- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Thursday, 23 November 2017 17:16
- Hits: 5505
ด็กแนว -PORT มองไกลกำไรเด่น
ธุรกิจ: ให้บริการท่าเทียบเรือ ให้บริการบรรจุสินค้าเข้าและถ่ายสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งและจัดเก็บตู้คอนเทนเน่อร์
ราคาจอง 4.50 บาท
จำนวน IPO 120 ล้านหุ้น
จำนวนหุ้นทั้งหมด 460 ล้านหุ้น
Book value 2.51 (Q360) บาท
PBV 1.79 เท่า
PORT จัดได้ว่าเป็นบริษัทที่ให้บริการท่าเทียบเรือ ยกตู้คอนเทนเน่อร์รายใหญ่สุดของเอกชน ที่มีงานยุ่งเหยิงล้นมือตลอดวัน จึงทำให้แนวโน้มรายได้ค่อนข้างดีต่อเนื่อง แม้ใน Q3 ปีนี้จะย่อตัวลงไปแต่เป็นเพราะมีค่าใช้จ่ายในการขยายธุรกิจมากขึ้นจึงทำให้กำไรอ่อนตัวแต่รายได้โตขึ้น ซึ่งหลังระดมทุนรอบนี้แล้ว รายจ่ายลดลงบาน กำไรปีหนาเด้งระดับ 100 ล้านบาท ซึ่งเด็กแนวมองว่าราคาเป้าหมาย 5.50-5.80 บาทมีลุ้นสำหรับวันนี้ อีกทั้งจำนวนหุ้นน้อยราคาหุ้นจะเหวี่ยงตัวได้มาก เอาว่าจัดเป็นหุ้นดีที่น่ามองตัวหนึ่ง และน่าจะมีราคาที่แข็งแรง เว้นแต่ราคาเปิดวิ่งไป 7 บาท อันนั้นก็ตัวใครตัวมันละค๊าบ
IHL แนวซื้อตรงนี้
เมื่อวานแจกยีนส์ วันนี้แจกรถ ก็ไม่มีใครเกิน IHL บริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ยังไงก็ไม่มีทางหมดยุคได้ง่าย แม้น้ำมันจะเริ่มเสื่อมยุค แต่เมื่อมีรถรุ่นใหม่เป็นระบบ EV นั่นหมายความว่า Model change ซึ่งทำให้การสั่งวัสดุประดับยนต์ก็ต้องยกกันใหม่ ดังนั้นถือว่างานเข้า รับกันเต็มๆ
ผลงานของบริษัทเติบโตอย่างแรงในระยะหลังนี้ นักวิเคราะห์ล้วนเทใจให้ ตีเป้ากับเฉียด 14 บาทไปแล้ว แต่ของลับที่ยังอุบไว้ ก็คือธุรกิจผลิตโปรตีนจากสัตว์ และผลิตภัณฑ์ คลอลาเจน โปรตีน และ Peptide บำรุงร่างกาย เป็นสินค้ากลุ่มที่ High Margin เราคงได้เห็นอะไรทำนองนี้ที่บริษัทอาจเปิดตัว ส่วนกราฟปรับฐานลงมา ที่ Oversold นี้เป็นจุดดีดกลับ มองต้าน 12 บาทไม่ยาก ราคานี้ใครขายทิ้งระวังเสียของลับ ของรักนะ
ราคาจอง 4.50 บาท
จำนวน IPO 120 ล้านหุ้น
จำนวนหุ้นทั้งหมด 460 ล้านหุ้น
Book value 2.51 (Q360) บาท
PBV 1.79 เท่า
PORT จัดได้ว่าเป็นบริษัทที่ให้บริการท่าเทียบเรือ ยกตู้คอนเทนเน่อร์รายใหญ่สุดของเอกชน ที่มีงานยุ่งเหยิงล้นมือตลอดวัน จึงทำให้แนวโน้มรายได้ค่อนข้างดีต่อเนื่อง แม้ใน Q3 ปีนี้จะย่อตัวลงไปแต่เป็นเพราะมีค่าใช้จ่ายในการขยายธุรกิจมากขึ้นจึงทำให้กำไรอ่อนตัวแต่รายได้โตขึ้น ซึ่งหลังระดมทุนรอบนี้แล้ว รายจ่ายลดลงบาน กำไรปีหนาเด้งระดับ 100 ล้านบาท ซึ่งเด็กแนวมองว่าราคาเป้าหมาย 5.50-5.80 บาทมีลุ้นสำหรับวันนี้ อีกทั้งจำนวนหุ้นน้อยราคาหุ้นจะเหวี่ยงตัวได้มาก เอาว่าจัดเป็นหุ้นดีที่น่ามองตัวหนึ่ง และน่าจะมีราคาที่แข็งแรง เว้นแต่ราคาเปิดวิ่งไป 7 บาท อันนั้นก็ตัวใครตัวมันละค๊าบ
IHL แนวซื้อตรงนี้
เมื่อวานแจกยีนส์ วันนี้แจกรถ ก็ไม่มีใครเกิน IHL บริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ยังไงก็ไม่มีทางหมดยุคได้ง่าย แม้น้ำมันจะเริ่มเสื่อมยุค แต่เมื่อมีรถรุ่นใหม่เป็นระบบ EV นั่นหมายความว่า Model change ซึ่งทำให้การสั่งวัสดุประดับยนต์ก็ต้องยกกันใหม่ ดังนั้นถือว่างานเข้า รับกันเต็มๆ
ผลงานของบริษัทเติบโตอย่างแรงในระยะหลังนี้ นักวิเคราะห์ล้วนเทใจให้ ตีเป้ากับเฉียด 14 บาทไปแล้ว แต่ของลับที่ยังอุบไว้ ก็คือธุรกิจผลิตโปรตีนจากสัตว์ และผลิตภัณฑ์ คลอลาเจน โปรตีน และ Peptide บำรุงร่างกาย เป็นสินค้ากลุ่มที่ High Margin เราคงได้เห็นอะไรทำนองนี้ที่บริษัทอาจเปิดตัว ส่วนกราฟปรับฐานลงมา ที่ Oversold นี้เป็นจุดดีดกลับ มองต้าน 12 บาทไม่ยาก ราคานี้ใครขายทิ้งระวังเสียของลับ ของรักนะ
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ต่างชาติเริ่มกลับมาตลาดทุนไทย
