WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

8 ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นตัวตามตลาดภูมิภาค เล็งขานรับสภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกม.งบประมาณชั่วคราว
         นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ เนื่องจากทางสภาคองเกรสให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ก.พ. ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างยืนในแดนบวกกันทั่วหน้าเฉลี่ยราว 0.6% แต่ก็ไม่ได้ให้น้ำหนักมาในประเด็นนี้ เนื่องจากดูเหมือนว่าตลาดฯไม่ได้ตอบรับเรื่องการชัตดาวน์เมื่อวานนี้มากนัก
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราคงจะมีน้ำหนักไปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ได้นัดประชุมจะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)ในวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ต้องรอดูว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง
ดังนั้นช่วงนี้คงจะเลือกลงทุนเป็นรายตัวไปก่อน โดยอิงหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการไตรมาส 4/60 ออกมาดี ส่วนกลุ่มแบงก์ได้รายงานผลประกอบการออกมาเสร็จแล้ว คาดว่ากลุ่มแบงก์คงจะแกว่งไซด์เวย์
พร้อมให้แนวรับ 1,820 จุด ส่วนแนวต้าน 1,830 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 ม.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,214.60 จุด เพิ่มขึ้น 142.88 จุด (+0.55%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,832.97 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด (+0.81%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,408.03 จุด เพิ่มขึ้น 71.65 จุด (+0.98%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 108.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้น 212.73 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.24 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.79 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.95 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 2.19 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.98 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ม.ค.61) 1,824.06 จุด เพิ่มขึ้น 2.72 จุด (+0.15%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 458.23 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ม.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 ม.ค.61) ปิดที่ระดับ 63.49 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 ม.ค.61) ที่ 6.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.83 ก่อนขยับแข็งค่ามาที่ 31.80 ตามทิศทางภูมิภาค หลังดอลล์อ่อน-จับตาผลประชุม BOJ
- "พาณิชย์" เผยส่งออก ธ.ค.โต 8.6% ดันมูลค่าส่งออกทั้งปี 60 ขยายตัว 9.9% สูงสุดรอบ 6 ปี ประเมินปีนี้ ส่งออกโตต่อ 5-7% เหตุราคาน้ำมันพุ่ง หนุนสินค้าเกษตรราคาดี ด้าน สรท.หวั่นส่งออกสะดุดไตรมาส 2 หลังปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า ขณะ "ธปท." เล็งเพิ่มคาดการณ์ส่งออกปีนี้สูงกว่า 4%
- สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจปี 2560 พบว่ามีธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศจำนวน 7.45 หมื่นราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการเปิดให้จดทะเบียนธุรกิจเพิ่มขึ้น 16% เทียบกับปี 2559 มีทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่มูลค่า 5.19 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 119%
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) มีโอกาสขยับลงมาอยู่ที่กรอบประมาณ 77-78% หากเศรษฐกิจไทยปี 2561 ขยายตัวในกรอบ 3.5-4.5% จะทำให้หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีต่ำลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เนื่องจากอัตราการขยายตัวของมูลค่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจประจำปี ยังมีสัดส่วนที่สูงกว่าการขยายตัวของหนี้ครัวเรือน
- ความคืบหน้าโครงการพัฒนาศูนย์บริการทางหลวงและจุดพักริมทางของมอเตอร์เวย์ช่วงชลบุรี-พัทยา ช่วง กม.ที่ 90 วงเงิน 1,300 ล้านบาทว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) ควบคู่ไปกับการเสนอแนวทางร่วมทุนไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

