WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

6ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ตามตลาดหุ้นทั่วโลก เล็งกลุ่มพลังงานหนุนหลังราคาน้ำมันดีดขึ้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดหุ้นฮ่องกง, ตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ที่ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday ซึ่งเป็นไปตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ที่ได้ปรับตัวขึ้น
ส่วนบ้านเรามองว่าหุ้นในกลุ่มแบงก์ขณะนี้ราคาได้สะท้อนความกังวลเรื่องการยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมไปแล้ว และไทยยังได้ต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) จากสหรัฐฯไปอีกจนถึงปี 63 รวมไปถึงราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นน่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ในวันนี้ นอกจากนี้เมื่อวานนี้ดัชนีฯพอลงมาทดสอบแนว 1,758 จุด ซึ่งเป็นจุด Low เดิมก็มีแรงซื้อคืนกลับเข้ามา
พร้อมให้แนวรับ 1,756-1,760 จุด ส่วนแนวต้าน 1,775-1,780 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,103.11 จุด พุ่งขึ้น 254.69 จุด (+1.07%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,640.87 จุด เพิ่มขึ้น 35.87 จุด (+1.38%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,063.44 จุด เพิ่มขึ้น 114.22 จุด (+1.64%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 233.34 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.26 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 59.38 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 17.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.02 จุด
ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง, ตลาดหุ้นสิงคโปร์, ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Good Friday
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 มี.ค.61) 1,766.92 จุด ลดลง 18.07 จุด (-1.01%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,696.30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 มี.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 64.94
ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 มี.ค.61) ที่ 7.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.26 แนวโน้มแกว่งแคบ วอลุ่มเบาบาง รอปัจจัยใหม่ หลังตลาดตปท.ส่วนใหญ่หยุด
- "สมคิด"สั่งกระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ หาช่องส่งออก พร้อมสั่งศึกษาเข้าร่วม CPTPP ภายในปีนี้ ด้าน สศค.ชี้รายได้เกษตรกรร่วงติดต่อกันเดือนที่ 8 หวังน้ำมันฟื้นช่วยดันราคาสินค้าเกษตร
- ดัชนีสำคัญที่ชี้วัดเศรษฐกิจไทยในเดือน ก.พ. 2561 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและกระจายตัวดี การบริโภคเอกชนขยายตัวได้ดีสะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ขยายตัวเพิ่ม 7.2%
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คงประมาณการจีดีพีปีนี้ที่ 4.0% ชี้แรงหนุนยังมาจากส่งออก ท่องเที่ยว และการลงทุน พร้อมคงภาพรวมส่งออกปีนี้ 4.5% ชี้แบงก์ลดค่าธรรมเนียม รายได้หาย 9 พันล้าน
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินผลกระทบต่อรายได้ที่ธนาคารพาณิชย์ ทยอยยกเลิกค่าธรรมเนียม การทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ จะได้รับผลกระทบโดยสูญเสียรายได้ 9,000 ล้านบาทในปีนี้ จากปกติมีรายได้ค่าธรรมเนียมทั้งระบบ 190,000 ล้านบาท ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องบริหารจัดการรายได้ โดยอาจไปเพิ่มค่าธรรมเนียมในส่วนอื่น หรือลดต้นทุนอย่างอื่น เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป จะได้ไม่รับผลกระทบมาก
*หุ้นเด่นวันนี้
- TVO (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 38 บาท คาดกำไรสุทธิ Q1/61 โตต่อเนื่อง จาก Spread เม็ดถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นทำ New high หลังจากที่อาร์เจนติน่าซึ่งเป็นผู้ส่งออกกากถั่วเหลืองรายใหญ่ของโลกประสบปัญหาภัยแล้ง ขณะที่ความต้องการจากจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อหลักยังเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
- BCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 18.30 บาท แนวโน้มกำไร Q1/61 ยังสดใส จากโรคระบาดที่รุนแรงขึ้นและมีความต่อเนื่อง ขณะที่ กำไรทั้งปี 2561 คาด +11% Y-Y อยู่ที่ 1 พันล้านบาท หนุนโดยผู้ป่วยเงินสดที่เร่งตัว การปรับเพิ่มเงินของสปส.เต็มปี และผลขาดทุนจาก WMC ที่ลดลง ด้านราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี +4% ค่อนข้าง laggard เมื่อเทียบกับ BDMS +12% และ BH +10% ขณะที่ Sentiment การลงทุนช่วงนี้เอื้อต่อการพักเงินใน defensive stock เช่นกลุ่มโรงพยาบาลจึงคาดว่า BCH จะ Outperform กลุ่มและตลาดได้
