- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 20 February 2018 11:38
- Hits: 5278
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์กรอบแคบ หลังขาดปัจจัยใหม่หนุน-ตลาดภูมิภาคติดลบ, จับตาบจ.ประกาศงบฯ
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดฯขาดปัจจัยใหม่หนุน ขณะเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็อยู่ในแดนลบเกือบทุกตลาดฯ แต่ก็ติดลบเล็กน้อย
เนื่องจากต่างรอดูรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในครั้งที่แล้ว ซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้ โดยจับตาจะมีการพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไรบ้าง และจะพูดถึงเงินเฟ้ออย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ได้ปรับตัวขึ้นสูง ทำให้คนมองถึงโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้
ทั้งนี้ ปัจจัยนอกประเทศตอนนี้ก็ดูนิ่ง ส่วนปัจจัยในประเทศก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเราได้ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว ดังนั้นก็อาจจะมีแรง Take Profit บ้าง
พร้อมให้แนวรับ 1,803-1,800 จุด ส่วนแนวต้าน 1,813-1,820 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ (19 ก.พ.61) เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 94.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 9.47 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.94 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 49.86 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 16.94 จุด
ส่วนตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ก.พ.61) 1,809.67 จุด เพิ่มขึ้น 3.78 จุด (+0.21%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,430.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.พ.61
- ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการ (19 ก.พ.61) เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ก.พ.61) ที่ 7.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.40 ทรงตัวจากวานนี้ ยังไร้ปัจจัยใหม่ มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 31.30-31.50
- "สมคิด" เรียก 5 หน่วยงาน เศรษฐกิจวางเกณฑ์รับมือไอซีโอ-คริปโตเคอเรนซี จ่อออกประกาศ 2 ฉบับควบคุม มี.ค.นี้ ให้ไอซีโอเป็นหลักทรัพย์ภายใต้กำกับ ก.ล.ต. ต้องขึ้นทะเบียนตัวกลางซื้อขาย ดูแลซื้อขายคริปโตเคอเรนซี ป้องกันฟอกเงิน ปลอดภัยไซเบอร์ "รพี" คาดบริษัทจดทะเบียนเร่งระดมทุนช่วงปลอดเกณฑ์กำกับ "สมคิด" ชี้จำเป็นต้องมีกติกาคุมเสี่ยง
- สศช.แถลงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/60 ขยายตัว 4% ทั้งปี 60 ขยายตัว 3.9% ประเมินจีดีพีปีนี้เฉลี่ยขยายตัว 4.1% "ปรเมธี" ชี้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่โหมดโต ตามศักยภาพ หวังส่งออกขยายตัว 6.8% ตามภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้น แนะรับมือความผันผวนค่าบาท หลังบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง ขณะสินค้าเกษตรติดตามใกล้ชิด "สมคิด" พอใจจีดีพีปี 60 ย้ำต้องเร่งสร้างฐานใหม่เศรษฐกิจ พร้อมให้การบ้านทูตพาณิชย์ทั่วโลก ดันเป้าส่งออกปีนี้โต 8%
- แบงก์ชาติ แจ้งปรับเกณฑ์ช่องทางให้บริการของธนาคารพาณิชย์ เพิ่มธุรกรรมให้กับตัวแทนของธนาคาร(Banking Agent) และตัวแทนให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้า รับฝากเงินโอนเงินรายย่อยวงเงิน 5,000-20,000 บาท ย้ำอนุญาตให้ทำแบงกิ้งเอเยนต์เท่านั้น ไม่ใช่แบงกิ้งไลเซนส์ คาดจะลงราชกิจจานุเบกษาในเดือนมีนาคมนี้
- "ปลัดคลัง" เผยอยู่ระหว่างทบทวนโครงสร้างภาษีนำเข้ารถยนต์ พร้อมนำความเห็นทุกฝ่ายมาศึกษารอบด้าน เตรียมชง ครม.เก็บ "ภาษีลาภลอย" หวังขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้น
