- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 07 February 2018 20:47
- Hits: 1098
โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET ผันผวน ตามตลาดหุ้นโลก แรงกดดัน Bond yield สหรัฐฯ เน้นขายลดพอร์ต
โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยยังผันผวน เหตุเผชิญแรงกดดันบอนด์ยีล-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เน้นขายลดพอร์ต ประเมินแนวรับแรก 1,780 จุด +/- ถัดไป 1,770 จุด แนวต้าน 1,800-1,805 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยเปิดบวกในช่วงเช้า หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัว แต่ท้ายที่สุดก็พลิกกลับมาปิดลบเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังระมัดระวังความเสี่ยง หลังดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ยังคงติดลบราว 200 จุด รวมถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคบางส่วนก็พลิกกลับมาปิดลบเช่นกัน อย่างตลาดหุ้นเกาหลีปิดลบ 2% และตลาดหุ้นญี่ปุ่นจากที่บวกถึง 400-500 จุด แต่กลับปิดบวกเพียง 0.1%
ทั้งนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ยังคงผันผวน จากที่เคยขึ้นไปทำไฮ 2.85% ก่อนที่จะขยับลงมาเหลือราว 2.7% แต่ล่าสุดขยับขึ้นมา 2.8% อีกครั้ง และยังมีแนวโน้มผันผวนต่อไป จนกว่าจะมีความชัดเจนจากประธานเฟดคนใหม่ต่อการส่งสัญญาณนโยบายด้านดอกเบี้ย
สำหรับพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยยังคงผันผวน และมีแนวโน้มผันผวนไปตลอดทั้งเดือนนี้ โดยเผชิญแรงกดดันจากต่างประเทศตามที่กล่าวข้างต้น ส่วนในประเทศที่อยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการ คาดว่ากลุ่ม real sector จะออกมาดีเมื่อเทียบกับทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานและกลุ่มค้าปลีก
ด้านกลยุทธ์ เน้นทยอยขายลดพอร์ตในจังหวะดัชนีฯ รีบาวน์ เพื่อลดความเสี่ยง เพราะมองว่าดัชนีฯ ไม่น่าจะขยับขึ้นเกิน 1,800-1,810 จุด แต่หากจะทยอยซื้อ ควรเน้นหุ้นที่คาดว่างบจะออกมาดี และราคาปรับตัวลงมาเยอะแล้ว หรือกลุ่มนิคมฯ ที่จะได้ประโยชน์จาก EEC เพราะพรุ่งนี้ สนช. จะประชุมในวาระสุดท้าย พร้อมกับประเมินแนวรับแรก 1,780 จุด +/- ถัดไป 1,770 จุด แนวต้าน 1,800-1,805 จุด
OO5335
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยเปิดบวกในช่วงเช้า หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัว แต่ท้ายที่สุดก็พลิกกลับมาปิดลบเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังระมัดระวังความเสี่ยง หลังดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ยังคงติดลบราว 200 จุด รวมถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคบางส่วนก็พลิกกลับมาปิดลบเช่นกัน อย่างตลาดหุ้นเกาหลีปิดลบ 2% และตลาดหุ้นญี่ปุ่นจากที่บวกถึง 400-500 จุด แต่กลับปิดบวกเพียง 0.1%
ทั้งนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ยังคงผันผวน จากที่เคยขึ้นไปทำไฮ 2.85% ก่อนที่จะขยับลงมาเหลือราว 2.7% แต่ล่าสุดขยับขึ้นมา 2.8% อีกครั้ง และยังมีแนวโน้มผันผวนต่อไป จนกว่าจะมีความชัดเจนจากประธานเฟดคนใหม่ต่อการส่งสัญญาณนโยบายด้านดอกเบี้ย
สำหรับพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยยังคงผันผวน และมีแนวโน้มผันผวนไปตลอดทั้งเดือนนี้ โดยเผชิญแรงกดดันจากต่างประเทศตามที่กล่าวข้างต้น ส่วนในประเทศที่อยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการ คาดว่ากลุ่ม real sector จะออกมาดีเมื่อเทียบกับทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานและกลุ่มค้าปลีก
ด้านกลยุทธ์ เน้นทยอยขายลดพอร์ตในจังหวะดัชนีฯ รีบาวน์ เพื่อลดความเสี่ยง เพราะมองว่าดัชนีฯ ไม่น่าจะขยับขึ้นเกิน 1,800-1,810 จุด แต่หากจะทยอยซื้อ ควรเน้นหุ้นที่คาดว่างบจะออกมาดี และราคาปรับตัวลงมาเยอะแล้ว หรือกลุ่มนิคมฯ ที่จะได้ประโยชน์จาก EEC เพราะพรุ่งนี้ สนช. จะประชุมในวาระสุดท้าย พร้อมกับประเมินแนวรับแรก 1,780 จุด +/- ถัดไป 1,770 จุด แนวต้าน 1,800-1,805 จุด
OO5335