WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นขานรับ ECB ลดดอกเบี้ย-ส่งสัญญาณทำ QE

    นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นไปก่อนที่จะชะลอตัว เพราะการขึ้นอาจจำกัดเนื่องจาก valuation สูงแล้ว ตลาดฯ มีแรงหนุนจากที่ธนาคารกลางยุโรป(ECB)ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.1% และส่งสัญญาณว่าจะทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE) ส่วนจะมากหรือน้อยแค่ไหนคงจะต้องรอดูในเดือนตุลาคมนี้

   ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า และเงินเยนอ่อนค่า ทำให้ตลาดญี่ปุ่นยังเป็นบวก ส่วนเงินยูโรคงอ่อนค่าต่อ แต่ใน short term อาจรีบาวด์ขานรับปัจจัย ECB อย่างไรก็ดี ยังต้องรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯคืนนี้ว่าจะมีสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ดังนั้น ด้วยปัจจัยจากยุโรปก็คาดว่าจะช่วยหนุนตลาดเกิดใหม่ในเอเชียวันนี้ได้

   พร้อมให้แนวรับ 1,575-1,567 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585-1,592 จุด ส่วนสัปดาห์หน้าก็มีลุ้นทดสอบแนว 1,600 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(4 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,069.58 จุด ลดลง 8.70 จุด (-0.05%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,562.29 จุด ลดลง 10.28 จุด (-0.22%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,997.65 จุด ลดลง 3.07 จุด(-0.15%)

            - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 116.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเพิ่มขึ้น 4.45 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 58.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 17.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.78 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.30 จุด

            - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 ก.ย.) 1,579.73 จุด ลดลง 3.54 จุด(-0.22%)

            - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 910.26 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ก.ย.57

            - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(4 ก.ย.)ที่ 94.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.09 ดอลลาร์

            - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(4 ก.ย.)ที่ 5.86 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

            - เงินบาทเปิด 32.12/14 อ่อนค่าตามภูมิภาคหลัง ECB ลดดอกเบี้ยหนุนดอลล์แข็ง

            - "แบงก์ชาติ"เผย คสช.คงเป้ากรอบเป้าหมายนโยบายการเงินปี 57 ยึดเงินเฟ้อพื้นฐาน 0.5-3% พร้อมสั่งติดตามใกล้ชิด ประชุมร่วมกันทุกไตรมาส ด้านนักเศรษฐศาสตร์ ประเมินเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปีโตเฉลี่ยแค่ 2.3% ชี้ผลจาก นโยบาย คสช.ดูแลก๊าซหุงต้ม

            - ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าบริหารประเทศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง 4 เดือนซ้อน ผลการสำรวจในเดือน ส.ค. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 80.1 สูงสุดในรอบ 13 เดือน สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนมีความหวังมากขึ้นหลังจากจัดตั้ง ครม.

            - บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย(บตท.) เผยปีนี้ได้ปรับลดเป้าหมายการรับซื้อพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินลงจากเดิมตั้งเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาท เหลือประมาณ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากกระทรวงการคลังมีนโยบายจำกัดงบประมาณจึงได้เลื่อนแผนเพิ่มทุนของ บตท.จำนวน 1,000 ล้านบาทออกไปก่อน ซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของ บตท. เพราะมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจได้

            - นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่ารัฐบาลควรจะต้องระวังการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่อาจจะสูงขึ้น หลังจากที่ลดราคาน้ำมันเบนซินลงเฉลี่ย 3-5 บาทแล้วแต่ประเภทน้ำมัน ในระยะสั้นอาจจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เล็กน้อย เพราะประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไปใช้ในด้านอื่น แต่ราคาที่ลดลงจะทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นและประชาชนใช้น้ำมันอย่างไร้ประสิทธิภาพ

            - กรมการค้าภายในบีบผู้ประกอบการตู้คอนเทนเนอร์ลดราคา 20-40 บาทต่อตู้ ชั่วคราว 3 เดือน มีผล 15 ก.ย.-31 ธ.ค. พร้อมขู่หากไม่ยอมจะงัดกฎหมายมาบังคับ ด้านบริษัทเรืออ้างเหตุนำเข้า-ส่งออกไทยหดตัว ทำต้นทุนเดินเรือสูง

*หุ้นเด่นวันนี้

            - AOT-AAV-ERW(เคทีบี)"เก็งกำไร"จากคาดการณ์ว่า คสช.จะผ่อนคลายกฎอัยการศึกบางพื้นที่วันนี้ โดยเฉพาะพื่นที่ที่มีความเรียบร้อย และแหล่งท่องเที่ยวมีแนวโน้มยกเลิกใช้กฎอัยการศึกเป็นลำดับแรกๆ เพื่อหนุนการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ดังนั้น หุ้นกลุ่มการบินและโรงแรมจะได้รับอานิสงส์ ให้ราคาเป้าหมาย AOT-AAV-ERW เท่ากับ 276, 5.40 และ 5.46 บาท ตามลำดับ

