WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

19ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนตัวกรอบจำกัด หลังดาวโจนส์ร่วง-รอดูประชุมผถห.PTT ,ราคาน้ำมันพุ่งช่วยประคองตลาด
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ภาพรวมน่าจะอ่อนตัวลง รับปัจจัยจากต่างประเทศหลังเมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงจากความกังวลต่อสถานการณ์ในซีเรีย หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ขู่ว่าสหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดที่ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน รวมถึงรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่ากรรมการเฟดต่างก็สนับสนุนให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลอดจนนักลงทุนยังรอดตัวการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/61 ของธนาคารรายใหญ่ อย่างเจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก
สำหรับปัจจัยในประเทศ นักลงทุนยังรอดูการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ของบมจ.ปตท. (PTT) ที่ในวันนี้จะพิจารณาเรื่องการแตกพาร์ และจะมีการรายงานความคืบหน้าการนำบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) เข้าตลาดหุ้น รวมถึงวันนี้ยังเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนเข้าสู่วันหยุดยาว 13-16 เม.ย.ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็อาจจะทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลง และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะเน้นการตั้งรับมากกว่าการไล่ราคาหุ้น กดดันให้ภาพรวมการลงทุนมีลักษณะการซึมตัวและแกว่งตัวในกรอบแคบ
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ ก็น่าจะช่วยประคองตลาดได้บ้าง โดยเฉพาะในหุ้นบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,753 และ 1,750 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,770 และ 1,775 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 เม.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,189.45 จุด ร่วงลง 218.55 จุด (-0.90%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,642.19 จุด ลดลง 14.68 จุด (-0.55%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,069.03 จุด ลดลง 25.27 จุด (-0.36%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 29.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.80 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 196.40 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 10.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.73 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.24 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 เม.ย.61) 1,763.22 จุด เพิ่มขึ้น 2.27 จุด(+0.13%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,519.83 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 เม.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 เม.ย.61) ปิดที่ระดับ 66.82
ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.31 ดอลลาร์ หรือ 2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 เม.ย.61) ที่ 6.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.14 นักลงทุนจับตาความตึงเครียดสถานการณ์ซีเรีย มองกรอบ 31.10-31.20
- "แจ็ค หม่า"พบ"ประยุทธ์" 19 เม.ย. ประกาศลงทุนสมาร์ทดิจิทัลในอีอีซี ใช้เป็นฐานดูแลธุรกิจอีคอมเมิร์ซในซีแอลเอ็มวีที ดึงพัฒนาเอสเอ็มอี- เกษตรกร สนับสนุนการท่องเที่ยว หวังช่วยเสริมเศรษฐกิจในวงกว้าง "อาลีบาบา"เตรียม ลงนามเอ็มโอยูลงทุนไทย 4 ฉบับ
- บอร์ดกสทช.เลื่อนลงมติ หลักเกณฑ์ประมูลคลื่น 1800 MHz หลังสำนักงานฯเสนอควรรอสนช.ลงคะแนนโหวตเลือกบอร์ดใหม่ 19 เม.ย.นี้ ยันแม้ยังไม่ลงมติแต่ไทม์ไลน์การประมูลคลื่นไม่ขยับ อ้างเปิดประมูลได้ก่อนสัมปทานดีแทคสิ้นสุดก.ย.นี้ ด้าน"ดีแทค"วอนกสทช.พิจารณาเกณฑ์ประมูลเพื่อประโยชน์อุตสาหกรรม
- ขสมก.เร่งวิเคราะห์คำสั่งศาลปกครองกลาง ยืนยันไม่หยุดวิ่งบริการรถเมล์ NGV 100 คันแรก "อาคม" เผย ขสมก.ต้องหารืออัยการ เพื่อยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ทั้งกรณี คำสั่งทุเลามติบอร์ดและชดใช้ค่าเสียหาย "เบสท์รินฯ กว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่รถล็อตที่ 2 จำนวน 100 คันกำหนดส่งมอบ 26 เม.ย. ขสมก.ต้องกู้เงินจ่ายค่ารถโดยคลังค้ำประกัน หากยังติดคดีฟ้องร้องส่อมีปัญหาต้องชะลอหรือไม่
- แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 เม.ย.นี้ แต่งตั้งให้นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เป็นปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่ แทนนายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ถูกโยกไปเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และนายสมชัยได้ประกาศลาออกทันทีที่ ครม.มีมติ
- ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ปรับขึ้นคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยไปอยู่ที่ 4% ในปี 2561 จากคาดการณ์เดิมที่ 3.8% เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว และจะขยายตัวขึ้นต่อเนื่องไปอยู่ที่ 4.1% ในปี 2562 เนื่องจากการลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงการบริโภคภายในประเทศคาดว่าจะปรับตัวขึ้นในปีนี้
- นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า แนวโน้มหนี้ครัวเรือนมีสัญญาณเร่งตัวขึ้นบ้างตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตและรถยนต์ และต้องติดตามหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ใหม่ที่เพิ่มขึ้นบางหมวด รวมทั้งให้ติดตามสงครามการค้าสหรัฐ-จีนอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อประมาณการเศรษฐกิจที่จะโน้มไปด้านต่ำและกระทบการส่งออกไทย
- ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่งความเห็นของสมาชิก สนช.จำนวน 27 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 35(4)และ(5) รวมทั้งมาตรา 92 วรรค 1 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 85 หรือไม่ ไว้วินิจฉัยแล้ว โดยให้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องทราบ รวมทั้งให้ นายปรีชา วัชราภัย สมาชิก สนช.ผู้แทนฝ่ายผู้เสนอความเห็น,ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.), ประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และประธาน กกต.จัดทำความเห็นเป็นหนังสือและข้อมูลที่เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 25 เม.ย.
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 93 บาท โดยประมาณการณ์กำไร 1Q61 ที่ 5.8 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 22.2%YoY และ 5.4%QoQ เนื่องจาก คาดว่า SSSG จะสามารถเติบโตในระดับ 3-4% ได้ เนื่องจากฐานที่ต่ำใน 1Q60 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค.61 ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 79.9 หลังจากผู้บริโภคมีความมั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการปรับค่าแรงขั้นต่ำส่งผลต่อรายได้ของภาคแรงงาน อีกทั้งการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะมีเงินหมุนเวียนมากขึ้นเนื่องจากรัฐบาลประกาศให้มีวันหยุดยาวถึง 5 วัน คาดกำไรยังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 61 ที่ 24% ด้วยกำไรสุทธิที่ 2.39 หมื่นล้านบาท ขณะที่ CPALL ยังมีโอกาสเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆและยังสามารถขยายสาขาได้ต่อเนื่อง
- ROBINS (ฟินันเซียฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 78 บาท คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ PE2561 ยังต่ำเพียง 23 เท่า เทียบกับกลุ่มค้าปลีกที่ 30 เท่า และราคาหุ้นยัง laggard มาก โดย -14% YTD สวนทางค้าปลีก +5% YTD ขณะที่คาดกำไรสุทธิ 1Q61 โต Y-Y แต่แผ่วลง Q-Q ตามฤดูกาล อยู่ที่ 750-800 ล้านบาท โดยคาด SSSG โตราว 2-3% Y-Y และสัดส่วนสินค้า Private Brand ที่ margin ดียังใกล้เคียงเป้าที่ 12-13% ของรายได้รวม ส่วนทั้งปี โต 14% Y-Y อยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท จาก SSSG ที่ฟื้น, การเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง, และ margin ที่ดีขึ้นจากการปรับ Product Mix
- SPA (ไอร่า) แนะ"ซื้อลงทุน" ราคาเป้าหมาย 21.70 บาท หลังในปี 61 มุ่งตลาดต่างประเทศเต็มตัว โดยแฟรนไชส์ในจีนจะขยายจากเดิมที่มี 1 สาขา เป็น 3 สาขา และเริ่มต้นเปิดแฟรนไชส์ในกัมพูชา อีก 3 สาขา พร้อมกันนี้ยังมีแผนเปิดสาขา Flagship ของตนเองที่เซี่ยงไฮ้ อีก 1 สาขา รวมถึงแผนการขยายสาขาในประเทศต่อเนื่องอีก 10 สาขาในปีนี้ (ได้สถานที่แล้ว 7 แห่ง) รวมเป็น 50 สาขาในประเทศ ซึ่งระยะยาวมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากกระแสการดูแลตนเองที่มากขึ้น รวมถึงการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวจีน (ปี 59-60 ไทยขยับขึ้นเป็นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่ง) และการที่ SPA เริ่มเข้าไปลงทุนในจีนโดยตรง หลังทำการศึกษาผ่านการเปิดแฟรนไชส์มาราวปีครึ่ง ด้านผลประกอบการปี 61-62 คาดทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ วิตกสหรัฐถล่มซีเรีย,เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
          ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะใช้มาตรการทางทหารต่อซีเรีย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าสหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดที่ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 21,657.87 จุด ลดลง 29.23 จุด, -0.13% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,203.28 จุด ลดลง 4.80 จุด, -0.15% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 31,094.11 จุด เพิ่มขึ้น 196.40 จุด, +0.64% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,984.12 จุด เพิ่มขึ้น 10.10 จุด, +0.09% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,450.95 จุด เพิ่มขึ้น 6.73 จุด, +0.28% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,485.61 จุด เพิ่มขึ้น 5.85 จุด, +0.17% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,872.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.24 จุด, +0.12% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,962.66 จุด เพิ่มขึ้น 18.73 จุด, +0.24%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดต่างก็สนับสนุนให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 9.61 จุด เหตุวิตกสถานการณ์ซีเรีย,ภาคการผลิตอังกฤษชะลอตัว
       ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรีย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้จากการที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษปรับตัวลงครั้งแรกรอบเกือบ 1 ปีในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,257.14 จุด ลดลง 9.61 จุด หรือ -0.13%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในซีเรีย รวมทั้งความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซีย โดยปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้จากการที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) ซึ่งระบุว่า ตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมร่วงลง 0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้น 0.2%
หุ้นเทสโก้ พุ่งขึ้น 7.2% ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยสกัดแรงลบของตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ หลังจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายนี้ได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ภายหลังจากกำไรก่อนหักภาษีของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่า
หุ้น Evraz ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่และเหล็กที่ดำเนินงานในรัสเซีย และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ดีดตัวขึ้น 1.3% อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น Evraz ได้ร่วงลงกว่า 12% ในสัปดาห์นี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวสหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่
หุ้นเอซอส พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเสื้อผ้าออนไลน์ ดิ่งลง 2.4% แม้บริษัทเปิดเผยว่า กำไรก่อนหักภาษีในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 2561 เพิ่มขึ้น 10% และจำนวนลูกค้าที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทพุ่งทะลุ 1 พันล้านคนเป็นครั้งแรก

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง เหตุวิตกสหรัฐถล่มซีเรีย
       ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในซีเรีย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้จากการที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.6% ปิดที่ 376.18 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,293.97 จุด ลดลง 103.35 จุด หรือ -0.83% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,277.94 จุด ลดลง 29.62 จุด หรือ -0.56% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,257.14 จุด ลดลง 9.61 จุด หรือ -0.13%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้จากการที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน
ทางด้าน Eurocontrol ซึ่งเป็นองค์กรบริหารการบินของยุโรปที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ออกคำเตือนอย่างเร่งด่วนเมื่อวานนี้ ให้สายการบินระมัดระวังการโจมตีด้วยขีปนาวุธขณะบินอยู่เหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยระบุว่า มีแนวโน้มที่จะมีการโจมตีทางอากาศต่อซีเรียภายในเวลา 72 ชั่วโมง
หุ้นเอซอส พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเสื้อผ้าออนไลน์ ดิ่งลง 2.4% แม้บริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 2561 เพิ่มขึ้น 10% และจำนวนลูกค้าที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทพุ่งทะลุ 1 พันล้านคนเป็นครั้งแรกก็ตาม
หุ้นแอร์ฟรานซ์ปิดทรงตัว หลังจากสหภาพของสายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ได้ตกลงที่จะเจรจากับฝ่ายบริหารในวันนี้เกี่ยวกับการเพิ่มค่าจ้าง หลังจากที่ได้ทำการผละงานประท้วงเป็นเวลาหลายวัน
หุ้นเทสโก้ พุ่งขึ้น 7.2% หลังจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายนี้ได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ภายหลังจากกำไรก่อนหักภาษีของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่า
