- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Wednesday, 08 November 2017 17:33
- Hits: 2313
เด็กแนว - PRIN กลับมาน่ามอง
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ที่แจ้งออกมาของบริษัทถือว่าน่าพอใจอย่างมาก ขยายตัว 270% งบการเงินสดใส และมี PBV เพียง 0.53 เท่า ต่ำเกินไปแล้วเมื่อเทียบกับศักยภาพบริษัทที่แอบโตแบบไม่ต้องตีข่าวอะไรมากมาย และยังมีโครงการพร้อมโอนอีกหลายพันล้านบาทรองรับอีกในไตรมาสถัดไป ถือว่าน่าจับตาอย่างมาก
บริษัทมีกำไรสะสมกว่า 2.2 พันล้านบาท และมี Book หลังแจ้งงบกระโดดขึ้นเป็น 3.4 บาท ซึ่งถ้าประเมินแบบ PBV เพียง 0.8 เท่าจะมีราคาที่เหมาะสม 2.70 บาท ซึ่งเทียบเคียง Fwd PE 10 เท่าเช่นกัน เด็กแนวกำลังจะบอกว่าวันนี้ควรจะเป็นอะไรที่ราคาหุ้นต้องวิ่งไปให้เข้าใกล้ 2 บาท ตามกราฟให้มากที่สุด เพราะทรงไต่ระดับเป็นขาขึ้นแล้ว จากนี้ไปราคาควรจะเดินหน้าคร๊าบบ
บริษัทมีกำไรสะสมกว่า 2.2 พันล้านบาท และมี Book หลังแจ้งงบกระโดดขึ้นเป็น 3.4 บาท ซึ่งถ้าประเมินแบบ PBV เพียง 0.8 เท่าจะมีราคาที่เหมาะสม 2.70 บาท ซึ่งเทียบเคียง Fwd PE 10 เท่าเช่นกัน เด็กแนวกำลังจะบอกว่าวันนี้ควรจะเป็นอะไรที่ราคาหุ้นต้องวิ่งไปให้เข้าใกล้ 2 บาท ตามกราฟให้มากที่สุด เพราะทรงไต่ระดับเป็นขาขึ้นแล้ว จากนี้ไปราคาควรจะเดินหน้าคร๊าบบ
- KAMART อย่ามองข้าม ชชช.
จุดที่แตกต่างของโครงการ Shop ของชาติในรอบนี้คือระยะเวลาที่ยาวขึ้นกว่าที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ให้สิทธิ์ที่พักโรงแรม จะเน้นไปในเรื่องของซื้อสินค้า บริการซื้อมากกว่า และมูลค่าทั้งโครงการรวม 2 พันล้านบาท จึงส่งผลชัดในบริษัทที่ไม่ใหญ่ และควรเลือกหุ้นที่ยังคง Laggard กว่าตัวอื่นๆ ที่ขึ้นไปเยอะแล้วด้วย
ขอย้ำว่าบริษัทใหญ่จะได้รับผลบวกในเชิงตัวเลขน้อยกว่าบริษัทเล็ก และในกลุ่มค้าปลีกได้อานิสงส์ตรงกว่าใคร ซึ่งเน้นไปที่รากหญ้ามากที่สุด ในตารางหุ้นที่เข้าเกณฑ์นี้ เด็กแนวมองว่า KAMART คือทางเลือกที่ดีสุด เพราะราคายังขยับน้อย มี Upside กับราคาพื้นฐานสูงถึง 16.7% และมีโอกาสเพิ่มยอดขายได้ตรงๆ อีกทั้งราคาหุ้นยังมีแนวการวิ่งได้ไม่ถึงระดับ 9 บาท ทางเทคนิคถือเป็นตัวที่น่ามองสุดในจุดๆ นี้เลยล่ะ
จุดที่แตกต่างของโครงการ Shop ของชาติในรอบนี้คือระยะเวลาที่ยาวขึ้นกว่าที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ให้สิทธิ์ที่พักโรงแรม จะเน้นไปในเรื่องของซื้อสินค้า บริการซื้อมากกว่า และมูลค่าทั้งโครงการรวม 2 พันล้านบาท จึงส่งผลชัดในบริษัทที่ไม่ใหญ่ และควรเลือกหุ้นที่ยังคง Laggard กว่าตัวอื่นๆ ที่ขึ้นไปเยอะแล้วด้วย
ขอย้ำว่าบริษัทใหญ่จะได้รับผลบวกในเชิงตัวเลขน้อยกว่าบริษัทเล็ก และในกลุ่มค้าปลีกได้อานิสงส์ตรงกว่าใคร ซึ่งเน้นไปที่รากหญ้ามากที่สุด ในตารางหุ้นที่เข้าเกณฑ์นี้ เด็กแนวมองว่า KAMART คือทางเลือกที่ดีสุด เพราะราคายังขยับน้อย มี Upside กับราคาพื้นฐานสูงถึง 16.7% และมีโอกาสเพิ่มยอดขายได้ตรงๆ อีกทั้งราคาหุ้นยังมีแนวการวิ่งได้ไม่ถึงระดับ 9 บาท ทางเทคนิคถือเป็นตัวที่น่ามองสุดในจุดๆ นี้เลยล่ะ
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ผันผวนได้ทั้งสองทิศทาง