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยค่าเงินบาทจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันการส่งออก โดยค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้ม แข็งค่าอยู่ที่ราว 31-31.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงนี้ อาจกระทบต่อรายได้ในรูปเงินบาท ของผู้ส่งออกไทย ประกอบกับ ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในเดือน ม.ค.ที่ยังแข็งค่าขึ้นกว่า 5.4% ก็สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันด้านอัตราแลกเปลี่ยนของไทยที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่ค้า
*หุ้นเด่นวันนี้
- MINT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 48 บาท กำไรปกติ Q4/60 ใกล้เคียงคาดที่ 1,611 ล้านบาท +41% Q-Q, +19.6% Y-Y จาก High Season รายได้ +2.8% Q-Q และ 9.3% Y-Y ต้นทุนแม้จะสูงกว่าคาดเล็กน้อย แต่ชดเชยได้จากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและรายได้อื่นที่ดีกว่าคาด ทำให้ทั้งปี 2560 มีกำไรปกติ 5,415 ล้านบาท +18.3% Y- แนวโน้ม Q1/61 ยังมีโมเมนตัมที่ดีและคาดทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ส่วนปี 2561 คาดยังสดใสจากธุรกิจโรงแรมที่ขยายตัวดีทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ธุรกิจอาหารจะค่อย ๆ เห็น Same Store Sales Growth พลิกเป็นบวกจากการบริโภคที่ฟื้นตัว คาดกำไรปกติปี +20% Y-Y
- CHG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า Consensus 88 บาท ผลกำไรสุทธิ Q4/60 กลับมาฟื้นตัวจากฐานลูกค้าเงินสดกลับมาเติบโต ทำให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ Q4/60 ประมาณ 149 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%yoy
- TWPC (ไอร่า) เป้า 12.60 บาท แม้ผลประกอบการปี 60 จะชะลอตัว จากค่าใช้จ่ายในการขยายธุรกิจ แต่มองว่าเป็นปีของการสร้างฐาน ก่อนจะเติบโตในปีต่อๆ ไป โดยคาดกำไรสุทธิปี 61-62 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17% ต่อปี พร้อมคาด Div.Yield ประมาณ 4.0 – 4.5% ทั้งนี้เงินสดในมือจำนวนมากราว 1.5 พันล้านบาท และ EBITDA อีกราวปีละ 1 พันล้านบาท พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งการเติบโตแบบ Organic และ Inorganic ภายใต้การทำ M&A ซึ่งคาดช่วยเพิ่มกำลังการผลิต การขยายตลาดส่งออก และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
- PTTGC (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 107 บาท กำไรสุทธิปี 2560 ดีกว่าที่คาดเล็กน้อย 4% ที่ 39.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.5% จากปีก่อนหน้า กำไรปกติ Q4/60 + 11% YoY และ+35% QoQ จากปริมาณการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นและราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหลักมาจากอุตสาหกรรมโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง มีการบันทึกผลขาดทุน จากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ส่งผลให้กำไรสุทธิ Q4/60 ปรับตัวลดลงเล็กน้อย -2%YoY และ-4%QoQ คาดจะมีกำไรสุทธิปี 2561 โตขึ้น 10% เนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิตและคู่แข่งขันเลื่อนการขึ้นกำลังการผลิต
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดฯขาดปัจจัยใหม่หนุน ขณะเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็อยู่ในแดนลบเกือบทุกตลาดฯ แต่ก็ติดลบเล็กน้อย
เนื่องจากต่างรอดูรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในครั้งที่แล้ว ซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้ โดยจับตาจะมีการพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไรบ้าง และจะพูดถึงเงินเฟ้ออย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ได้ปรับตัวขึ้นสูง ทำให้คนมองถึงโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้
