ว ทำให้คลายความกังวลไปได้ในเรื่องที่คลื่น 1800 MHz จะหมดอายุในเดือนก.ย.นี้
อย่างไรก็ดี เวลานี้ตลาดฯต่างหันไปจับตาดูอัตราผลตอบแทนพันธบัตร(Bond Yield) ของสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ขึ้นมาแตะระดับ 2.999% ก่อนที่จะปิดที่ 2.967% ซึ่งก็สร้างความกังวลถ้าเข้าใกล้ระดับ 3% จะทำให้ต้นทุนการเงินสูงขึ้น และบริษัทก็จะมีกำไรลดลง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยวันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล
พร้อมให้แนวรับ 1,778 จุด ส่วนแนวต้าน 1,805 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 เม.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,448.69 จุด ลดลง 14.25 จุด (-0.06%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,670.29 จุด เพิ่มขึ้น 0.15 จุด (+0.01%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,128.60 จุด ลดลง 17.52 จุด (-0.25%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 140.78 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.74 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 99.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 16.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.36 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.19 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.39 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 เม.ย.61) 1,790.14 จุด ลดลง 11.14 จุด (-0.62%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,830.88 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 เม.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 เม.ย.61) ปิดที่ระดับ 68.64 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือเกือบ 0.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 เม.ย.61) ที่ 5.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.50/54 แนวโน้มยังอ่อนค่า จับตาถ้อยแถลงจาก ECB-BOJ มองกรอบวันนี้ 31.45-31.60
- "พาณิชย์" เผยมูลค่าส่งออกมี.ค. สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะ 2.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% หนุนภาพรวมไตรมาสแรกโต 11.3% ทุบสถิติรอบ 7 ปี มั่นใจทั้งปีโตต่อเนื่อง ห่วงมาตรการกีดกันการค้าโลก-บาทแข็ง กดดันเป้าส่งออก 8% ขณะส่งออกยางทรุด 50% ผลจากมาตรการชะลอส่งออก ด้าน ธปท. ติงนโยบายรัฐแก้ปัญหาเกษตรไม่ตรงจุด ย้ำอุดหนุนราคาช่วยได้ระยะสั้น หวั่นระยะยาวเพิ่มภาระการคลัง
- "พลังงาน" ได้ฤกษ์เปิดทีโออาร์ประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติ "เอราวัณ-บงกช" 24 เม.ย.นี้ เพื่อให้เอกชนรับเอกสารการเข้าร่วมคัดเลือกคุณสมบัติเบื้องต้น ก่อนให้ยื่นประมูลในระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตในเดือนก.ย. เผยกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้เข้าร่วมประมูลแบ่งกำไรให้รัฐไม่ต่ำกว่า 50% และผลประโยชน์อื่น รวมถึงค่าไฟฟ้าต้องไม่แพงขึ้น มั่นใจ "เชฟรอน-มูบาดาลา-ปตท.สผ." ยื่นประมูลแน่ ด้านปตท.สผ. ลั่นขอลงชิงทั้ง 2 แหล่ง
- DTAC โล่ง หลังลงนามสัญญา ให้บริการ 4 จีบนคลื่น 2300 MHz กว่า 60 เมกะเฮิรตซ์คู่ทีโอที พร้อมให้บริการทันทีภายใต้สัญญาอายุถึงปี 68 ด้านซีอีโอทีโอที ยิ้มรับรายได้ปีละกว่า 4,500 ล้านบาท ขณะ "ลาร์ส" เผยยังคงลงทุนขยายเสา-โครงข่ายต่อเนื่อง แม้ไม่รู้กสทช.จะจัดประมูลคลื่นที่หมดสัมปทานเมื่อใด
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยว่า การที่ครม.เห็นชอบมาตรการทางภาษีจูงใจให้ธนาคารพาณิชย์ไทยควบรวมกิจการอาจทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมธนาคารเปลี่ยนแปลง โดยธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเพียง 1 หรือ 2 ราย อาจครองส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศในระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมโดยรวม และมีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นในการรับมือการแข่งขันกับธนาคารต่างชาติ ซึ่งการแข่งขันน่าจะรุนแรงขึ้นในอนาคต ตามความคืบหน้าของแนวทางการรวมตัวภาคการธนาคารอาเซียน (ASEAN Banking Integration Framework หรือ ABIF)
- กสทช.คาดสัปดาห์นี้ได้ข้อสรุปเยียวยาทีวีดิจิทัล 'วิษณุ' โยน 'บิ๊กตู่' ตัดสินใจ
- ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ระบุว่า หุ้นปตท. (PTT) ที่เข้าเทรดพาร์ใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯวันนี้ (24 เม.ย.) มีโอกาสที่จะปรับลดลง โดยฝ่ายวิจัยจัดทำสถิติข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี ของหุ้น ที่ปรับพาร์ พบว่าผลตอบแทนตั้งแต่วันแรกที่ พาร์ใหม่มีผล ถึง 7 วันหลังจากนั้น ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นมีโอกาสที่จะปรับลดลง
- รฟม.แจงคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ รอกรมบัญชีกลางสรุปปรับแนวทาง จัดซื้อจัดจ้างตามเอดีบี สายสีส้มรอสรุปพีพีพีเดินรถ คาดได้ผู้รับเหมาปีหน้า จี้กทม.โอนหนี้ ยันพ.ค.ไม่สรุปพร้อมเดินรถเอง มั่นใจธ.ค.นี้เปิดบริการช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการแน่นอน