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวานนี้ S50Z17 ปรับขึ้นมากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis ปรับเพิ่มจากวันก่อนหน้า 0.99 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +2.66 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +0.48 จุด สะท้อนระยะกลาง (2 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.7 จุด แต่ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.90 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.23x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.58x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.17x เพิ่มขึ้น 0.01x จากวันก่อนหน้า ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะสะท้อนถึงอุปสงค์ที่แท้จริงมากกว่า ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงเพิ่มขึ้นเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมามีสถานะ Net Long 4,301 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเป็น 51,517 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 918 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิลดลงเป็น 32,744 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติกลับมามีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดทุนไทย
มุมมองด้านเทคนิค: มองดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ!!!
เมื่อวานนี้ S50Z17 ขยับขึ้นในช่วงเช้า ก่อนจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,100 จุด แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้เผชิญแรงขายในช่วงท้ายตลาด ทั้งนี้ในกราฟ 120 นาที เราพบว่า Indicator เริ่มส่งสัญาณอ่อนแรงลง ทั้ง ADX ที่ต่ำกว่า 20 สะท้อนการเคลื่อนไหวที่ไร้ Trend ชัดเจน บวกกับ Modified Sto. ปรับขึ้นถึงจุด Overbought ทำให้กรอบการปรับขึ้นค่อนข้างจำกัด ดังนั้นภาพระยะสั้น (วันนี้) เราจึงคาดดัชนีจะปรับตัวในกรอบแคบ 1,089-1,101 โดยหาก S50Z17 หลุดแนวรับจะมีโอกาสลงต่อไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1,075 จุด
ดังนั้นวันนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Trading ในกรอบสามเหลี่ยม ที่ 1,078-1,094 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: ในแง่ของกลยุทธ์วันนี้แนะนำ 1) Trading ในกรอบ 1,089 – 1,101 จุด Stop Loss หากหลุดกรอบมากกว่า 5 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432) / ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: ตฤณ สิทธิสวัสดิ์
มุมมองทางทฤษฎี: ต่างชาติเริ่มกลับมาตลาดทุนไทย
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวานนี้ S50Z17 ปรับขึ้นมากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis ปรับเพิ่มจากวันก่อนหน้า 0.99 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +2.66 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +0.48 จุด สะท้อนระยะกลาง (2 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.7 จุด แต่ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.90 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.23x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.58x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.17x เพิ่มขึ้น 0.01x จากวันก่อนหน้า ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะสะท้อนถึงอุปสงค์ที่แท้จริงมากกว่า ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงเพิ่มขึ้นเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมามีสถานะ Net Long 4,301 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเป็น 51,517 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 918 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิลดลงเป็น 32,744 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติกลับมามีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดทุนไทย
มุมมองด้านเทคนิค: มองดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ!!!