ทั้งนี้ ปัจจัยนอกประเทศตอนนี้ก็ดูนิ่ง ส่วนปัจจัยในประเทศก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเราได้ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว ดังนั้นก็อาจจะมีแรง Take Profit บ้าง
พร้อมให้แนวรับ 1,803-1,800 จุด ส่วนแนวต้าน 1,813-1,820 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ (19 ก.พ.61) เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 94.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 9.47 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.94 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 49.86 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 16.94 จุด
ส่วนตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ก.พ.61) 1,809.67 จุด เพิ่มขึ้น 3.78 จุด (+0.21%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,430.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.พ.61
- ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการ (19 ก.พ.61) เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ก.พ.61) ที่ 7.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.40 ทรงตัวจากวานนี้ ยังไร้ปัจจัยใหม่ มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 31.30-31.50
- "สมคิด" เรียก 5 หน่วยงาน เศรษฐกิจวางเกณฑ์รับมือไอซีโอ-คริปโตเคอเรนซี จ่อออกประกาศ 2 ฉบับควบคุม มี.ค.นี้ ให้ไอซีโอเป็นหลักทรัพย์ภายใต้กำกับ ก.ล.ต. ต้องขึ้นทะเบียนตัวกลางซื้อขาย ดูแลซื้อขายคริปโตเคอเรนซี ป้องกันฟอกเงิน ปลอดภัยไซเบอร์ "รพี" คาดบริษัทจดทะเบียนเร่งระดมทุนช่วงปลอดเกณฑ์กำกับ "สมคิด" ชี้จำเป็นต้องมีกติกาคุมเสี่ยง
- สศช.แถลงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/60 ขยายตัว 4% ทั้งปี 60 ขยายตัว 3.9% ประเมินจีดีพีปีนี้เฉลี่ยขยายตัว 4.1% "ปรเมธี" ชี้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่โหมดโต ตามศักยภาพ หวังส่งออกขยายตัว 6.8% ตามภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้น แนะรับมือความผันผวนค่าบาท หลังบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง ขณะสินค้าเกษตรติดตามใกล้ชิด "สมคิด" พอใจจีดีพีปี 60 ย้ำต้องเร่งสร้างฐานใหม่เศรษฐกิจ พร้อมให้การบ้านทูตพาณิชย์ทั่วโลก ดันเป้าส่งออกปีนี้โต 8%
- แบงก์ชาติ แจ้งปรับเกณฑ์ช่องทางให้บริการของธนาคารพาณิชย์ เพิ่มธุรกรรมให้กับตัวแทนของธนาคาร(Banking Agent) และตัวแทนให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้า รับฝากเงินโอนเงินรายย่อยวงเงิน 5,000-20,000 บาท ย้ำอนุญาตให้ทำแบงกิ้งเอเยนต์เท่านั้น ไม่ใช่แบงกิ้งไลเซนส์ คาดจะลงราชกิจจานุเบกษาในเดือนมีนาคมนี้
- "ปลัดคลัง" เผยอยู่ระหว่างทบทวนโครงสร้างภาษีนำเข้ารถยนต์ พร้อมนำความเห็นทุกฝ่ายมาศึกษารอบด้าน เตรียมชง ครม.เก็บ "ภาษีลาภลอย" หวังขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้น
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยค่าเงินบาทจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันการส่งออก โดยค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้ม แข็งค่าอยู่ที่ราว 31-31.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงนี้ อาจกระทบต่อรายได้ในรูปเงินบาท ของผู้ส่งออกไทย ประกอบกับ ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในเดือน ม.ค.ที่ยังแข็งค่าขึ้นกว่า 5.4% ก็สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันด้านอัตราแลกเปลี่ยนของไทยที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่ค้า
*หุ้นเด่นวันนี้
