เด็กแนว(ภาคบ่าย)- 5 บาท ไม่ยากเลย

Details: Category: ซุบซิบการลงทุน; Published: Tuesday, 07 November 2017 17:38; Hits: 5732

เด็กแนว(ภาคบ่าย) ASIMAR 5 บาท ไม่ยากเลย
ASIMAR : ถูกคาดหมายในรอบนี้ว่ากำไร Q3 จะแรงทุบสถิติกำไรรายไตรมาส เนื่องจากในระยะต้นปีที่ผ่านมามีงานในมือตุนไว้เยอะ และการรอรับรู้ล่าช้ามาตั้งแต่ครึ่งแรกของปี แต่ในครึ่งหลังนี้จะรับรู้กันเต็มที่โดยเฉพาะงานต่อเรือของการท่าเรือแห่งประเทศไทย งานซ่อมบำรุง ของทั้งกรมประมง และกองทัพเรือ งานซับคราบน้ำมันเขตอ่าวไทย งานอะไรต่อมิอะไรอีกเพียบ แถมยังมีงานด้านโครงสร้างเหล็กที่จะเป็นตัวเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัท จึงทำให้เด็กแนวมองว่าไตรมาสนี้น่าจะมีอะไรให้เราได้ตื่นเต้นบ้าง ASIMAR จัดว่าเป็นหุ้นที่มีค่า PE ต่ำจริงแค่ 11 เท่า และจะต่ำกว่านี้เมื่อแจ้งกำไรเพิ่มขึ้น
สิ่งที่น่าจับตาต่อไปก็คือการหันไปขยายตัวทางด้าน Logistic งานนี้ หากบริษัทมีพันธมิตรเข้ามาต่อยอด เหมือนติดปีกให้บริษัทเลยก็ว่าได้ เบื้องต้นประเมินกำไรทั้งปีควรแตะ 100 ล้านบาท สูงสุดเท่าที่เคยมีมาหรือมี EPS ที่ 0.40 บาท ซึ่งค่า PE จะลงมาเหลือเพียง 9 เท่า เป้าราคา 5 บาทไม่ยากเลย ส่วนกราฟตั้งลำ ตีวง มีเป้าแนวต้านหน้าที่ 3.90 บาท ทรงแบบนี้ยังไงก็ขึ้น แถมเป็นหุ้นราคาถูก ความเสี่ยงต่ำ น่าสะสมคร๊าบบ แต่ถ้ากำไรไตรมาสนี้ออกมาต่ำกว่า 30 ล้านบาท คงต้องเลิกคบกันยาวๆ เลยอ่ะ

บล.เออีซี : Derivatives Signals

SET50 Index Futures

มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีรีบาวด์ต่อ
          BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวานนี้ Spot ปิดบวกมากกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 2.23 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +2.07 จุด ยังคงสูงกว่า Theory Basis ที่ +1.19 จุด สะท้อนระยะกลาง (3 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.3 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.8 จุด แต่ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.93 จุด
          PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.59x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.91x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.21x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.02x ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
          Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติ Net Long 434 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 39,419 แต่ขายสุทธิในตลาดหุ้น 271 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มเป็น 21,151 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองเป็นลบต่อ

ตลาดทุนไทย

Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: คาดพุ่งเข้าหากรอบบน BB!!!
เมื่อวานนี้ S50Z17 ภาคเช้าทรงตัว ภาคบ่ายขึ้นต่อ ปิดบริเวณตรงกลางค่าเฉลี่ยของกรอบ Bollinger Band (BB) พอดี แสดงให้เห็นว่าภาพใหญ่ของ S50Z17 มีแนวโน้มแกว่งแบบ Sideway ในกรอบกว้าง 1,070-1,110 จุด ส่วนภาพระยะสั้น (สัปดาห์นี้) เรามองขึ้นต่อ เพราะ 1) Modified Stochastic ค่า %K ตัด %D ขึ้น ในกราฟ 120 นาที และ 2) RSI เริ่มมากกว่า 50% หรือพลิกจาก Negative Zone เป็น Positive Zone โดยเรามองแนวต้านรอบนี้ไว้ที่ 1,100 จุด กรอบบน Bollinger Band ที่ระดับ +2SD

กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: Let's Profit Run ด้วยการถือสถานะ Long S50Z17 หวังทำกำไรตรงแนวต้านที่ 1,100 จุด และกรณีพลิกผลันตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 1,080 จุด

AEC Securities
Technical Research Team

          อิศรา เลิศสุดคนึง
          Analyst
          ID: 033432

บล.เออีซี : Action Strategy

AECS Market Outlook :เด้งตัวระยะสั้น
กราฟ SET สามารถดีดตัวกลับ หลังจากทดสอบแนว 1,700 จุด และสามารถประคองตัวไม่ให้หลุดแนวดังกล่าวได้สำเร็จ อีกทั้งยังสามารถดีดตัวกลับ ทำให้สัญญาณ M-Curve ถูกยกเลิกไป กราฟแท่งเทียนปิดสูงขึ้นเป็นสัญญาณเชิงบวกสนับสนุนแบบ Positive Engulfing ทำให้ RSI กลับมาโค้งตัวขึ้นอีกคร้งหนึ่ง และจะทำให้แนวโน้มมีโอกาสเด้งตัวไประหว่าง 1,720-1,726 จุดได้ แต่ยังมีโอกาสผันผวน เนื่องจากเครื่องมือ MACD ที่ยังคงลงจะมีแรงกดดันช่วงดีดตัว

กลยุทธ์
1. กลับมาเก็งกำไรตามการดีดตัวนี้ระยะสั้น
2. ถือหุ้นต่อไป และกำหนดจุด Cut เมื่อหลุด 1,700 จุด