เมื่อวานนี้ S50Z17 ขยับขึ้นในช่วงเช้า ก่อนจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,100 จุด แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้เผชิญแรงขายในช่วงท้ายตลาด ทั้งนี้ในกราฟ 120 นาที เราพบว่า Indicator เริ่มส่งสัญาณอ่อนแรงลง ทั้ง ADX ที่ต่ำกว่า 20 สะท้อนการเคลื่อนไหวที่ไร้ Trend ชัดเจน บวกกับ Modified Sto. ปรับขึ้นถึงจุด Overbought ทำให้กรอบการปรับขึ้นค่อนข้างจำกัด ดังนั้นภาพระยะสั้น (วันนี้) เราจึงคาดดัชนีจะปรับตัวในกรอบแคบ 1,089-1,101 โดยหาก S50Z17 หลุดแนวรับจะมีโอกาสลงต่อไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1,075 จุด
ดังนั้นวันนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Trading ในกรอบสามเหลี่ยม ที่ 1,078-1,094 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: ในแง่ของกลยุทธ์วันนี้แนะนำ 1) Trading ในกรอบ 1,089 – 1,101 จุด Stop Loss หากหลุดกรอบมากกว่า 5 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432) / ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: ตฤณ สิทธิสวัสดิ์
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ปรับฐานระยะสั้น แบบ Shooting Star
SET ดีดตัวขึ้นตั้งแต่ในช่วงแรกของตลาด และทดสอบแนวต้าน บริเวณ 1,720 จุด แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ การอ่อนตัวในช่วงท้ายตลาดทำให้กราฟแท่งเทียนสร้างรูปแบบ Shooting Star หมายถึงการอ่อนตัวในวันนี้ อย่างไรก็ตาม MACD สามารถคงสภาพการตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย จึงทำให้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ เว้นแต่วันนี้ปิดต่ำกว่า 1,710 จุด จะทำให้สัญญาณขายเกิดชัดเจนขึ้น แนวโน้มวันนี้ภาวะอ่อนตัวกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง
กลยุทธ์
1. การเก็งกำไรให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัว
2. หากหลุด 1,705 จุด ให้ถือหุ้นน้อยลง
3. หากปิดสูงกว่า 1,715 จุด ถือหุ้นกลับบ้าน
บทสรุปการลงทุน:
SET แนวโน้มอ่อนตัวลงทางเทคนิคในวันนี้
SET Closed: 1,713.13
Support: 1,700 1,705
Resistant: 1,715 1,720
PDI กลับมาม้วนขึ้น
ราคาปิด 23.10 บาท
แนวรับ 23.00 บาท แนวต้าน: 24.00บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 22.80 บาท
PDI เริ่มโค้งตัวขึ้นเป็น U-Curve หลังจากอ่อนตัวลงสู่แนว Oversold อย่างเร็วและแรง ขณะที่เริ่มมีการโค้งตัวขึ้นใน Stochastic และจะเกิดสัญญาณซื้อจากนี้ไป มีแนวต้าน 26 บาท แนะนำ “ซื้อ”
AEC Securities
Technical Research
SET ดีดตัวขึ้นตั้งแต่ในช่วงแรกของตลาด และทดสอบแนวต้าน บริเวณ 1,720 จุด แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ การอ่อนตัวในช่วงท้ายตลาดทำให้กราฟแท่งเทียนสร้างรูปแบบ Shooting Star หมายถึงการอ่อนตัวในวันนี้ อย่างไรก็ตาม MACD สามารถคงสภาพการตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย จึงทำให้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ เว้นแต่วันนี้ปิดต่ำกว่า 1,710 จุด จะทำให้สัญญาณขายเกิดชัดเจนขึ้น แนวโน้มวันนี้ภาวะอ่อนตัวกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง
กลยุทธ์
1. การเก็งกำไรให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัว
2. หากหลุด 1,705 จุด ให้ถือหุ้นน้อยลง
3. หากปิดสูงกว่า 1,715 จุด ถือหุ้นกลับบ้าน
บทสรุปการลงทุน:
SET แนวโน้มอ่อนตัวลงทางเทคนิคในวันนี้
