- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 07 March 2018 13:15
- Hits: 1538
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนตัวลงตามภูมิภาคไร้ปัจจัยใหม่หนุน, จับตา สนช.ถกร่างกฎหมายเลือกตั้งพรุ่งนี้
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะอ่อนตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค จากความวิตกสถานการณ์การเมืองในสหรัฐหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของสหรัฐออกมาคัดค้านการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม โดยล่าสุดนายนายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้ว
สำหรับปัจจัยภายในประเทศยังคงต้องติดตามกรณีที่ สนช.จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง 2 ฉบับในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหากยังไม่สามารถลงมติเห็นชอบได้ก็อาจจะเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งที่รัฐบาลกำหนดให้มีขึ้นภายในเดือน ก.พ.62 ได้
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้นักลงทุนตอบรับปัจจัยลบต่าง ๆ ไปบ้างแล้วหลังจากบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศผลประกอบการปี 60 ออกมาครบทั้งหมด และรับรู้ประเด็นต่าง ๆ ไปแล้วทั้งการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น PTT ,คำพิพากษาคดีหงสาของ BANPU ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ก็น่าจะทำให้ความผันผวนของหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวนลดลง รวมถึงหุ้นกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าก็ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมาก็เชื่อว่าจะชะลอตัวการอ่อนตัวลงได้ในวันนี้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเมื่อวานนี้ ยังต้องจับตาว่าจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ ขณะที่นักลงทุนยังติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศที่ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) นอกจากนี้ ยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนมี.ค.นี้ด้วย
พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,792-1,787 จุด และแนวต้านที่ 1,810-1,815 จุด
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะอ่อนตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค จากความวิตกสถานการณ์การเมืองในสหรัฐหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของสหรัฐออกมาคัดค้านการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม โดยล่าสุดนายนายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้ว
สำหรับปัจจัยภายในประเทศยังคงต้องติดตามกรณีที่ สนช.จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง 2 ฉบับในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหากยังไม่สามารถลงมติเห็นชอบได้ก็อาจจะเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งที่รัฐบาลกำหนดให้มีขึ้นภายในเดือน ก.พ.62 ได้
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้นักลงทุนตอบรับปัจจัยลบต่าง ๆ ไปบ้างแล้วหลังจากบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศผลประกอบการปี 60 ออกมาครบทั้งหมด และรับรู้ประเด็นต่าง ๆ ไปแล้วทั้งการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น PTT ,คำพิพากษาคดีหงสาของ BANPU ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ก็น่าจะทำให้ความผันผวนของหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวนลดลง รวมถึงหุ้นกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าก็ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมาก็เชื่อว่าจะชะลอตัวการอ่อนตัวลงได้ในวันนี้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเมื่อวานนี้ ยังต้องจับตาว่าจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ ขณะที่นักลงทุนยังติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศที่ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) นอกจากนี้ ยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนมี.ค.นี้ด้วย
พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,792-1,787 จุด และแนวต้านที่ 1,810-1,815 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,884.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.36 จุด (+0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,728.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.18 จุด (+0.26%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,372.01 จุด เพิ่มขึ้น 41.30 จุด (+0.56%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 155.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 186.96 จุด , ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 21.35 จุดจุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.98 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 24.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.35 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 มี.ค.61) 1,799.06 จุด ลดลง 9.83 จุด (-0.54%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,167.57 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 มี.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 62.60
ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือเกือบ 0.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 มี.ค.61) ที่ 7.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.30 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯสัปดาห์นี้
- ตลาดหลักทรัพย์ฯเผยกำไรบจ.ปี 60 ใกล้ 1 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มองทิศทางปีนี้ยังโตต่อเนื่องอานิสงส์เศรษฐกิจในประเทศฟื้น ส่งออก-น้ำมันเสริม แนะจับตาการปรับดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ-เปลี่ยนมาตรฐานบัญชีใหม่ อาจกระทบกลุ่มแบงก์ จ่อออกคำแนะนำผู้ลงทุนในการลงทุนไอซีโอ ขณะที่คาดปี 61 กำไรบจ.มีโอกาสทำได้มากกว่าปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับภาพรวมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศที่เห็นสัญญาณตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา และน่าจะต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีนี้
- กกร.กังวลการลงทุนของภาครัฐในไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2561 หดตัว 6% จากปีก่อน แถมเบิกจ่ายงบ ได้แค่ 3% ทำให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจล่าช้า คาดส่วนหนึ่งจาก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างใหม่ หวังรัฐจะเร่งแก้ไขเพื่อป้องกันผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะที่ลงทุนเอกชนคาดว่าจะคึกคักในไตรมาส 2 หลัง พ.ร.บ.อีอีซีฉลุย
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งหนังสือเวียนไปถึงธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) แจ้งให้เตรียมความพร้อมในการรายงานข้อมูลการชำระเงินตามแบบรายงานที่ปรับปรุงใหม่ให้เพียงพอสนับสนุนการดำเนินนโยบายและการกำกับดูแลด้านการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีจูงใจให้นายจ้างที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนำค่าจ้างที่จ่ายให้กับลูกจ้างที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ซึ่งจ่ายเงินค่าจ้างผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นำเงินที่จ่ายเป็นค่าจ้างมาหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่าของค่าจ้างที่จ่ายไป แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 10% ของจำนวนลูกจ้างในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
- นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน รองผู้ว่าการด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยในหนังสือ บีโอที พระสยาม แมกกาซีน ซึ่งเป็นหนังสือรายเดือนของ ธปท. ในปีนี้การดำเนินนโยบายการเงินจะเผชิญความท้าทาย 3 ประการ ได้แก่ การปรับอัตราดอกเบี้ยไปสู่ภาวะปกติมากขึ้น ซึ่งจะต้องส่งสัญญาณล่วงหน้าผ่านทางนโยบายเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของนโยบาย และเพื่อให้ไม่ไปกระทบแรงส่งทางเศรษฐกิจ
- สรรพากรเดินหน้าเก็บภาษีธุรกิจออนไลน์ ชงครม.ภายใน มี.ค.นี้ เผยยอดคืนภาษีบุคคลธรรมดาแล้วกว่าหมื่นล้านบาท จับมือพาณิชย์เชื่อมโยงฐานข้อมูลงบการเงินนิติบุคคล เพิ่มความสะดวก-ลดต้นทุนประเทศ
- "วิษณุ" เรียกถกด่วน 4 หน่วยงาน คลัง-ธปท.ก.ล.ต.-ปปง. ในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อสรุปแนวทางออกหลักเกณฑ์เข้ม คุม "คริปโตเคอเรนซี-ICO" แนวทางต้องชัดนำเงินไปลงทุนแลกเปลี่ยนอะไร จี้พิสูจน์ตัวตนได้เพื่อความโปร่งใส
- ดีเดย์ ธ.พาณิชย์ตั้งแบงก์กิ้งเอเย่นต์ โดยเมื่อวันที่ 5 มี.ค.61 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ที่ สนส. 3/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับช่องทางให้บริการของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ หรือมีผลในวันที่ 6 มี.ค.เป็นต้นไป เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการตามพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และปรับตามการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้ลูกค้าจะได้รับความสะดวกมากขึ้น
