WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ACESเด็กแนว- ALT กล้าให้ก็กล้ารับ
          เด็กแนวได้บอกแล้วว่า หุ้นตัวนี้มีอะไรดีๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการได้งานวางสายใต้ดิน หลังจากเสร็จในสายพญาไท และกำลังทำต่อในสายสุขุมวิทอีก 25 กิโลเมตร และคาดว่ามีโอกาสที่จะได้รับงานใหญ่ เพราะมูลค่าทั้งโครงการสูงเกือบ 2 แสนล้านบาท  นอกจากนี้ยังไป ซุ่มจับมือกับเกาหลี Lotte Data Communication ที่ชำนาญทั้งเรื่องโครงข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ดังนั้นงานนี้คอยดูกันไว้ถึงพัฒนาการของบริษัทที่ซุ่มทำไว้เงียบๆ ส่วนผลการดำเนินงาน Q3 ปีนี้ควรจะดีกว่าปีก่อน เพราะมีงานวางใต้ดิน และรายได้ประจำจากระบบเช่า ขณะที่ PE ถูกลงเหลือ 27 จากเคยสูงถึง 50 เท่า ในเมื่อทุกอย่างลงตัวบริษัทจึงเริ่มโปรยยาหอม แจกวอแรนท์ 4:1  ฟรี กำหนดการแปลงสภาพที่ราคา 3 บาท ได้รับสิทธิ์กลางเดือนธันวาคม มีอายุที่ 3 ปี  
          ประเมินว่าราคา ALT-W1 ควรจะเข้ามาที่ราคาประมาณ 3 บาท ถือว่าใครได้สิทธิ์ ค่อนข้างคุ้มค่าเลยด้วยด้านกราฟมีโครงสร้างแบบ W-shape เป้าหมาย 7.50 บาท เป็นตัว W ขนาดเล็ก และเมื่อผ่านไปได้จะเห็น  W ขนาดที่ใหญ่ขึ้นระดับ 9 บาท ทรงแบบนี้ยังไงราคาหุ้นก็ต้องสูงกว่าปัจจุบันก่อนรับสิทธ์วอแรนท์  ในเมื่อเขาให้ของดี  เราก็ต้องกล้ารับกันล่ะ
- TNP เตรียมรับ ช็อป ช่วย ชาติ
          ถือว่าไม่ผิดหวังสำหรับหุ้นตัวนี้ เพราะราคาเดินหน้าต่อเนื่องในรอบนี้ รับผลบวกหลายเด้ง ตั้งแต่การเปิดคลังสินค้าใหม่สำเร็จ ส่งผลให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น เร่งยอดขายได้มากขึ้น  นอกจากนี้บัตรประชารัฐยังเพิ่มรายได้เต็มๆ เพราะคนแห่กันช็อปเต็มสูบ จากยอด 3 รายในจังหวัดเชียงราย 
          และที่กำลังจะรับเต็มๆ คงจะเป็นเรื่องโครงการช็อปช่วยชาติของรัฐบาลที่คาดว่าจะประกาศใช้กลางเดือนนี้  ละนี่คือตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้รายได้มีโอกาส New high  กระนั้นเลย ส่วนกราฟเห็นสัญญาณซื้อ ราคาขึ้นมาไม่น้อยจากที่เด็กแนวแนะนำคราวก่อน รอบนี้มีต้านถัดไป 3.30  บาท  แนะนำช็อปสบายๆ
          AEC Securities
          รณกฤต สารินวงศ์
          Head of Research
          ID: 012234
          [email protected]
 
บล.เออีซี : Derivatives Signals
 
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีรีบาวด์
          BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ Spot ปิดลบแต่ S50Z17 ปิดบวก ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +4.30 จุด สูงกว่า Theory Basis ที่ +1.22 จุด สะท้อนระยะกลาง (3 เดือน) ตลาดกลับมามีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.1 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -2.95 จุด
          PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.50x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.58x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.23x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่าเพราะแสดงถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
          Fund Flow Analysis: เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้นักลงทุนต่างชาติ Net Short 4,686 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures  เพิ่มเป็น 39,853 และขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,327 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มเป็น 20,974 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย
 