*หุ้นเด่นวันนี้

- BOFFICE (กองทรัสต์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ) เทรดวันนี้วันแรก ในหมวดอุตสาหกรรม กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยมีจำนวน 513.31 ล้านหน่วย พาร์ 10 บาท/หน่วย โดยเสนขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ที่ 10 บาท/หน่วย
- ATP30 (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 2.32 บาท คาดกำไร Q4/60 เพิ่มขึ้น 40%QoQ เป็น 11.7 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องอีกครั้ง จากจำนวนรถใหม่ที่ให้บริการรวมเป็น 324 คัน ( เพิ่มขึ้น 28 คัน จาก Q3/60) และจะเพิ่มอีก 20 คันในช่วง Q1/61 ส่งผลให้มองว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องในปี 2561 ด้านราคาหุ้นปรับตัว Sideway มานานกว่า 6 เดือน ภายหลังบริษัทอยู่ในช่วงการปรับปรุงรถ ทำให้กำไรลดลง อย่างไรก็ล่าสุดบริษัทได้ผ่านช่วงการซ่อมแซมและพร้อมเดินหน้าเข้าสู่ช่วง Growth stage อีกครั้ง ประกอบกับจังหวะรถชุด Autoliv เข้ามา ถือว่าเป็นจังหวะดีที่จะผลักดันให้กำไรเติบโตต่อเนื่อง
- MTLS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 48 บาท คาดกำไร Q4/60 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 680-700 ลบ. +5-8% Q-Q, +40-45% Y-Y จาก High Season ของการปล่อยสินเชื่อ เพราะเป็นทั้งฤดูเก็บเกี่ยวและการใช้จ่ายปลายปี พร้อมคาดกำไรทั้งปี 2560 +67% Y-Y อยู่ที่ 2.44 พันลบ. ส่วนปีนี้คาด 3.4 พันลบ. +40% Y-Y จากสินเขื่อที่คาด +50% Y-Y ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเปิดสาขาใหม่ที่ยังเป็นเชิงรุก โดยคาดว่าจะหนุนให้ ROE ยืนเหนือ 30% ในปี 2561-2563 สูงสุดในกลุ่ม ส่วน NPL ยังต่ำเพียง 1%
- SKE (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/60 ออกมาดี จากยอดอัดก๊าซที่เพิ่มสูงขึ้นหลังแล้วเสร็จการ maintenance เครื่องอัดในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่การซ่อมบำรุงสถานีของ PTT ทำให้ยอดการเติมก๊าซของ SKE น่าจะได้ผลดีในอีก 12-15 เดือนข้างหน้า บวกต่อแนวโน้มกำไรปี 2561 ที่น่าจะฟื้นตัวเด่น
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น ขานรับสหรัฐเลี่ยงชัตดาวน์-ผลประกอบการสดใส
       ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนที่ผ่านมา และจากการที่สภาคองเกรสอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ. ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทในสหรัฐ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 24,037.86 จุด เพิ่มขึ้น 221.53 จุด, +0.93% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 32,775.88 จุด เพิ่มขึ้น 382.47 จุด, +1.18% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,832.31 จุด ลดลง 0.84 จุด, -0.05%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% ขณะเดียวกัน BOJ จะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตร
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้อนุมัติมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้าสำหรับที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยปกป้องผู้ผลิตในสหรัฐ แต่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในจีนและเกาหลีใต้
การอนุมัติมาตรการดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ในครั้งนี้ เป็นไปตามคำแนะนำของนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) หลังจากที่นายไลท์ไฮเซอร์ได้พิจารณาข้อมูลจากคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศ (ITC)
ทั้งนี้ นักลงทุนยังรอดูการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ เพื่อจับสัญญาณบ่งชี้ถึงทิศทางการดำเนินนโยบายของ BOJ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ BOJ ได้ปรับลดปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในช่วงต้นเดือนนี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 15.35 จุด วิตกเงินปอนด์แข็งฉุดผลประกอบการ
        ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) หลังจากเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ อย่างไรก็ตาม การดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานได้ช่วยจำกัดการร่วงลงของตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,715.44 จุด ลดลง 15.35 จุด หรือ -0.20%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลง เนื่องจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ได้สร้างแรงกดดันต่อหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์จึงส่งผลกระทบต่อหุ้นของบริษัทเหล่านี้
ในบรรดาหุ้นบริษัทข้ามชาติที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ได้แก่ หุ้นแอชทีด กรุ๊ป ปรับตัวลง 0.3% ขณะที่หุ้นดิอาจิโอ ซึ่งเป็นผู้ผลิตวอดก้า "Smirnoff" และวิสกี้ "Johnnie Walker" ร่วงลง 1.1%
หุ้นกลุ่มบริษัทพนันออนไลน์ร่วงลง หลังจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์รายงานว่า รัฐบาลอังกฤษเตรียมออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมธุรกิจการพนัน โดยหุ้นแพดดี้ เพาเวอร์ เบทแฟร์ ร่วงลง 2.1% หุ้นวิลเลียม ฮิลล์ ดิ่งลง 12% หุ้นแลดโบรกส์ โครัล กรุ๊ป ร่วงลง 7.9% และหุ้นจีวีซี โฮลดิ้งส์ ลดลง 1.2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.1% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดตัวขึ้น 1.2%
ส่วนหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า ไทเกอร์ โกบอล ซึ่งเป็นเฮดฟันด์รายใหญ่ของอังกฤษ ได้เพิ่มเงินลงทุนในธนาคารบาร์เคลย์สอีกกว่า 1 พันล้านปอนด์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับเครดิตสเปน
       ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของสเปน พร้อมแสดงมุมมองในเชิงบวกว่า การที่แคว้นกาตาลุญญาประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากสเปนนั้นได้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสเปนแค่ในวงจำกัดเท่านั้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 402.11 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2558
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,541.99 จุด เพิ่มขึ้น 15.48 จุด, +0.28% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,463.69 จุด เพิ่มขึ้น 29.24 จุด, +0.22% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,715.44 จุด ลดลง 15.35 จุด, -0.20%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกหลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนขึ้นสู่ระดับ A- จากระดับ BBB+ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสเปนยังคงอยู่ในภาวะฟื้นตัว ส่วนกรณีที่แคว้นกาตาลุญญาประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากสเปนนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสเปนแค่ในวงจำกัดเท่านั้น
ฟิทช์ระบุว่า ขณะที่สเปนมีแนวโน้มที่จะหลุดพ้นจากวิกฤตทางการเงินนั้น หนี้สินในภาคเอกชนของสเปนก็เริ่มปรับตัวลดลงด้วย ขณะที่การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสเปนก็ลดลงเช่นกัน โดยฟิทช์คาดการณ์ว่า การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสเปนจะลดลงสู่ระดับ 2% ของตัวเลข GDP ในปี 2562 จากระดับ 3.1% ในปี 2560
นอกจากนนี้ เอสแอนด์พี โกลบอล ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ ขึ้นสู่ระดับ B จากระดับ B- พร้อมให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือที่ระดับ "เชิงบวก" โดยระบุว่า สถานะการเงินของรัฐบาลกรีซเริ่มดีขึ้น และภาวะเศรษฐกิจก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.1% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดตัวขึ้น 1.2%
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า ไทเกอร์ โกบอล ซึ่งเป็นเฮดฟันด์รายใหญ่ของอังกฤษ ได้เพิ่มเงินลงทุนในธนาคารบาร์เคลย์สอีกกว่า 1 พันล้านปอนด์
หุ้นซีเมนส์ กาเมซา รีนิวเวเบิล เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส อันเนื่องมาจากการลงนามในสัญญาทางธุรกิจในประเทศอินเดีย
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มบริษัทพนันออนไลน์ในอังกฤษร่วงลง หลังจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์รายงานว่า รัฐบาลอังกฤษเตรียมออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมธุรกิจการพนัน โดยหุ้นแพดดี้ เพาเวอร์ เบทแฟร์ ร่วงลง 2.1% หุ้นวิลเลียม ฮิลล์ ดิ่งลง 12% หุ้นแลดโบรกส์ โครัล กรุ๊ป ร่วงลง 7.9% และหุ้นจีวีซี โฮลดิ้งส์ ลดลง 1.2%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยสถาบัน ZEW จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของเยอรมนีและกลุ่มยูโรโซน นอกจากนี้ ทางการเยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 142.88 จุด หลังวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกม.งบประมาณรอบแรก

        ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮด้วยเช่นกัน หลังจากวุฒิสภาสหรัฐให้ความเห็นชอบในการลงมติรอบแรกด้านกระบวนการปฏิบัติ (procedural vote) ต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนี้ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ก.พ. ขณะที่ตลาดคาดหวังว่า สภาคองเกรสจะลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในขั้นตอนสุดท้าย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,214.60 จุด เพิ่มขึ้น 142.88 จุด หรือ +0.55% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,832.97 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด หรือ +0.81% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,408.03 จุด เพิ่มขึ้น 71.65 จุด หรือ +0.98%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดตลาดทำนิวไฮพร้อมกันอีกครั้ง หลังจากวุฒิสภาสหรัฐให้ความเห็นชอบในการลงมติรอบแรกด้านกระบวนการปฏิบัติ (procedural vote) ต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนี้ ซึ่งจะปูทางไปสู่การลงมติขั้นสุดท้ายในวุฒิสภาต่อร่างกฎหมายงบประมาณฉบับดังกล่าวในไม่ช้า ในความพยายามของสภาคองเกรสเพื่อยุติภาวะการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ซึ่งย่างเข้าสู่วันที่ 3
ทั้งนี้ วุฒิสภาให้ความเห็นชอบในการลงมติรอบแรกต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 81-18 เสียง ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ก.พ.
หากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบในการลงมติขั้นสุดท้ายต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวดังกล่าว ก็จะมีการส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเพื่อการพิจารณาต่อไป ก่อนที่จะส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 6.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ออกมาดีเกินคาด
หุ้นซีร็อกซ์ คอร์ป พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่านายคาร์ล ไอคาห์น และนายดาร์วิน เดียสัน สองมหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดัง ได้ประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจและวางแผนที่จะเข้าลงทุนในซีร็อกซ์
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มความบันเทิงบนอินเทอร์เน็ต พุ่งขึ้น 3.2% ก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส
หุ้นจูโน เธราพูติกส์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านชีวภาพ ทะยานขึ้น 26.8% หลังจากบริษัทเซลจีน ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการของจูโน เธราพูติกส์ ในวงเงิน 9 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเซลจี ดีดตัวขึ้น 0.3%
หุ้นวาลิดัส โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ พุ่งขึ้น 44% หลังจากบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ประกาศว่าจะเข้าซื้อกิจการวาลิดัส โฮลดิ้งส์ ในวงเงิน 6 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้น AIG ปิดตลาดปรับตัวลง 0.9%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีการผลิตเดือนม.ค. โดยเฟดสาขาริชมอนด์, ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 30-31 ม.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
--อินโฟเควสท์

OO4756

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!