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,884.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.36 จุด (+0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,728.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.18 จุด (+0.26%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,372.01 จุด เพิ่มขึ้น 41.30 จุด (+0.56%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 155.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 186.96 จุด , ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 21.35 จุดจุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.98 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 24.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.35 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 มี.ค.61) 1,799.06 จุด ลดลง 9.83 จุด (-0.54%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,167.57 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 มี.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 62.60
ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือเกือบ 0.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 มี.ค.61) ที่ 7.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.30 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯสัปดาห์นี้
- ตลาดหลักทรัพย์ฯเผยกำไรบจ.ปี 60 ใกล้ 1 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มองทิศทางปีนี้ยังโตต่อเนื่องอานิสงส์เศรษฐกิจในประเทศฟื้น ส่งออก-น้ำมันเสริม แนะจับตาการปรับดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ-เปลี่ยนมาตรฐานบัญชีใหม่ อาจกระทบกลุ่มแบงก์ จ่อออกคำแนะนำผู้ลงทุนในการลงทุนไอซีโอ ขณะที่คาดปี 61 กำไรบจ.มีโอกาสทำได้มากกว่าปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับภาพรวมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศที่เห็นสัญญาณตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา และน่าจะต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีนี้
- กกร.กังวลการลงทุนของภาครัฐในไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2561 หดตัว 6% จากปีก่อน แถมเบิกจ่ายงบ ได้แค่ 3% ทำให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจล่าช้า คาดส่วนหนึ่งจาก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างใหม่ หวังรัฐจะเร่งแก้ไขเพื่อป้องกันผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะที่ลงทุนเอกชนคาดว่าจะคึกคักในไตรมาส 2 หลัง พ.ร.บ.อีอีซีฉลุย
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งหนังสือเวียนไปถึงธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) แจ้งให้เตรียมความพร้อมในการรายงานข้อมูลการชำระเงินตามแบบรายงานที่ปรับปรุงใหม่ให้เพียงพอสนับสนุนการดำเนินนโยบายและการกำกับดูแลด้านการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีจูงใจให้นายจ้างที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนำค่าจ้างที่จ่ายให้กับลูกจ้างที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ซึ่งจ่ายเงินค่าจ้างผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นำเงินที่จ่ายเป็นค่าจ้างมาหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่าของค่าจ้างที่จ่ายไป แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 10% ของจำนวนลูกจ้างในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
- นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน รองผู้ว่าการด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยในหนังสือ บีโอที พระสยาม แมกกาซีน ซึ่งเป็นหนังสือรายเดือนของ ธปท. ในปีนี้การดำเนินนโยบายการเงินจะเผชิญความท้าทาย 3 ประการ ได้แก่ การปรับอัตราดอกเบี้ยไปสู่ภาวะปกติมากขึ้น ซึ่งจะต้องส่งสัญญาณล่วงหน้าผ่านทางนโยบายเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของนโยบาย และเพื่อให้ไม่ไปกระทบแรงส่งทางเศรษฐกิจ
- สรรพากรเดินหน้าเก็บภาษีธุรกิจออนไลน์ ชงครม.ภายใน มี.ค.นี้ เผยยอดคืนภาษีบุคคลธรรมดาแล้วกว่าหมื่นล้านบาท จับมือพาณิชย์เชื่อมโยงฐานข้อมูลงบการเงินนิติบุคคล เพิ่มความสะดวก-ลดต้นทุนประเทศ
- "วิษณุ" เรียกถกด่วน 4 หน่วยงาน คลัง-ธปท.ก.ล.ต.-ปปง. ในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อสรุปแนวทางออกหลักเกณฑ์เข้ม คุม "คริปโตเคอเรนซี-ICO" แนวทางต้องชัดนำเงินไปลงทุนแลกเปลี่ยนอะไร จี้พิสูจน์ตัวตนได้เพื่อความโปร่งใส
- ดีเดย์ ธ.พาณิชย์ตั้งแบงก์กิ้งเอเย่นต์ โดยเมื่อวันที่ 5 มี.ค.61 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ที่ สนส. 3/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับช่องทางให้บริการของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ หรือมีผลในวันที่ 6 มี.ค.เป็นต้นไป เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการตามพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และปรับตามการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้ลูกค้าจะได้รับความสะดวกมากขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- BANPU (เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ) หลังคำตัดสินของศาลฎีกาเชื่อว่า BANPU จะกลับไปเคลื่อนไหวสะท้อนปัจจัยพื้นฐานมากขึ้น ระยะสั้นแนวโน้มตลาดถ่านหินยังตึงตัวต่อไปจนถึงช่วงกลางปี 61 ทำให้ยังคงแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 24 บาท บนสมมติฐานราคาถ่านหินอ้างอิง 70 เหรียญต่อตัน ซึ่งประมาณการดังกล่าวยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย Consensus จากสมมติฐานราคาถ่านหินที่ต่ำกว่าราคาเฉลี่ย YTD ที่ 107 เหรียญต่อตัน จาก Sensitivity แสดงให้เห็นว่าทุก 5 เหรียญต่อตันที่ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการปี 61 ของ BANPU 5% หรือสะท้อนเป็นมูลค่า 1 บาทต่อหุ้นหากใช้สมมติราคาปรับขึ้น 5 เหรียญต่อตันในระยะยาว