*หุ้นเด่นวันนี้
- IVL (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดกำไรไตรมาส 1/61 ที่ 4.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% YoY และ 22% QoQ จาก PTA และ PET spread ดีขึ้นทั้งในยุโรปและเอเซีย
- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 98 บาท แนวโน้มกำไรสุทธิ Q1/61 ยังทำได้ดีต่อเนื่อง คาด 5,688 ล้านบาท +3% Q-Q, +19.4% Y-Y แม้คาดผลงาน MAKRO อาจไม่ตื่นเต้น แต่ธุรกิจ 7-11 น่าจะทำได้ดี จาก SSSG ที่คาดเป็นบวก +3.5% Y-Y และเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง โดย CPALL น่าจะเป็นเพียงไม่กี่บริษัทในกลุ่มค้าปลีก ที่คาดกำไร Q1/61 โตทั้ง Q-Q และ Y-Y ส่วนทั้งปีคาด +23% Y-Y และยังมี Upside ต่อสภาพคล่อง หากลดสัดส่วนถือหุ้น MAKRO ลงอีก ภายหลังปลดล็อกช่วงเวลาห้ามขายหุ้นสิ้นเดือน มิ.ย. นี้
- BEM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิ Q1/61 โตเด่น +9% Q-Q, +18% Y-Y เป็น 828 ล้านบาท หนุนจากรายได้รวมที่คาดเพิ่มขึ้นทั้ง Q-Q, Y-Y จากการเติบโตของผู้โดยสารรถไฟฟ้า และปริมาณรถบนทางด่วน บวกกับมาร์จิ้นที่ปรับตัวขึ้นจากการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน ขณะที่แนวโน้ม Q2/61 คาดทำจุดสูงสุดใหม่จากการบันทึกกำไรการขายหุ้น XPCL ให้ CKP ราว 240 ลบ.
- KKP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 85 บาท เก็งกำไรข่าวศาลปกครองกลางยกฟ้องกรณีสหภาพแรงงาน กทพ.คัดค้านตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ส่งผลให้การเปิดขายกองทุนเดินหน้าต่อ เบื้องต้นคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งขายกองทุนได้ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้มูลค่า 4.4 หมื่นล้านบาท เป็นบวกต่อภัทรซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินและ KKP ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในภัทร

ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ ขานรับตลาดหุ้นโตเกียวทะยาน
       ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ โดยการนำของตลาดหุ้นโตเกียว หลังได้ปัจจัยบวกจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นบริษัทส่งออกดีดตัวขึ้น
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,228.82 จุด เพิ่มขึ้น 140.78 จุด, +0.64% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,069.75 จุด เพิ่มขึ้น 1.74 จุด, +0.06% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 30,353.83 จุด เพิ่มขึ้น 99.43 จุด, +0.33% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,680.38 จุด ลดลง 16.75 จุด, -0.16% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,478.47 จุด เพิ่มขึ้น 4.36 จุด, +0.18% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,581.73 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด, +0.06% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,883.75 จุด เพิ่มขึ้น 3.39 จุด, +0.18%
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาบริษัทจดทะเบียนในตลาดวอลล์สตรีทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอัลฟาเบท, 3M, อเมซอน เชฟรอน เฟซบุ๊ก และไมโครซอฟท์ ขณะที่ผลการสำรวจพบว่า บริษัทมากกว่า 82% ในดัชนี S&P 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการแล้ว มีตัวเลขผลกำไรที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ.โดยเอสแอนด์พี/เคซ-ชิลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2561 และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงิน หนุนฟุตซี่ปิดบวก 30.70 จุด
         ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน รวมทั้งการอ่อนค่าของเงินปอนด์ ซึ่งส่งผลให้ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.พ.ปีนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,398.87 จุด เพิ่มขึ้น 30.70 จุด หรือ +0.42%
หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ขยับขึ้น 0.9% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปรับตัวขึ้น 0.6%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 3% และจากการที่ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้
การส่งสัญญาณดังกล่าวของผู้ว่าการ BoE ได้สกัดกระแสคาดการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ว่า BoE อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า แม้อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ของอังกฤษปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 1 ปีก็ตาม
หุ้นกลุ่มบริษัทประกันและบริษัทบริหารจัดการความมั่งคั่ง ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเซนต์ เจมส์ เพลส พุ่งขึ้น 3.3% หุ้นโอล มิวชวล ดีดขึ้น 2.7% และหุ้นเอวิวา พุ่งขึ้น 1%
หุ้นวิทเบรด ขยับลง 0.1% หลังจากที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในระหว่างวัน จากรายงานข่าวที่ว่า บริษัทอิลเลียต แมเนจเมนท์ได้เข้าซื้อหุ้นมากกว่า 6% ในวิทเบรด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานเครือโรงแรมพรีเมียร์ อินน์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก รับหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งตามทิศทางบอนด์ยีลด์
       ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการของฝรั่งเศสและเยอรมนี ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนเม.ย.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 0.4% แตะที่ระดับ 383.18 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,438.55 จุด เพิ่มขึ้น 25.72 จุด, +0.48% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 12,572.39 จุด เพิ่มขึ้น 31.89 จุด, +0.25% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,398.87 จุด เพิ่มขึ้น 30.70 จุด, +0.42%
หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ขยับขึ้น 0.9% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปรับตัวขึ้น 0.6%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มการเงินได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและเยอรมนีพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.96% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินพุ่งขึ้นตามไปด้วย
หุ้นกลุ่มบริษัทประกันและบริษัทบริหารจัดการความมั่งคั่ง ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเซนต์ เจมส์ เพลส พุ่งขึ้น 3.3% หุ้นโอล มิวชวล ดีดขึ้น 2.7% และหุ้นเอวิวา พุ่งขึ้น 1%
หุ้นวิทเบรด ขยับลง 0.1% หลังจากที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในระหว่างวัน จากรายงานข่าวที่ว่า บริษัทอิลเลียต แมเนจเมนท์ได้เข้าซื้อหุ้นมากกว่า 6% ในวิทเบรด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานเครือโรงแรมพรีเมียร์ อินน์
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.ของเยอรมนี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 55.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 55.1 ในเดือนมี.ค.
ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.ของฝรั่งเศสปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 56.3 ในเดือนมี.ค.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 14.25 จุด วิตกบอนด์ยีลด์พุ่งกระทบตลาด ขณะนลท.จับตาผลประกอบการ
        ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 3% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินพุ่งขึ้นและสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊ก อัลฟาเบท และไมโครซอฟท์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,448.69 จุด ลดลง 14.25 จุด หรือ -0.06% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,128.60 จุด ลดลง 17.52 จุด หรือ -0.25% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,670.29 จุด เพิ่มขึ้น 0.15 จุด หรือ +0.01%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 3% เมื่อคืนนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.96% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2551
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินพุ่งขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท และตลาดหุ้นทั่วโลก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับอัตราเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ และเครื่องมือทางการเงินในระบบ
นักลงทุนแห่เทขายพันธบัตร หลังสูญเสียความน่าดึงดูดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากการคลายความวิตกในคาบสมุทรเกาหลี และสถานการณ์ในซีเรีย ขณะเดียวกันนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ จากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
หุ้นอัลโค คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ระดับโลก ดิ่งลง 14% เนื่องจากการถูกคว่ำบาตรของบริษัท United Company Rusal ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อสัญญาทางธุรกิจระหว่างอัลโคและบริษัทดังกล่าว
หุ้นคิมเบอร์ลีย์-คล๊าค ร่วงลง 1.5% แม้ทางบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดก็ตาม
หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของสหรัฐ ขยับขึ้น 0.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 1 ที่ระดับ 46 ล้านดอลลาร์ หรือ 5 เซนต์/หุ้น จากที่ขาดทุน 32 ล้านดอลลาร์ หรือ 4 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.60 ล้านยูนิต จากระดับ 5.54 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากแตะ 54.2 ในเดือนมี.ค.
นักลงทุนจับตาบริษัทจดทะเบียนในตลาดวอลล์สตรีทจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอัลฟาเบท, 3M, อเมซอน เชฟรอน เฟซบุ๊ก และไมโครซอฟท์ ขณะที่ผลการสำรวจพบว่า บริษัทมากกว่า 82% ในดัชนี S&P 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการแล้ว มีตัวเลขผลกำไรที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ.โดยเอสแอนด์พี/เคซ-ชิลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2561 และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
--อินโฟเควสท์
OO7868

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!