- MINT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 48 บาท กำไรปกติ Q4/60 ใกล้เคียงคาดที่ 1,611 ล้านบาท +41% Q-Q, +19.6% Y-Y จาก High Season รายได้ +2.8% Q-Q และ 9.3% Y-Y ต้นทุนแม้จะสูงกว่าคาดเล็กน้อย แต่ชดเชยได้จากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและรายได้อื่นที่ดีกว่าคาด ทำให้ทั้งปี 2560 มีกำไรปกติ 5,415 ล้านบาท +18.3% Y- แนวโน้ม Q1/61 ยังมีโมเมนตัมที่ดีและคาดทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ส่วนปี 2561 คาดยังสดใสจากธุรกิจโรงแรมที่ขยายตัวดีทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ธุรกิจอาหารจะค่อย ๆ เห็น Same Store Sales Growth พลิกเป็นบวกจากการบริโภคที่ฟื้นตัว คาดกำไรปกติปี +20% Y-Y
- CHG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า Consensus 88 บาท ผลกำไรสุทธิ Q4/60 กลับมาฟื้นตัวจากฐานลูกค้าเงินสดกลับมาเติบโต ทำให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ Q4/60 ประมาณ 149 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%yoy
- TWPC (ไอร่า) เป้า 12.60 บาท แม้ผลประกอบการปี 60 จะชะลอตัว จากค่าใช้จ่ายในการขยายธุรกิจ แต่มองว่าเป็นปีของการสร้างฐาน ก่อนจะเติบโตในปีต่อๆ ไป โดยคาดกำไรสุทธิปี 61-62 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17% ต่อปี พร้อมคาด Div.Yield ประมาณ 4.0 – 4.5% ทั้งนี้เงินสดในมือจำนวนมากราว 1.5 พันล้านบาท และ EBITDA อีกราวปีละ 1 พันล้านบาท พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งการเติบโตแบบ Organic และ Inorganic ภายใต้การทำ M&A ซึ่งคาดช่วยเพิ่มกำลังการผลิต การขยายตลาดส่งออก และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
- PTTGC (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 107 บาท กำไรสุทธิปี 2560 ดีกว่าที่คาดเล็กน้อย 4% ที่ 39.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.5% จากปีก่อนหน้า กำไรปกติ Q4/60 + 11% YoY และ+35% QoQ จากปริมาณการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นและราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหลักมาจากอุตสาหกรรมโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง มีการบันทึกผลขาดทุน จากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ส่งผลให้กำไรสุทธิ Q4/60 ปรับตัวลดลงเล็กน้อย -2%YoY และ-4%QoQ คาดจะมีกำไรสุทธิปี 2561 โตขึ้น 10% เนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิตและคู่แข่งขันเลื่อนการขึ้นกำลังการผลิต
ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ ขณะปริมาณการซื้อขายเบาบาง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดหุ้นหลายแห่งเพิ่งเปิดทำการวันแรกหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,054.32 จุด ลดลง 94.89 จุด, -0.43% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,433.35 จุด ลดลง 9.47 จุด, -0.39% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,483.35 จุด ลดลง 4.53 จุด, -0.13% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,855.38 จุด ลดลง 1.94 จุด, -0.10%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 31,165.29 จุด เพิ่มขึ้น 49.86 จุด, +0.16% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 8,727.16 จุด เพิ่มขึ้น 16.94 จุด, +0.19%
ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้น เดมเลอร์ ร่วง ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากหุ้นเดมเลอร์ที่ร่วงลงกว่า 2% หลังจากสื่อของเยอรมนีรายงานว่า เดมเลอร์อาจใช้ซอฟต์แวร์บางตัวเพื่อทำให้รถยนต์ของบริษัทผ่านการทดสอบมลพิษของหน่วยงานสหรัฐ ขณะเดียวกันภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.6% ปิดที่ 378.24 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,256.18 จุด ลดลง 25.40 จุด หรือ -0.48% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,385.60 จุด ลดลง 66.36 จุด หรือ -0.53% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,247.66 จุด ลดลง 47.04 จุด หรือ -0.64%