SET ดีดตัวขึ้น แต่ไม่สามารถผ่าน 1,720 จุด ได้ จากนั้นเกิดการย่อตัว ทำให้กราฟแท่งเทียนเกิดรูปแบบ Evening star ซึ่งบ่งบอกถึงโอกาสในการพักตัวช่วงสั้นวันนี้ ประกอบกับเครื่องมือระยะสั้น Fast stochastic ยังคงชี้ลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย จึงกดดันให้ SET วันนี้เข้าสู่แนวโน้มของการปรับฐาน และไม่ควรหลุด 1,700 จุด เพราะจะเกิด Sell signal รอบใหม่
AECS Market Outlook : ผันผวนได้ทั้งสองทิศทาง
SET ดีดตัวขึ้น แต่ไม่สามารถผ่าน 1,720 จุด ได้ จากนั้นเกิดการย่อตัว ทำให้กราฟแท่งเทียนเกิดรูปแบบ Evening star ซึ่งบ่งบอกถึงโอกาสในการพักตัวช่วงสั้นวันนี้ ประกอบกับเครื่องมือระยะสั้น Fast stochastic ยังคงชี้ลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย จึงกดดันให้ SET วันนี้เข้าสู่แนวโน้มของการปรับฐาน และไม่ควรหลุด 1,700 จุด เพราะจะเกิด Sell signal รอบใหม่
กลยุทธ์
1. กลับมาเก็งกำไรระยะสั้น เน้นซื้อเมื่ออ่อนตัว
2. เน้น Day trade มากขึ้น
3. กำหนดจุด Cut เมื่อหลุด 1,700 จุด
1. กลับมาเก็งกำไรระยะสั้น เน้นซื้อเมื่ออ่อนตัว
2. เน้น Day trade มากขึ้น
3. กำหนดจุด Cut เมื่อหลุด 1,700 จุด
บทสรุปการลงทุน:
SET แนวโน้ม จะผันผวนได้สองทิศทาง เน้นเก็งกำไรระยะสั้น
SET แนวโน้ม จะผันผวนได้สองทิศทาง เน้นเก็งกำไรระยะสั้น
SET Closed: 1,712.75
Support: 1,700 1,705
Resistant: 1,720 1,726
Support: 1,700 1,705
Resistant: 1,720 1,726
PK ปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน
ราคาปิด 5.90 บาท
แนวรับ 5.85 บาท แนวต้าน: 6.10 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 5.75 บาท
ราคาปิด 5.90 บาท
แนวรับ 5.85 บาท แนวต้าน: 6.10 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 5.75 บาท
กราฟ PK อยู่ในระหว่างการเคลื่อนตัวออกด้านข้าง แต่ยกฐานของ Low ขึ้นทีละน้อย และกำลังจะขึ้นไปชนแนว 6.10 บาท ซึ่งหากผ่านไปได้จะทำให้เกิด Follow trend ไปยัง 7.00 บาท โดย Stochastic ส่งสัญญาณซื้อ สนับสนุนการขึ้นนี้
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ผันผวนได้ทั้งสองทิศทาง
Trading Idea: PK
เด็กแนว: PRIN, KAMART
Technical: ผันผวนได้ทั้งสองทิศทาง
Trading Idea: PK
เด็กแนว: PRIN, KAMART
Connect the World- (P.2)
ตลาดหุ้น Dow Jones และ NASDAQ สร้าง All Time High
ตลาดหุ้น Dow Jones และ NASDAQ สร้าง All Time High
Market Outlook
วันนี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบแคบ 1,700-1,720 จุด หลังยังไร้ปัจจัยใหม่และอยู่ในช่วงติดตามงบ 3Q60 ของ บจ. ที่กำลังทยอยประกาศออกมาในสองสัปดาห์นี้
วันนี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบแคบ 1,700-1,720 จุด หลังยังไร้ปัจจัยใหม่และอยู่ในช่วงติดตามงบ 3Q60 ของ บจ. ที่กำลังทยอยประกาศออกมาในสองสัปดาห์นี้
Market Factors
(+) ดัชนี DJIA ปิด +0.04%DoDด้วยวอลุ่มเบาบางหลังยังกังวลแผนปฎิรูปภาษีสหรัฐฯ จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด .3%DoD จากแรงขายทำกำไรหลังปรับขึ้นแรงช่วงก่อนหน้า
(+) ครม.อนุมัติมาตรการช้อปช่วยชาติเริ่ม 11 พ.ย.-3 ธ.ค.นี้ โดยนำค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทมาหักลดหย่อนภาษีได้ เพื่อกระตุ้น ศก.ช่วงปลายปี