- BGRIM (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 34 บาท ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่ BGRIM ให้ความสนใจเข้าร่วมทุนโครงการโซล่าร์ฟาร์ม คาดจะมีความคืบหน้าในเร็ว ๆ นี้ โดยมองว่า BGRIM มีข้อได้เปรียบคู่แข่งที่เป็นโรงไฟฟ้าไทย ในการเข้าลงทุนในเวียดนามจากการมีประสบการณ์ขายไฟฟ้าในนิคมของอมตะเบียนหัว ด้านเทคนิคแกว่ง sideway ในกรอบแนวต้าน 28 บาท แนวรับ 25.5 บาท

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับดาวโจนส์ปิดทะยาน
        ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นเฟซบุ๊กและหุ้นไมโครซอฟท์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนบางกลุ่มเข้าซื้อหุ้นเพื่อตกแต่งบัญชี (window dressing) ในการซื้อขายวันสุดท้ายของไตรมาส 1/2561
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 21,392.42 จุด เพิ่มขึ้น 233.34 จุด, +1.10% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,161.79 จุด เพิ่มขึ้น 1.26 จุด, +0.04% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,905.30 จุด เพิ่มขึ้น 59.38 จุด, +0.55% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,454.10 จุด เพิ่มขึ้น 17.73 จุด, +0.73% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,859.37 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด, +0.16% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดทำการวันนี้เนื่องในวัน Good Friday
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 215,000 ราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2516
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 11.87 จุด รับเงินปอนด์อ่อน,ข่าวควบรวมกิจการ
          ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ และข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทจีเคเอ็น และเมลโรส อินดัสทรีส์
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,056.61 จุด เพิ่มขึ้น 11.87 จุด หรือ +0.17%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4 ของปี 2560 มีการขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากประมาณการครั้งก่อนในเดือนก.พ. และเมื่อเทียบรายปี GDP ไตรมาส 4 ของปี 2560 ขยายตัว 1.4% ไม่เปลี่ยนแปลงจากประมาณการครั้งก่อนเช่นกัน
หุ้นจีเคเอ็น พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมรายใหญ่ พุ่งขึ้น 9.5% หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของจีเคเอ็นได้ลงมติยอมรับข้อเสนอการซื้อกิจการจากบริษัทเมลโรส อินดัสทรีส์
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ขยับขึ้น 0.2% หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า ธนาคารบาร์เคลย์สได้ตกลงที่จะจ่ายเงิน 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีที่เกี่ยข้องกับการขายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ในช่วงปี 2548-2550
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น หลังจากราคาโลหะปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นเฟรสนิลโล พุ่งขึ้น 2.9%
ตลาดหุ้นลอนดอนจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 30 มี.ค.เนื่องในวัน Good Friday และจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 2 เม.ย. เนื่องในเทศกาลอีสเตอร์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก รับข้อมูลศก.เยอรมนี,ข่าวควบรวมกิจการ
      ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของเยอรมนี ซึ่งรวมถึงอัตราว่างงานเดือนมี.ค.ของเยอรมนีที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 370.87 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,096.73 จุด เพิ่มขึ้น 156.02 จุด หรือ +1.31% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,167.30 จุด เพิ่มขึ้น 36.86 จุด หรือ +0.72% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,056.61 จุด เพิ่มขึ้น 11.87 จุด หรือ +0.17%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสดใสของเยอรมนี โดยสำนักงานแรงงานเยอรมนีเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของเยอรมนีร่วงลงแตะ 5.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เยอรมนีรวมชาติในปี 2533 จากระดับ 5.4% ในเดือนก.พ.