หุ้น Evraz ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่และเหล็กที่ดำเนินงานในรัสเซีย และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ดีดตัวขึ้น 1.3% อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น Evraz ได้ร่วงลงไปกว่า 12% ในสัปดาห์นี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวสหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมร่วงลง 0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
ส่วนในวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) จะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ของยูโรโซน ในเวลาประมาณ 16.00 น.ตามเวลาไทย

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 218.55 จุด วิตกสหรัฐถล่มซีเรีย,เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
         ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะใช้มาตรการทางทหารต่อซีเรีย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าสหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดที่ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดต่างก็สนับสนุนให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,189.45 จุด ร่วงลง 218.55 จุด หรือ -0.90% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,642.19 จุด ลดลง 14.68 จุด หรือ -0.55% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,069.03 จุด ลดลง 25.27 จุด หรือ -0.36%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในซีเรีย รวมทั้งความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซีย โดยปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้จากการที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน
ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซียกำลังตกต่ำลงเป็นประวัติการณ์ สืบเนื่องมาจากการที่สหรัฐเชื่อว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนในซีเรีย โดยการทวีตข้อความล่าสุดของปธน.ทรัมป์ระบุว่า "รัสเซียบอกว่าจะยิงสกัดขีปนาวุธทุกลูกที่โจมตีซีเรีย ดังนั้น รัสเซียเตรียมพร้อมได้เลย เพราะมันจะมาแน่ เป็นขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่ดีและฉลาด คุณไม่ควรเป็นเพื่อนกับสัตว์ที่ใช้ก๊าซพิษฆ่าประชาชนของตนเอง และมีความสุขกับเรื่องนี้"
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากเฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 20-21 มี.ค. เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดหลายคนได้สนับสนุนให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น
"กรรมการเฟดมองว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น และเชื่อว่าในระยะกลางนี้ อัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 2% ซึ่งสัญญาณเหล่านี้บ่งชี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ให้รวดเร็วขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม" รายงานการประชุมระบุ
หุ้นทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ปรับตัวลง 0.3% หลังจากมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปได้รุดเข้าตรวจสอบสำนักงานของทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ในประเทศอังกฤษ เพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด
หุ้นเฟซบุ๊ก ดีดตัวขึ้น 0.8% หลังจากนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊ก ได้เข้าให้การต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ กรณีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กจำนวน 50 ล้านคน โดยนายซัคเคอร์เบิร์กได้กล่าวคำขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนหุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นอาลีบาบา ปรับตัวลงราว 1% หุ้น JD.com ลดลง 0.6% และหุ้นยัม ไชน่า โฮลดิ้งส์ ปรับตัวลง 0.7%
หุ้นแมทเทล ดีดตัวขึ้น 6.6% หลังจากนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เจฟเฟอรีส์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแมทเทล สู่ระดับ "neutral" จากระดับ "underperform"
หุ้นคาร์นิวัล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือสำราญ พุ่งขึ้น 2% หลังจากบริษัทประกาศปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผล
นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ โดยเจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกในวันพรุ่งนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการร่วงลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุจากการร่วงลงของราคาน้ำมันเบนซิน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
--อินโฟเควสท์
OO7442

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!