หุ้นเดมเลอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 2.1% หลังจากหนังสือพิมพ์ Bild ของเยอรมนีรายงานว่า เดมเลอร์อาจใช้ซอฟต์แวร์บางตัวเพื่อทำให้รถยนต์ของบริษัทผ่านมาตรฐานการทดสอบมลพิษของหน่วยงานสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาหุ้นเดมเลอร์ยังได้รับแรงกดดันจากการที่บริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2561
หุ้นเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ ร่วงลง 7.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายทรงตัวในปี 2560
หุ้นดอยซ์แบงก์ ดีดตัวขึ้น 2.1% หลังจากมีรายงานว่า ดอยซ์แบงก์เตรียมปลดพนักงานในธุรกิจวาณิชธนกิจอย่างน้อย 250 คนในสำนักงานสาขาต่างๆ ซึ่งรวมถึงในลอนดอนและสหรัฐ ขณะที่ตัวเลขดังกล่าวอาจสูงขึ้นถึง 500 ราย
รายงานยังระบุด้วยว่า ดอยซ์แบงก์อยู่ในระหว่างการปลดพนักงาน 9,000 คนจากระดับในปี 2558 หรือประมาณ 1 ใน 10 คน โดยคาดว่าจะมีการปลดพนักงาน 4,000 คนในเยอรมนี
นักลงทุนจับตาธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 0% ในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย.
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดหุ้นหลายแห่งเพิ่งเปิดทำการวันแรกหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,054.32 จุด ลดลง 94.89 จุด, -0.43% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,433.35 จุด ลดลง 9.47 จุด, -0.39% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,483.35 จุด ลดลง 4.53 จุด, -0.13% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,855.38 จุด ลดลง 1.94 จุด, -0.10%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 31,165.29 จุด เพิ่มขึ้น 49.86 จุด, +0.16% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 8,727.16 จุด เพิ่มขึ้น 16.94 จุด, +0.19%
ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้น เดมเลอร์ ร่วง ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากหุ้นเดมเลอร์ที่ร่วงลงกว่า 2% หลังจากสื่อของเยอรมนีรายงานว่า เดมเลอร์อาจใช้ซอฟต์แวร์บางตัวเพื่อทำให้รถยนต์ของบริษัทผ่านการทดสอบมลพิษของหน่วยงานสหรัฐ ขณะเดียวกันภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.6% ปิดที่ 378.24 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,256.18 จุด ลดลง 25.40 จุด หรือ -0.48% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,385.60 จุด ลดลง 66.36 จุด หรือ -0.53% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,247.66 จุด ลดลง 47.04 จุด หรือ -0.64%
หุ้นเดมเลอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 2.1% หลังจากหนังสือพิมพ์ Bild ของเยอรมนีรายงานว่า เดมเลอร์อาจใช้ซอฟต์แวร์บางตัวเพื่อทำให้รถยนต์ของบริษัทผ่านมาตรฐานการทดสอบมลพิษของหน่วยงานสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาหุ้นเดมเลอร์ยังได้รับแรงกดดันจากการที่บริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2561
หุ้นเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ ร่วงลง 7.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายทรงตัวในปี 2560
หุ้นดอยซ์แบงก์ ดีดตัวขึ้น 2.1% หลังจากมีรายงานว่า ดอยซ์แบงก์เตรียมปลดพนักงานในธุรกิจวาณิชธนกิจอย่างน้อย 250 คนในสำนักงานสาขาต่างๆ ซึ่งรวมถึงในลอนดอนและสหรัฐ ขณะที่ตัวเลขดังกล่าวอาจสูงขึ้นถึง 500 ราย
รายงานยังระบุด้วยว่า ดอยซ์แบงก์อยู่ในระหว่างการปลดพนักงาน 9,000 คนจากระดับในปี 2558 หรือประมาณ 1 ใน 10 คน โดยคาดว่าจะมีการปลดพนักงาน 4,000 คนในเยอรมนี
นักลงทุนจับตาธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 0% ในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย.
OO5705