บทสรุปการลงทุน:
SET แนวโน้ม กลับมาดีดตัวช่วงสั้น

          SET Closed: 1,711.74
          Support:   1,700   1,705
          Resistant: 1,720   1,726

          NYT ขึ้นแบบ V-shape
          ราคาปิด 6.50 บาท
          แนวรับ 6.45 บาท     แนวต้าน: 7.50 บาท
          Stop Loss : เมื่อหลุด 6.35 บาท

กราฟ NYT มีโครงสร้างเป็น V-shape เต็มรูปแบบ โดยกำลังเคลื่อนตัวเข้าหาเป้าหมายที่ 7.50 บาท โดย RSI เกิดสัญญาณซื้อสนับสนุนการมุ่งหน้านี้ และมีปริมาณการซื้อสะสมต่อเนื่องมาตลอด แนะนำ "ซื้อ"

AEC Securities
          รณกฤต สารินวงศ์
          Head of Research
          ID: 012234
          [email protected]

บล.เออีซี : Daily Focus

AECS Daily Focus
          Technical: เด้งตัวระยะสั้น
          Trading Idea: NYT
          เด็กแนว: TASCO, LPH

Connect the World- (P.2)
ตลาดหุ้น Dow Jones และ NASDAQ สร้าง All Time High

Market Outlook
วันนี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,700-1,720 จุด ระหว่างรอปัจจัยใหม่และติดตามผลประกอบการช่วง 3Q60 ของ บจ. ที่กำลังทยอยประกาศออกมาในสองสัปดาห์นี้

Market Factors
          (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.04%DoD ขานรับข่าวควบกิจการของบริษัทรายใหญ่และความคาดหวังแผนปฎิรูปภาษีจะหนุนผลประกอบการภาคเอกชน
          (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +3.1%DoD จากข่าวกษัตริย์ซาอุฯ ประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่และคาดซาอุฯ ยังไม่เปลี่ยนนโยบายในการกระตุ้นราคาน้ำมันในขณะนี้
          (+) ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ม.ค. 61) อยู่ที่ 165.77 อยู่ในเกณฑ์"ร้อนแรงอย่างมาก" จากความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทาง ศก.โดยเฉพาะส่งออกและท่องเที่ยว
          (+) วันนี้จับตา ก.คลังเตรียมนำมาตรการช็อปช่วยชาติเสนอ ครม. พิจารณา โดยคาดให้นำค่าซื้อสินค้าและบริการไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทมาลดหย่อนภาษีในวันที่ 11-30 พ.ย. 60

Investment Strategy
          แม้ระยะสั้นตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงพักฐาน แต่มอง Downside จำกัดและระยะยาวยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังภาวะ ศก. มีสัญญาณดีขึ้นอีกทั้งยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ที่คาดจะไหลเข้ามาในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปีนี้อย่างน้อย 4 หมื่น ลบ. ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะหาจังหวะทยอยซื้อสะสมหุ้น Domestic Play ที่มีศักยภาพเติบโตดีดังนี้
          1) กลุ่มพลังงาน: รับอานิสงส์ราคาน้ำมันมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP
          2) กลุ่มธนาคาร: สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะ ศก.ที่ดีขึ้น เลือก KBANK,KKP, BBL
          3) กลุ่มบริการ : เข้าสู่ High Season และได้อานิสงส์หากครม.อนุมัติมาตรการช็อปช่วยชาติลดหย่อนภาษีเช่นปีก่อน โดยกลุ่มโรงแรม เลือก MINT, ERW กลุ่มค้าปลีก เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO และกลุ่มสื่อ เลือก MAJOR
          4) กลุ่ม Mid-SmallCap: กำไรมีแนวโน้มโตสดใส เลือก BCH, LPH, WICE, JUBILE

Market Talk and News

          LPH (BUY:[email protected]): ช่วง 3Q60 คาดกำไรพลิกโต 6.3%YoY หลังรายได้กลุ่มเงินสดโตสดใสจากสถานการณ์ฝนตกชุกและยาวนานกว่าปีก่อนและมีรายได้จากการลงทุนกองทุนส่วนบุคคลที่ดีขึ้นตามภาวะตลาดหุ้นไทยส่วนช่วง4Q60คาดยังโตสดใสหลังมีการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่และรับรู้ผลปรับขึ้นค่าเหมาจ่าย SC+ ยังมี Upside 11% คงแนะนำ "ซื้อ"
          TU (BUY: Consensus [email protected]): ช่วง 3Q60 มีกำไรเติบโต 8.9%YoY จากการปรับขึ้นราคาสินค้าและปริมาณการขายที่เพิ่มสูงขึ้นบวกกับการรับรู้ผลตอบแทนจากการลงทุนในRed Lobster ส่วนทั้งปี 60 คาดกำไรโต 0.7%YoY และคาดโตต่อ 13.3%YoY ในปี 61 จากแนวโน้มสดใสของธุรกิจกุ้งแซลมอนและอาหารสัตว์ + มีUpside 17.2% แนะนำ "ซื้อ"
          AP (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 13% ด้วยแรงหนุนจากBacklog ในมือ 3.54 หมื่น ลบ. ซึ่งจะทยอยโอนได้ถึงปี63อีกทั้งล่าสุดมียอด Presales ช่วง9M60 สูงถึง 2.8 หมื่น ลบ. และวางแผนเปิดตัว6โครงการใหม่ในเดือน พ.ย.60 แบ่งเป็นแนวราบ 5 คก. และคอนโด 1 คก. มูลค่ารวม 1.67 หมื่น ลบ. + Upside 6.5%แนะนำ "ซื้อ"

Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก AIT, BEM

AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234)          [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445)        [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)           [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์                        Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ                      Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์                 Data Support / Secretary

OO2073

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!

สถานที่ติดต่อ