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: รีบาวด์!!!
          เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50Z17 แกว่งทรงตัวและพยายามยืนในแดนบวก หลังจากลงทดสอบกรอบล่าง Bollinger Band ที่ระดับ -2SD อย่างไรก็ดีเรายังคงมองเหมือนเดิมว่าภาพใหญ่ S50Z17 มีแนวโน้มแกว่งแบบ Sideway ในกรอบ 1,070-1,090 จุด อีกทั้งราคาปัจจุบันเริ่มเข้าใกล้แนวรับ 1,070 จุด พร้อมกับ Modified Stochastic ส่งสัญญาณ Oversold ในกราฟ 120 นาที ดังนั้นเราจึงมองว่าสัปดาห์นี้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ และจะยังคงแกว่งในกรอบ Sideway
 
กลยุทธ์การลงทุน
          Outright Trading: ทยอยปิด Short S50Z17 พร้อมกับทยอยเปิด Long S50Z17 เมื่อลงมาเข้าใกล้แนวรับ 1,070 จุด คาดหวังทำกำไรตรงแนวต้านที่ 1,090 จุด และกรณีพลิกผลันตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 1,065 จุด
          AEC Securities
          Technical Research Team
          อิศรา  เลิศสุดคนึง
          Analyst
          ID: 033432
 
บล.เออีซี : Action Strategy
 
AECS Market Outlook : เกิดได้สองทิศทาง
          กราฟ SET (180นาที) อ่อนตัวลง แต่ยังสามารถรักษาระดับไม่ปิดต่ำกว่า 1,700 จุดได้  ซึ่งเป็นสัญญาณที่ต้องให้ความหวัง อย่างไรก็ตามแนวโน้มกราฟล้วนแสดงเครื่องหมายเชิงลบ  ทั้งรูปสามเหลี่ยม การโค้งตัวแบบถ้วยคว่ำ การตัดลงของ MACD บ่งบอกแนวโน้มของการลงต่อ แต่เรายังให้โอกาสการดีดตัวกลับของ SET ให้ถึงกลางสัปดาห์แล้วไม่ปิดต่ำกว่า 1,695 จุด  จะทำให้การม้วนตัวกลับเกิดขึ้นได้   
 
กลยุทธ์
          1. Wait and See ถือหุ้นต่อหากไม่หลุด 1,695 จุด
          2. หากปิดต่ำกว่า 1,695 จุด  จะปรับตัวลงต่อ ให้ขายหุ้นออก 25%
          3. หากปิดสูงกว่า 1,700 จุด หรือสูงขึ้นเรื่อยๆ ตลาดจบการลง ให้ซื้อหุ้นเพิ่ม
 
บทสรุปการลงทุน:
          SET แนวโน้ม แกว่งตัวสองทิศทาง  แนวโน้มลงได้เปรียบเล็กน้อย
          SET Closed: 1,701.47
          Support:   1,688   1,695
          Resistant: 1,710   1715
          IFS  ทดสอบ High เดิม
          ราคาปิด  3.70 บาท
          แนวรับ  3.68 บาท     แนวต้าน: 3.90 บาท
          Stop Loss : เมื่อหลุด 3.62 บาท
          กราฟ IFS ตัดผ่านแนวกรอบสามเหลี่ยม ซึ่งทำให้เกิดสัญญาณซื้อที่จะดีดตัวราคาหุ้นต่อไปยังแนวต้านสำคัญ โดยมีแนว High เดิมที่ 3.90 บาท  และ RSI ไต่ระดับขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ ที่ต่ำกว่า Overbought จึงแนะนำ "ซื้อ"
          AEC Securities
          รณกฤต สารินวงศ์
          Head of Research
          ID: 012234
          [email protected]
 
บล.เออีซี : Daily Focus

AECS Daily Focus
          Technical: เกิดได้สองทิศทาง
          Trading Idea: IFS
          เด็กแนว: ALT, TNP
Connect the World- (P.2)
          ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกหลังตัวเลขเศรษฐกิจและภาคแรงงานออกมาดี
 
Market Outlook
          สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,690-1,720 จุด ระหว่างรอปัจจัยใหม่และติดตามผลประกอบการช่วง 3Q60 ของ บจ. ที่กำลังทยอยประกาศออกมาในสองสัปดาห์นี้
 