            - SVI(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"ราคาเหมาะสม 5.60 บาท กลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ได้อานิสงส์ ECB ลดดอกเบี้ยและส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าสูงสุดในรอบ 14 เดือน เงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าลง ขณะที่กลุ่มอิเล็กทรอนิคส์มีสัดส่วนกว่า 95% เป็นยอดขายสกุลเงิน USD พร้อมคาด 3Q57 จะเติบโตสูงทั้ง yoy และ qoq และมีโอกาสทำนิวไฮจากผลบวกตามฤดูกาล และรับรู้คำสั่งซื้อใหม่จากลูกค้ายุโรป ผลักดันให้กำไรปกติปี 57 โต +66.5% yoy เป็น 814 ล้านบาท และยังมี Valuation ที่ไม่แพง

            - TUF(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 81 บาท ซื้อ MerAlliance เป็นผู้รับจ้างผลิตแซลมอนรมควันในฝรั่งเศส มีส่วนแบ่งตลาด 20% ติด 1 ใน 5 อันดับแรกในยุโรป ฐานลูกค้าหลักคือ ฝรั่งเศส อังกฤษ สก็อตแลนด์ และโปแลนด์ คาดควบรวมแล้วเสร็จ 4Q14 จึงปรับเพิ่มรายได้ปีหน้า 5% และกำไรเพิ่มขึ้น 4% เติบโต 27% Y-Y เพราะดีลนี้ช่วยต่อยอดธุรกิจไปสู่ Chilled Seafood ที่ MerAlliance เชี่ยวชาญ จากปัจจุบันที่ TUF และ MWB เก่งในธุรกิจ Frozen Seafood และ Canned Seafood รวมถึงเป็นการขยายฐานลูกค้าในฝรั่งเศส และตลาดใหม่ TUF อย่าง สก็อตแลนด์ และโปแลนด์

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 4.39 จุด หลังธ.กลางอังกฤษตรึงดอกเบี้ย

            ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.)  หลังจากที่ทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษ ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ

            ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 4.39 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 6,877.97 จุด

            ตลาดบวกขึ้นเล็กน้อย หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษยังมีมติให้คงวงเงินของโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณไว้ที่ 3.75 แสนล้านปอนด์ (6.18 แสนล้านดอลลาร์)

            การตัดสินใจของธนาคารอังกฤษสอดคล้องกับการประเมินของตลาด และนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในลอนดอนยังคงคาดการณ์ว่าช่วงเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของธนาคารอังกฤษก็คือช่วงต้นปี 2558

            ทางด้านธนาคารกลางยุโรปมีมติลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมนโยบายการเงินว่า ธนาคารจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากภาคเอกชนในเดือนต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการกู้ยืมในยูโรโซน

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดพุ่งแรง ขานรับอีซีบีประกาศลดดอกเบี้ย

            ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และเตรียมซื้อสินทรัพย์ภาคเอกชนเดือนหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน

            ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 348.89 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.

            ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,724.26 จุด เพิ่มขึ้น 97.77 จุด หรือ +1.02% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,494.94 จุด เพิ่มขึ้น 73.07 จุด หรือ +1.65% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,877.97 จุด เพิ่มขึ้น 4.39 จุด หรือ +0.06%

            ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นหลังจากอีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยแถลงการณ์ของอีซีบีระบุว่า ดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่สถาบันการเงิน (Main refinancing operation) จะลดลงสู่ระดับ 0.05% จากเดิมที่ 0.15% และดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) จะลดลงสู่ระดับ -0.20% จาก -0.10%

            ด้านนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ว่า อีซีบีจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากภาคเอกชนในเดือนต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการกู้ยืมในยูโรโซน

            นายดรากิได้อธิบายถึงการตัดสินใจของธนาคารที่จะผ่อนคลายด้านสินเชื่อเพิ่มเติมว่า ธนาคารพิจารณาแนวโน้มเงินเฟ้อโดยรวมที่ยังอยู่ในระดับต่ำ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่อ่อนแรงลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลอดจนการเคลื่อนไหวของสินเชื่อและตลาดเงินที่ยังคงซบเซา

            หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นขานรับการประกาศลดดอกเบี้ยของอีซีบี โดยหุ้นยูนิเครดิต พุ่งขึ้น 5.1% หุ้นอินเทซา ซานเปาโล ปรับตัวขึ้น 5.6% และหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ พุ่งขึ้น 2.9%

            หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ พุ่งขึ้น 8.1% หลังจากมีรายงานว่าสแตนดาร์ด ไลฟ์ ได้ขายธุรกิจในแคนาดาให้กับบริษัทมานูไลฟ์ มูลค่า 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

            หุ้นแฮนเดอร์สัน ร่วงลง 1% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร หลังอีซีบีมีมติลดดอกเบี้ย

            ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด

            ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2939 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3145 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6334 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6454 ดอลลาร์

            ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 105.23 เยน เทียบกับระดับ 104.84 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9325 ฟรังค์ จาก 0.9179 ฟรังค์

            ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9351 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9345 ดอลลาร์

            การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของอีซีบีเมื่อวานนี้เป็นประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่างมาก เพื่อประเมินแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคที่อยู่ในภาวะอ่อนแอ โดยแถลงการณ์ของอีซีบีระบุว่า ดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่สถาบันการเงิน (Main refinancing operation) จะลดลงสู่ระดับ 0.05% จากเดิมที่ 0.15% และดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) จะลดลงสู่ระดับ -0.20% จาก -0.10%

            นอกจากนี้ นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมนโยบายการเงินวันนี้ว่า ธนาคารจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากภาคเอกชนในเดือนต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการกู้ยืมในยูโรโซน

            สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์ และนักวิเคราะห์เชื่อว่าแนวโน้มของยูโรจะเป็นไปในเชิงลบอย่างมากหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว

            ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ปรับตัวในทิศทางแตกต่างกัน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค. เพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 302,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 300,000 ราย

            ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนก.ค. ปรับตัวลดลง 0.6% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 4.055 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวขึ้นทำสถิติสูงสุด

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ก.ย.2557

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,069.58 จุด                          ลดลง 8.70 จุด     -0.05%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,562.29 จุด                       ลดลง 10.28 จุด    -0.22%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,997.65 จุด                        ลดลง 3.07 จุด     -0.15%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,877.97 จุด                     เพิ่มขึ้น 4.39 จุด    +0.06%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,724.26 จุด                              เพิ่มขึ้น 97.77 จุด   +1.02%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,494.94 จุด                          เพิ่มขึ้น 73.07 จุด   +1.65%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,428.89 จุด                             ลดลง 21.46 จุด    -0.23%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,676.18 จุด                       ลดลง 52.17 จุด    -0.33%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,056.26 จุด                           เพิ่มขึ้น 5.06 จุด    +0.25%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,632.10 จุด        ลดลง 22.50 จุด    -0.40%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,631.30 จุด              ลดลง 24.80 จุด    -0.44%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,306.86 จุด                       เพิ่มขึ้น 18.24 จุด   +0.80%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,204.11 จุด               ลดลง 1.91 จุด     -0.03%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,297.92 จุด                                ลดลง 20.03 จุด    -0.08%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,205.32 จุด      ลดลง 18.82 จุด    -0.36%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,869.21 จุด                      เพิ่มขึ้น 4.34 จุด    +0.23%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,346.34 จุด                      ลดลง 2.43 จุด     -0.07%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,085.93 จุด                        ลดลง 54.01 จุด    -0.20%

            ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ ซึ่งส่งผลให้ตลาดอ่อนแรงลง หลังจากที่เปิดตลาดพุ่งขึ้นขานรับการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,069.58 จุด ลดลง 8.70 จุด หรือ -0.05% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,562.29 จุด ลดลง 10.28 จุด หรือ -0.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,997.65 จุด ลดลง 3.07 จุด หรือ -0.15%

            ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และเตรียมซื้อสินทรัพย์ภาคเอกชนเดือนหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน

           ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 348.89 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,724.26 จุด เพิ่มขึ้น 97.77 จุด หรือ +1.02% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,494.94 จุด เพิ่มขึ้น 73.07 จุด หรือ +1.65% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,877.97 จุด เพิ่มขึ้น 4.39 จุด หรือ +0.06%

            ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.)  หลังจากที่ทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษ ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ

          ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 4.39 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 6,877.97 จุด

            สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมาย

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 94 เซนต์ ปิดที่ 101.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

            สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างเหนือความคาดหมาย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.30% ปิดที่ 1,266.5  ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.1 เซนต์ ปิดที่ 19.138 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 4.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,408.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 15.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 891.00 ดอลลาร์/ออนซ์

            ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด

          ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2939 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3145 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6334 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6454 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 105.23 เยน เทียบกับระดับ 104.84 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9325 ฟรังค์ จาก 0.9179 ฟรังค์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9351 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9345 ดอลลาร์

            ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,147.00 จุด เพิ่มขึ้น 5.00 จุด, +0.44%

 --อินโฟเควสท์ --

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!