(+) กกร.คาด GDP ไทยปี 61 โต 3.5-4%YoY ใกล้เคียงกับปีนี้ที่คาดโต 3.4 - 4%YoY
(+) วันนี้ติดตามสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ จาก EIA และการประชุมนโยบายการเงินของไทยซึ่งตลาดคาด กนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% เพื่อกระตุ้น ศก. ต่อไป
(+) ดัชนี DJIA ปิด +0.04%DoDด้วยวอลุ่มเบาบางหลังยังกังวลแผนปฎิรูปภาษีสหรัฐฯ จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด .3%DoD จากแรงขายทำกำไรหลังปรับขึ้นแรงช่วงก่อนหน้า
(+) ครม.อนุมัติมาตรการช้อปช่วยชาติเริ่ม 11 พ.ย.-3 ธ.ค.นี้ โดยนำค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทมาหักลดหย่อนภาษีได้ เพื่อกระตุ้น ศก.ช่วงปลายปี
(+) กกร.คาด GDP ไทยปี 61 โต 3.5-4%YoY ใกล้เคียงกับปีนี้ที่คาดโต 3.4 - 4%YoY
(+) วันนี้ติดตามสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ จาก EIA และการประชุมนโยบายการเงินของไทยซึ่งตลาดคาด กนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% เพื่อกระตุ้น ศก. ต่อไป
Investment Strategy
แม้ระยะสั้นตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงพักฐาน แต่มอง Downside จำกัดและระยะยาวยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังภาวะ ศก. มีสัญญาณดีขึ้นอีกทั้งยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ที่คาดจะไหลเข้ามาในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปีนี้อย่างน้อย 4 หมื่น ลบ. ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะหาจังหวะทยอยซื้อสะสมหุ้น Domestic Play ที่มีศักยภาพเติบโตดีดังนี้
1) กลุ่มพลังงาน: รับอานิสงส์ราคาน้ำมันมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP
2) กลุ่มธนาคาร: สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะ ศก.ที่ดีขึ้น เลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: เข้าสู่ High Season และได้อานิสงส์ครม.อนุมัติมาตรการช็อปช่วยชาติลดหย่อนภาษีเลือก CPALL, ROBINS, HMPRO,MAKRO, BJC, KAMART, MC
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: กำไรมีแนวโน้มโตสดใส เลือก BCH, LPH, WICE, JUBILE
แม้ระยะสั้นตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงพักฐาน แต่มอง Downside จำกัดและระยะยาวยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังภาวะ ศก. มีสัญญาณดีขึ้นอีกทั้งยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ที่คาดจะไหลเข้ามาในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปีนี้อย่างน้อย 4 หมื่น ลบ. ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะหาจังหวะทยอยซื้อสะสมหุ้น Domestic Play ที่มีศักยภาพเติบโตดีดังนี้
1) กลุ่มพลังงาน: รับอานิสงส์ราคาน้ำมันมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP
2) กลุ่มธนาคาร: สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะ ศก.ที่ดีขึ้น เลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: เข้าสู่ High Season และได้อานิสงส์ครม.อนุมัติมาตรการช็อปช่วยชาติลดหย่อนภาษีเลือก CPALL, ROBINS, HMPRO,MAKRO, BJC, KAMART, MC