Market Factors
          (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.10%DoD ขานรับผลประกอบการแอปเปิลอิงค์ที่ออกมาแข็งแกร่ง
          (+) ราคาน้ำมัน WTI  ปิด +2.0%DoD หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ค. 60 และคาดกลุ่มโอเปกจะขยายเวลาปรับลดกำลังผลิตออกไปอีก
          (+) คลังเตรียมเสนอครม.นำมาตรการช็อปช่วยชาติมากระตุ้น ศก.ปลายปี โดยคาดให้นำค่าซื้อสินค้าและบริการไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท มาลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกับปีก่อน
          (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. รวมทั้งดุลการค้าจีนและการประชุมนโยบายการเงินของไทยซึ่งตลาดคาด กนง. ยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50%
 
Investment Strategy
          แม้ระยะสั้นตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงพักฐาน แต่มอง Downside จำกัดและระยะยาวยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังภาวะศก. มีสัญญาณดีขึ้นอีกทั้งยังมีเม็ดเงินจากกองทุนLTF และRMF ที่คาดจะไหลเข้ามาในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปีนี้อย่างน้อย 4 หมื่น ลบ. ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะหาจังหวะทยอยซื้อสะสมหุ้น Domestic Play ที่มีศักยภาพเติบโตดีดังนี้
          1) กลุ่มพลังงาน: รับอานิสงส์ราคาน้ำมันมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP
          2) กลุ่มธนาคาร: สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะ ศก.ที่ดีขึ้น เลือก KBANK, KKP, BBL
          3) กลุ่มบริการ : เข้าสู่ High Season และได้อานิสงส์หากครม.อนุมัติมาตรการช็อปช่วยชาติลดหย่อนภาษีเช่นปีก่อน โดยกลุ่มโรงแรม เลือก MINT, ERW กลุ่มค้าปลีก เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO และกลุ่มสื่อ เลือก MAJOR
          4) กลุ่ม Mid-SmallCap: กำไรมีแนวโน้มโตสดใส เลือก BCH, LPH, WICE, JUBILE
 
Market Talk and News
          MAJOR (BUY:TP@40): ช่วง 2H60 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยรายได้ธุรกิจโรงหนังที่โตดีจากไลน์หนัง Blockbuster ที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะหนังHero ภาคต่อ (Marvel และDC) ที่คาดได้รับความนิยมระดับสูงเช่น Thor: Ragnarok, Justice League และBlack Panther บวกกับ บริษัทมีแผนเปิดโรงหนังใหม่อีก49 โรงเพื่อรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น + ราคาหุ้นยังมี Upside 22.1% และคาดมี Div. Yield จากกำไรช่วง 2H60 อีก 2.1% คงแนะนำ "ซื้อ"
          HMPRO (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดเป็นพีคของกำไรปีนี้หลังเข้าฤดูการซ่อมแซมปรับปรุงที่อยู่อาศัยและบริษัทมีแผนยกระดับคุณภาพ Private Brand เพื่อเพิ่มศักยภาพทำกำไรพร้อมเปิดโฮมโปรในมาเลเซียเพิ่มอีกแห่งที่ยะโฮร์หนุนให้ปีนี้คาดกำไรโต 16%YoY และโต 11%YoY ในปี61 ตามกำลังซื้อที่ดีขึ้นและการขยายสาขาต่อเนื่อง + Upside 15%
          ASEFA (BUY:Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรโต 10.3%YoY หนุนด้วย Backlog ปัจจุบันที่มีอยู่ราว 2 พัน ลบ. ซึ่ง 70%-75% จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้อีกทั้งเตรียมเข้าประมูลงานโครงการสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมจากภาครัฐและภาคเอกชนมูลค่ารวม 3 พัน ลบ. โดยตั้งเป้าได้รับงานเพิ่มอีก1 พัน ลบ. + มีUpside 43.7% และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ 5.3%
Quantitative Screening
          หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก  PTTEP, IVL
 
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234)          [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445)        [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)           [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์                        Asst. Analyst
จิรภัทร  โบสุวรรณ                      Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์                 Data Support / Secretary
OO2006

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!