SET Closed: 1,713.13
Support: 1,700 1,705
Resistant: 1,715 1,720
PDI กลับมาม้วนขึ้น
ราคาปิด 23.10 บาท
แนวรับ 23.00 บาท แนวต้าน: 24.00บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 22.80 บาท
PDI เริ่มโค้งตัวขึ้นเป็น U-Curve หลังจากอ่อนตัวลงสู่แนว Oversold อย่างเร็วและแรง ขณะที่เริ่มมีการโค้งตัวขึ้นใน Stochastic และจะเกิดสัญญาณซื้อจากนี้ไป มีแนวต้าน 26 บาท แนะนำ “ซื้อ”
AEC Securities
Technical Research
รณกฤต สารินวงศ์
ID: 012234
ID: 012234
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ปรับฐานระยะสั้น แบบ Shooting Star
Trading Idea: PDI
เด็กแนว: PORT, IHL
Connect the World– (P.2)
• น้ำมันขึ้นต่อหลังมีข่าวปิดท่อส่งน้ำมันในแคนาดา และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลง
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์กรอบ 1,700-1,720 จุด หลังยังขาดปัจจัยชี้นำการลงทุน
Market Factors
• (-) ดัชนี DJIA ปิด -0.27%DoD หลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้
• (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +2.1%DoD หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาด
• (+) ก.พาณิชน์เผยส่งออก ต.ค.60 โต 13.1%YoY ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 และช่วง 10M60 การส่งออกมีมูลค่า 195,518 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 9.7%YoY โตสูงสุดรอบ 6 ปี
• (-) ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ต.ค.60 อยู่ที่ 85.9 ลดลงจาก 86.7 ใน ก.ย.60
• (+/-) ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ต.ค.60 หดตัว 11.97%YoY มาที่ 90,838 คันส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศโต 13.1%YoY สู่ระดับ 68,551 คัน
• (0) วันนี้ THMUI เข้าเทรด MAI วันแรก โดยมี IPO 97.07ล้านหุ้นและราคา IPO 2.55บาท
• (0) วันนี้ PORT เข้าเทรด MAI วันแรกโดยมี IPO 120 ล้านหุ้น และราคา IPO 4.50 บาท
• (+/-) วันนี้ติดตามดัชนี PMI ภาคบริการและภาคผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย. ของประเทศในแถบยุโรป และ GDP 3Q60 ของอังกฤษ (ประมาณการครั้งที่ 2)
Investment Strategy
• เรามองระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ดังนั้นการอ่อนตัวลงของดัชนีหรือราคาหุ้น จึงเป็นโอกาสเข้าทยอยซื้อสะสม โดยเน้นเลือกหุ้นพื้นฐานดีและมีศักยภาพเติบโต ดังนี้
1) กลุ่มพลังงาน: รับอานิสงส์ราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP
2) กลุ่มธนาคาร: สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะ ศก.ที่ดีขึ้น เลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: High Season/ช็อปช่วยชาติ เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรยังโตสดใสปีหน้า เลือก BCH, LPH, WICE, HARN, MONO, MALEE, LIT
Market Talk and News
• SAWAD (BUY:TP@75) ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตทั้ง QoQ และ YoY หนุนด้วยการขยายพอร์ตสินเชื่อที่ดีขึ้นและ NIM ที่คาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วง3Q60 หลังเริ่มดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อมีหลักประกันผ่าน BFIT (คิดดอกเบี้ยได้สูงสุด 36% มากกว่าการปล่อยสัญญาเช่าซื้อ) ทำให้ทั้งปี 60 คาดกำไรโต 32.8%YoY และโตต่อ 34.5%YoY ในปี 2561 หลังผ่านช่วงปรับโครงสร้าง + Upside 21% จึงคงแนะนำ “ซื้อ”