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: กำไรมีแนวโน้มโตสดใส เลือก BCH, LPH, WICE, JUBILE
Market Talk and News
กลุ่มค้าปลีก (Overweight): ครม.อนุมัติมาตรการช็อปช่วยชาติตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.- 3 ธ.ค. 60 เวลารวม 23 วัน ยาวนานกว่าทุกปี โดยปีนี้ให้นำค่าซื้อสินค้าและบริการ (ไม่รวมเหล้ายาสูบ รถ เรือ น้ำมัน ท่องเที่ยว ค่าที่พักโรงแรม) มาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ซึ่งคาดส่งผลบวกต่อผลประกอบการช่วง 4Q60 ของหุ้นค้าปลีกที่ดูแลอยู่ทั้ง CPALL, ROBINS, HMPRO, MAKRO, BJC, KAMART, MC ทั้งนี้เลือก BJC และ KAMART เป็น Top Picks หลังราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside เหลือเกิน 10%
SYNEX (BUY: Consensus [email protected]) : ปี 60 คาดกำไรโต 26.4%YoY จากธุรกิจกลุ่มCommercial ที่มีแผนออกสินค้าใหม่ด้านความปลอดภัย (มาร์จิ้นสูง) บวกกับกลุ่มมือถือและโน๊ตบุ๊คได้รับอานิสงส์จากแบรนด์ชั้นนำค่ายต่างๆเตรียมออกสินค้าใหม่เช่น Samsung Galaxy Note 8 และ Huawei Mate 10 +ราคาหุ้นยังมี Upside 7.5% จึงแนะนำ "ซื้อ"
JMT (BUY:[email protected]):ช่วง2H60 คาดกำไรโตทั้ง HoH และ YoY ด้วยแรงหนุนจาก 1) เร่งขาย NPL ของสถาบันการเงินสอดคล้องกับเป้าซื้อหนี้ใหม่ของ JMT อีกราว 1.9 หมื่น ลบ. จากสิ้นช่วง 1H60 ซื้อแล้ว 1.1 หมื่น ลบ. 2) ยอดจัดเก็บหนี้ที่จะดีขึ้นตาม ศก. ที่ฟื้นตัวช่วงปลายปี และ 3) แผนขยายธุรกิจไปยังกัมพูชาที่ยังมีศักยภาพโตอีกมาก + Upside 7.3%
กลุ่มค้าปลีก (Overweight): ครม.อนุมัติมาตรการช็อปช่วยชาติตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.- 3 ธ.ค. 60 เวลารวม 23 วัน ยาวนานกว่าทุกปี โดยปีนี้ให้นำค่าซื้อสินค้าและบริการ (ไม่รวมเหล้ายาสูบ รถ เรือ น้ำมัน ท่องเที่ยว ค่าที่พักโรงแรม) มาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ซึ่งคาดส่งผลบวกต่อผลประกอบการช่วง 4Q60 ของหุ้นค้าปลีกที่ดูแลอยู่ทั้ง CPALL, ROBINS, HMPRO, MAKRO, BJC, KAMART, MC ทั้งนี้เลือก BJC และ KAMART เป็น Top Picks หลังราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside เหลือเกิน 10%
SYNEX (BUY: Consensus [email protected]) : ปี 60 คาดกำไรโต 26.4%YoY จากธุรกิจกลุ่มCommercial ที่มีแผนออกสินค้าใหม่ด้านความปลอดภัย (มาร์จิ้นสูง) บวกกับกลุ่มมือถือและโน๊ตบุ๊คได้รับอานิสงส์จากแบรนด์ชั้นนำค่ายต่างๆเตรียมออกสินค้าใหม่เช่น Samsung Galaxy Note 8 และ Huawei Mate 10 +ราคาหุ้นยังมี Upside 7.5% จึงแนะนำ "ซื้อ"
JMT (BUY:[email protected]):ช่วง2H60 คาดกำไรโตทั้ง HoH และ YoY ด้วยแรงหนุนจาก 1) เร่งขาย NPL ของสถาบันการเงินสอดคล้องกับเป้าซื้อหนี้ใหม่ของ JMT อีกราว 1.9 หมื่น ลบ. จากสิ้นช่วง 1H60 ซื้อแล้ว 1.1 หมื่น ลบ. 2) ยอดจัดเก็บหนี้ที่จะดีขึ้นตาม ศก. ที่ฟื้นตัวช่วงปลายปี และ 3) แผนขยายธุรกิจไปยังกัมพูชาที่ยังมีศักยภาพโตอีกมาก + Upside 7.3%
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BR, SCN
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BR, SCN
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO2118