ส่วนจำนวนคนว่างงานปรับตัวลดลง 19,000 คน สู่ระดับ 2.373 ล้านคนในเดือนมี.ค. มากกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 15,000 ราย
ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนี ซึ่งคิดคำนวณตามมาตรฐานที่สอดคล้องกับประเทศอื่นๆในสหภาพยุโรป ปรับตัวขึ้น 1.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนก.พ.
หากเทียบรายเดือน ตัวเลขเงินเฟ้อเยอรมันเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น 0.4% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปนั้น ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นข้อมูลที่มีผลต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ขยับขึ้น 0.2% หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า ธนาคารบาร์เคลย์สได้ตกลงที่จะจ่ายเงิน 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีที่เกี่ยข้องกับการขายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ในช่วงปี 2548-2550
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น หลังจากราคาโลหะปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นเฟรสนิลโล พุ่งขึ้น 2.9%
หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทเรโนลท์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของฝรั่งเศส กำลังเจรจาเพื่อควบรวมกิจการกับบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ของญี่ปุ่น โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเรโนลท์ พุ่งขึ้น 5.8% หุ้นโฟล์คสวาเกน เพิ่มขึ้น 4.1% หุ้น BMW พุ่งขึ้น 3% และหุ้นเดมเลอร์ ดีดตัวขึ้น 4%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 254.69 จุด รับหุ้นเทคโนฯดีดตัว,ข้อมูลศก.สหรัฐสดใส
       ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นเฟซบุ๊ก และหุ้นไมโครซอฟท์ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์ก นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนบางกลุ่มเข้าซื้อหุ้นเพื่อตกแต่งบัญชี (window dressing) ในการซื้อขายวันสุดท้ายของไตรมาส 1/2561
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,103.11 จุด พุ่งขึ้น 254.69 จุด หรือ +1.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,640.87 จุด เพิ่มขึ้น 35.87 จุด หรือ +1.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,063.44 จุด เพิ่มขึ้น 114.22 จุด หรือ +1.64%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 215,000 ราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2516 โดยตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 158 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค.
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 4.4% หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดขึ้น 2.1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.5% หุ้นอเมซอน ปรับตัวขึ้น 1.1% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 3.2% และหุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 0.8%
ทั้งนี้ หุ้นเฟซบุ๊กดีดตัวขึ้นหลังจากบริษัทประกาศแผนการรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ซึ่งรวมถึงการควบคุมข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกับบริษัทต่างๆ ซึ่งรวมถึง Acxiom Corp และ Oracle Corp โดยบริษัทเหล่านี้ทำงานร่วมกับเฟซบุ๊กในการรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคเข้าสู่ระบบระบุเป้าหมายสำหรับการโฆษณา
ขณะที่หุ้นอเมซอนปรับตัวขึ้น หลังจากโฆษกทำเนียบขาวได้ออกมายืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่ได้พิจารณาการใช้มาตรการใดๆต่อบริษัทอเมซอน หลังจากหุ้นอเมซอนร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา จากข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณาใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาด เพื่อควบคุมอเมซอน รวมทั้งพิจารณาใช้มาตรการด้านภาษีต่ออเมซอนด้วยเช่นกัน
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นเชฟรอน ปรับตัวขึ้น 1.7% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 1% หุ้นมาราธอน ออยล์ ทะยานขึ้น 5.2% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดีดตัวขึ้น 1.9%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ดีดขึ้น 1.1% และหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 2.4%
ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.06% หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 1.8% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวขึ้น 1.02%
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ฟอร์ท พิทท์ แคปิตอล ในสหรัฐกล่าวว่า หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ มาจากการที่นักลงทุนบางกลุ่ม ซึ่งรวมถึงกลุ่มบริษัทจัดการกองทุน ได้เข้าซื้อหุ้นเพื่อการตกแต่งบัญชีในวันสุดท้ายของไตรมาส 1/2561 โดยเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำการซื้อขายเป็นวันสุดท้ายของไตรมาส 1 และตลาดจะปิดทำการซื้อขายในวันศุกร์ที่ 30 มี.ค. เนื่องในวัน Good Friday
--อินโฟเควสท์
OO7262

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!