• FORTH (BUY:[email protected]): แม้ปี 60 คาดกำไรจะหดตัว 23.5%YoY หลังมาร์จิ้นหดและมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่คาดจะพลิกกลับมาโตสดใสอีกครั้ง 30.8%YoY ในปี 61 จากแนวโน้มที่ยังสดใสของธุรกิจตู้บุญเติมและธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (EMS) อีกทั้งธุรกิจโทรคมนาคที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น + มีUpside 15.9% และคาดให้ Div. Yield ราวปีละ 3%
• PTG (BUY:Consensus [email protected]): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 19.4% จากความต้องการเชื้อเพลิงพลังงานด้านยานยนต์เพิ่มขึ้นอีกทั้งปีหน้ายังมีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันเป็น 2,000 แห่งจากสิ้นปี 59 ที่1,407 แห่ง และปีหน้าตั้งเป้ามีสมาชิกบัตร PT Max Card เพิ่มเป็น 9.6 ล้านสมาชิกจากระดับ 5.6 ล้านสมาชิกในปี 59 + มี Upside 17.8%
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก MALEE, PTTEP
22-Nov-17 Change (pts.) 21-Nov-17
SET Index 1,713.13 2.65 1,710.48
SET50 Index 1,092.94 3.01 1,089.93
SET100 Index 2,462.78 5.36 2,457.42
High 1,578.96 Gainers 652
Low 1,574.71 Unchanged 403
Value (Bt m) 57,615.64 Losers 723
Volume (*000) 10,390,860
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 17.20 15.37 14.05
EPS Growth (%) 4.55 11.91 9.36
EV/EBITDA (x) 11.07 10.09 9.59
FWD PBV (x) 2.05 1.91 1.79
Dividend Yield (%) 2.70 2.93 3.18
ROE 10.20 10.78 11.38
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 22-Nov-17 WTD MTD YTD
Institution (172.73) (1,720.41) 2,372.14 70,417.93
Proprietary 580.62 1,549.33 1,015.94 13,239.73
Foreign 917.54 706.63 (14,221.15) (11,856.79)
Individual (1,325.43) (535.55) 10,833.07 (71,800.86)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO2742
Technical: ปรับฐานระยะสั้น แบบ Shooting Star
Trading Idea: PDI
เด็กแนว: PORT, IHL
Connect the World– (P.2)
• น้ำมันขึ้นต่อหลังมีข่าวปิดท่อส่งน้ำมันในแคนาดา และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลง
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์กรอบ 1,700-1,720 จุด หลังยังขาดปัจจัยชี้นำการลงทุน
Market Factors
• (-) ดัชนี DJIA ปิด -0.27%DoD หลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้
• (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +2.1%DoD หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาด
• (+) ก.พาณิชน์เผยส่งออก ต.ค.60 โต 13.1%YoY ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 และช่วง 10M60 การส่งออกมีมูลค่า 195,518 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 9.7%YoY โตสูงสุดรอบ 6 ปี
• (-) ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ต.ค.60 อยู่ที่ 85.9 ลดลงจาก 86.7 ใน ก.ย.60
• (+/-) ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ต.ค.60 หดตัว 11.97%YoY มาที่ 90,838 คันส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศโต 13.1%YoY สู่ระดับ 68,551 คัน
• (0) วันนี้ THMUI เข้าเทรด MAI วันแรก โดยมี IPO 97.07ล้านหุ้นและราคา IPO 2.55บาท
• (0) วันนี้ PORT เข้าเทรด MAI วันแรกโดยมี IPO 120 ล้านหุ้น และราคา IPO 4.50 บาท