ส่วนกรณีคำสั่งศาลฎีกา BANPU จะรับภาระชดเชย 1,800 ล้านบาท (0.35 บาทต่อหุ้น BANPU) ต่ำกว่าที่เคยประเมินอ้างอิงคำส่งศาลชั้นต้นที่คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันที่ 3.3 บาทต่อหุ้น ส่วน BPP จะรับภาระชดเชย 900 ล้านบาท หรือ 0.29 ต่อหุ้น BPP ทั้งนี้ BANPU และ BPP จะบันทึกค่าชดเชยในผลประกอบการ Q1/61 ส่งผลกระทบต่อประมาณการปี 61 ของ BANPU 21.8% และ ประมาณการของ BPP 15.8%
- QH (เอเอสแอล) แนะ"ซื้อ"ราคาเหมาะสมที่ 3.92 บาท ราคาหุ้นปัจจุบัน Laggard SET Index และให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูงมากกว่า 4.3% ในครึ่งปีหลัง เป็นโอกาสเข้าซื้อลงทุน และ Defensive กับตลาดที่ค่อนข้างผันผวน มี Catalyst เชิงบวกจากมุมมองกลยุทธ์หนุนให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทั้ง(1)ฐานที่ต่ำในช่วงท้ายปี 60 จากการเร่งระบายสต็อกที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง แต่คาดว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปีจากการปรับราคาขายบางส่วน(2)แนวโน้ม SG&A ที่ลดลงในช่วงไตรมาส 3-4/60 ต่อเนื่องจากการลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด และ(3)ตั้งเป้า Presales คาดการณ์เพิ่มขึ้น 10% YoY เด่นสุดรอบ 2 ปีหากสามารถทำได้ตามเป้า
- GFPT (ฟินันเซีย ไซรรัส) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 18 บาท เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของราคาไก่ในประเทศ จากข่าวจีนอนุญาต 7 โรงงานไทย รวม GFPT ,CPF ,TFG ให้ส่งออกชิ้นส่วนไก่ไปที่จีนได้ คาดราคาไก่จะฟื้นช่วง Q2-Q3/61 ถือเป็น Sentiment บวกต่อราคาหุ้น ส่วนแนวโน้มกำไรปีนี้ไม่สดใสนักคาด +5.6% Y-Y เพราะเจอทั้งบาทแข็ง ราคาวัตถุดิบขึ้น และค่าแรงแพง แต่ราคาหุ้นก็ปรับลงมากจน Valuation ถูก
ส่วนกรณีคำสั่งศาลฎีกา BANPU จะรับภาระชดเชย 1,800 ล้านบาท (0.35 บาทต่อหุ้น BANPU) ต่ำกว่าที่เคยประเมินอ้างอิงคำส่งศาลชั้นต้นที่คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันที่ 3.3 บาทต่อหุ้น ส่วน BPP จะรับภาระชดเชย 900 ล้านบาท หรือ 0.29 ต่อหุ้น BPP ทั้งนี้ BANPU และ BPP จะบันทึกค่าชดเชยในผลประกอบการ Q1/61 ส่งผลกระทบต่อประมาณการปี 61 ของ BANPU 21.8% และ ประมาณการของ BPP 15.8%
- QH (เอเอสแอล) แนะ"ซื้อ"ราคาเหมาะสมที่ 3.92 บาท ราคาหุ้นปัจจุบัน Laggard SET Index และให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูงมากกว่า 4.3% ในครึ่งปีหลัง เป็นโอกาสเข้าซื้อลงทุน และ Defensive กับตลาดที่ค่อนข้างผันผวน มี Catalyst เชิงบวกจากมุมมองกลยุทธ์หนุนให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทั้ง(1)ฐานที่ต่ำในช่วงท้ายปี 60 จากการเร่งระบายสต็อกที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง แต่คาดว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปีจากการปรับราคาขายบางส่วน(2)แนวโน้ม SG&A ที่ลดลงในช่วงไตรมาส 3-4/60 ต่อเนื่องจากการลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด และ(3)ตั้งเป้า Presales คาดการณ์เพิ่มขึ้น 10% YoY เด่นสุดรอบ 2 ปีหากสามารถทำได้ตามเป้า
- GFPT (ฟินันเซีย ไซรรัส) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 18 บาท เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของราคาไก่ในประเทศ จากข่าวจีนอนุญาต 7 โรงงานไทย รวม GFPT ,CPF ,TFG ให้ส่งออกชิ้นส่วนไก่ไปที่จีนได้ คาดราคาไก่จะฟื้นช่วง Q2-Q3/61 ถือเป็น Sentiment บวกต่อราคาหุ้น ส่วนแนวโน้มกำไรปีนี้ไม่สดใสนักคาด +5.6% Y-Y เพราะเจอทั้งบาทแข็ง ราคาวัตถุดิบขึ้น และค่าแรงแพง แต่ราคาหุ้นก็ปรับลงมากจน Valuation ถูก
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าอ่อนตัวลง เหตุวิตกสถานการณ์การเมืองและการค้าสหรัฐ
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองและนโยบายการของรัฐบาลสหรัฐ ภายหลังจากที่นายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับนโยบายการจัดเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 30,403.04 จุด ลดลง 107.69 จุด, -0.35% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,377.07 จุด ลดลง 40.69 จุด, -0.19% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,838.96 จุด ลดลง 9.41 จุด, -0.51%
นายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม เพื่อปกป้องภาคอุตสาหกรรมของประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปตามที่ปธน.ทรัมป์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า นายโคห์นจะลาออกจากตำแหน่ง ถ้าหากสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม
ทั้งนี้ นายโคห์นถือเป็นที่ปรึกษาที่น่าเชื่อถือสำหรับปธน.ทรัมป์สำหรับการให้คำแนะนำด้านเศรษฐกิจและตลาด
สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 ขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งขยายตัว 0.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.6%
รายงานของสำนักงานสถิติระบุว่า GDP ไตรมาส 4 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ได้ถูกหักลบด้วยการร่วงลงของยอดส่งออก
ทั้งนี้ การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของออสเตรเลียในไตรมาส 4 ปรับตัวขึ้น 1% ขณะที่ยอดส่งออกสินค้าและอุปกรณ์ด้านการขนส่ง ปรับตัวลง ส่วนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยก็ปรับตัวลงเช่นกัน
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 30.77 จุด รับสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีส่งสัญญาณคลี่คลาย
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเริ่มคลี่คลายลง หลังจากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ประกาศจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีในปลายเดือนหน้า นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอาจจะไม่เดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐได้ออกมาคัดค้านแผนการดังกล่าว
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,146.75 จุด เพิ่มขึ้น 30.77 จุด หรือ +0.43%
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีในปลายเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นการพบปะกันเป็นครั้งแรกระหว่างนาย คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
การประชุมสุดยอดดังกล่าวจะมีขึ้นที่หมู่บ้านปันมูนจอมในเขตปลอดทหารที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดหวังว่าปธน.ทรัมป์อาจจะไม่เดินหน้าแผนการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม หลังจากนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อการที่ปธน.ทรัมป์ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้ปธน.ทรัมป์ยกเลิกแผนการดังกล่าวเช่นกัน
หุ้นเทสโก้ พุ่งขึ้น 3.4% และหุ้นดับบลิวเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ ดีดตัวขึ้น 0.1% หลังจากผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยแคนตาร์ เวิลด์พาเนล ระบุว่า ธุรกิจของห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ทั้งสองแห่งนี้มีการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในอังกฤษในช่วง 12 สัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นสเมอร์ฟิท คัปปา กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งวัสดุ พุ่งขึ้น 20% หลังจากสเมอร์ฟิท คัปปา ได้ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจากบริษัทอินเตอร์เนชันแนล เปเปอร์
หุ้นจัสอีท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งอาหารนอกสถานที่ ดิ่งลง 13% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนก่อนหักภาษีในปี 2560
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีส่งสัญญาณคลี่คลาย
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ประกาศจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีในปลายเดือนหน้า นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอาจจะไม่เดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐได้ออกมาคัดค้านแผนการดังกล่าว
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 371.36 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,113.87 จุด เพิ่มขึ้น 23.00 จุด หรือ +0.19% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,146.75 จุด เพิ่มขึ้น 30.77 จุด หรือ +0.43% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,170.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.00 จุด หรือ +0.06%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีในปลายเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นการพบปะกันเป็นครั้งแรกระหว่างนาย คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดดังกล่าวจะมีขึ้นที่หมู่บ้านปันมูนจอมในเขตปลอดทหารที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดหวังว่าปธน.ทรัมป์อาจจะไม่เดินหน้าแผนการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม หลังจากนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อการที่ปธน.ทรัมป์ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้ปธน.ทรัมป์ยกเลิกแผนการดังกล่าวเช่นกัน