• (+/-) วันนี้ติดตามดัชนี PMI ภาคบริการและภาคผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย. ของประเทศในแถบยุโรป และ GDP 3Q60 ของอังกฤษ (ประมาณการครั้งที่ 2)
Investment Strategy
• เรามองระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ดังนั้นการอ่อนตัวลงของดัชนีหรือราคาหุ้น จึงเป็นโอกาสเข้าทยอยซื้อสะสม โดยเน้นเลือกหุ้นพื้นฐานดีและมีศักยภาพเติบโต ดังนี้
1) กลุ่มพลังงาน: รับอานิสงส์ราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP
2) กลุ่มธนาคาร: สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะ ศก.ที่ดีขึ้น เลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: High Season/ช็อปช่วยชาติ เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรยังโตสดใสปีหน้า เลือก BCH, LPH, WICE, HARN, MONO, MALEE, LIT
Market Talk and News
• SAWAD (BUY:TP@75) ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตทั้ง QoQ และ YoY หนุนด้วยการขยายพอร์ตสินเชื่อที่ดีขึ้นและ NIM ที่คาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วง3Q60 หลังเริ่มดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อมีหลักประกันผ่าน BFIT (คิดดอกเบี้ยได้สูงสุด 36% มากกว่าการปล่อยสัญญาเช่าซื้อ) ทำให้ทั้งปี 60 คาดกำไรโต 32.8%YoY และโตต่อ 34.5%YoY ในปี 2561 หลังผ่านช่วงปรับโครงสร้าง + Upside 21% จึงคงแนะนำ “ซื้อ”
• FORTH (BUY:[email protected]): แม้ปี 60 คาดกำไรจะหดตัว 23.5%YoY หลังมาร์จิ้นหดและมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่คาดจะพลิกกลับมาโตสดใสอีกครั้ง 30.8%YoY ในปี 61 จากแนวโน้มที่ยังสดใสของธุรกิจตู้บุญเติมและธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (EMS) อีกทั้งธุรกิจโทรคมนาคที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น + มีUpside 15.9% และคาดให้ Div. Yield ราวปีละ 3%
• PTG (BUY:Consensus [email protected]): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 19.4% จากความต้องการเชื้อเพลิงพลังงานด้านยานยนต์เพิ่มขึ้นอีกทั้งปีหน้ายังมีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันเป็น 2,000 แห่งจากสิ้นปี 59 ที่1,407 แห่ง และปีหน้าตั้งเป้ามีสมาชิกบัตร PT Max Card เพิ่มเป็น 9.6 ล้านสมาชิกจากระดับ 5.6 ล้านสมาชิกในปี 59 + มี Upside 17.8%
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก MALEE, PTTEP
22-Nov-17 Change (pts.) 21-Nov-17
SET Index 1,713.13 2.65 1,710.48
SET50 Index 1,092.94 3.01 1,089.93
SET100 Index 2,462.78 5.36 2,457.42
High 1,578.96 Gainers 652
Low 1,574.71 Unchanged 403
Value (Bt m) 57,615.64 Losers 723
Volume (*000) 10,390,860
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 17.20 15.37 14.05
EPS Growth (%) 4.55 11.91 9.36
EV/EBITDA (x) 11.07 10.09 9.59
FWD PBV (x) 2.05 1.91 1.79
Dividend Yield (%) 2.70 2.93 3.18
ROE 10.20 10.78 11.38
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 22-Nov-17 WTD MTD YTD
Institution (172.73) (1,720.41) 2,372.14 70,417.93
Proprietary 580.62 1,549.33 1,015.94 13,239.73
Foreign 917.54 706.63 (14,221.15) (11,856.79)
Individual (1,325.43) (535.55) 10,833.07 (71,800.86)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO2742