หุ้นเทสโก้ พุ่งขึ้น 3.4% และหุ้นดับบลิวเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ ดีดตัวขึ้น 0.1% หลังจากผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยแคนตาร์ เวิลด์พาเนล ระบุว่า ธุรกิจของห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ทั้งสองแห่งนี้มีการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในอังกฤษในช่วง 12 สัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นสเมอร์ฟิท คัปปา กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งวัสดุ พุ่งขึ้น 20% หลังจากสเมอร์ฟิท คัปปา ได้ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจากบริษัทอินเตอร์เนชันแนล เปเปอร์
หุ้นจัสอีท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งอาหารนอกสถานที่ ดิ่งลง 13% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนก่อนหักภาษีในปี 2560
หุ้นเทเลคอม อาลิตาเลีย พุ่งขึ้น 6% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทอิลเลียต เมเนจเมนท์ ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ กำลังพิจารณาเพิ่มการซื้อหุ้นในเทเลคอม อาลิตาเลีย
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 9.36 จุด เหตุวิตกข้อพิพาทนโยบายการค้าสหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านนโยบายการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยืนยันว่า เขาจะเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของสหรัฐได้ออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งรวมถึงนายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ที่ประกาศว่าจะลาออก หากปธน.ทรัมป์ยังเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,884.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.36 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,728.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.18 จุด หรือ +0.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,372.01 จุด เพิ่มขึ้น 41.30 จุด หรือ +0.56%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านนโยบายการค้า หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า เขาจะไม่ยอมเดินถอยหลังในเรื่องแผนเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม แม้ประเด็นดังกล่าวกำลังเป็นที่ถกเถียงกันในขณะนี้ก็ตาม
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ออกมาแสดงท่าทีต่อต้านมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม พร้อมกับเรียกร้องให้ปธน.ทรัมป์ยกเลิกแผนการดังกล่าว
ขณะที่นายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า เขาจะลาออกหากปธน.ทรัมป์ยังเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าว และล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย นายโคห์นได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้ว ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน เนื่องจากนายโคห์นถือเป็นที่ปรึกษาที่น่าเชื่อถือสำหรับปธน.ทรัมป์สำหรับการให้คำแนะนำด้านเศรษฐกิจและตลาด
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนในระดับหนึ่ง จากรายงานข่าวที่ว่า เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีในปลายเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นการพบปะกันเป็นครั้งแรกระหว่างนาย คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ โดยข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี
หุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 4.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2560 ที่ระดับ 1.37 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.38 ดอลลาร์/หุ้น
หุ้นยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส ดีดตัวขึ้น 3.8% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นยูไนเต็ด พาร์เซิล อันเนื่องมาจากการประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผลของบริษัท
หุ้นควอลคอม อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 2.9% หลังจากควอลคอมยังคงปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจากบรอดคอม ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพในธุรกิจสื่อสาร
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐดิ่งลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือนในเดือนม.ค. โดยร่วงลง 1.4% หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 เดือน โดยยอดสั่งซื้อที่ดิ่งลงในเดือนม.ค.นั้น ได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของคำสั่งซื้อเครื่องบิน
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP, ดุลการค้าเดือนม.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.
--อินโฟเควสท์
OO6135