ในแต่ละปีหุ้นอสังหามักจะมีอะไรแปลกๆ เป็นรายตัวให้นักลงทุนมึนเล่น  และปีนี้ต้องยกให้ SPALI เลยก็ว่าได้  เพราะ Talk of the town คืออยู่ๆ  ก็ประกาศว่าไม่จ่ายปันผลในสิ้นปี 60 ซะงั้นทั้งๆ ที่สถิติของบริษัทจัดเป็นหุ้นปันผลอันดับต้นๆ  ของตลาด แสดงว่าต้องเล็งเห็นอะไรแน่ จำไว้ว่าในตลาดหุ้นนั้น รายย่อยแพ้รายใหญ่ รายใหญ่แพ้วีไอ  และวีไอแพ้เจ้าของฉันใดฉันนั้น  งานนี้ใครชนะใคร ผลงานและราคาจะเป็นประกัน แปลกตรงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เล่นหุ้นแบบระยะสั้น  มีกำไรพองามก็เทหุ้นทิ้ง  ไม่ได้สนใจในเรื่องปันผลซักเท่าไร แต่พอ SPALI ประกาศงดจ่ายปันผลกลับขายออกมาแล้วบ่นว่าหุ้นไม่จ่ายปันผลไม่น่าเล่น เป็นซะอย่างงั้น    
          จุดที่น่าสนใจของหุ้นตัวนี้คือราคาหุ้นที่ลงมาร่วมสามเดือน ขณะที่ยอดขายกลับสร้างสถิติสูงสุดของปี  และ Backlog พุ่งแรงถึง 3.7 หมื่นล้านบาท   แค่นั้นยังไม่พอผลประกอบการใน Q3  นี้ เด็กแนวประเมินว่าจะขยายตัวราว 80% เทียบปีก่อน และดีสุดในรอบหลายปี ซึ่งราคาหุ้นอยู่แค่ 24.40 บาท หากเทียบ 3Q57 กำไรที่สูสีกันราคาหุ้นตอนนั้น 27 บาท   ราคาหุ้นตอนนี้ยังไม่ได้สะท้อนกำไรที่จะประกาศออกมาแรงๆ ดังนั้นราคาหุ้นควรจะวิ่งไป วิ่งไป
          ส่วนเป้าหมายที่เหมาะสม 27 บาท  เด็กแนวว่ามีโอกาสกระชากไปชนไม่ยากเลย ด้านแนวโน้มกราฟตอนนี้ถือว่าค่อนข้างต่ำในรอบหลายเดือน  จึงมีความเสี่ยงต่ำ และ Upside สูง โดยโครงสร้างเป็น W-shape มี RSI เด้งตัวขึ้น ประเมินการดีดตัวรอบนี้ลุ้นได้ 27 บาท ไม่นานเกินรอ  สะสมไว้

         

          AEC Securities
          รณกฤต สารินวงศ์
          Head of Research
          ID: 012234
          [email protected]

 

บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : แบ่งขายกำไร
          SET ดีดตัวขึ้นต่อจากปลายสัปดาห์ก่อนได้ค่อนข้างแรง แต่เราพบว่าปริมาณการซื้อขายกลับมีสัดส่วนที่ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สาม  ขณะที่ Indicators หลายตัวยังคงบ่งชี้ในแนวโน้มอาจผันผวน  โดย MACD อยู่ในทิศทางปรับลง ทั้งนี้ SET จะต้องทรงตัวใกล้ หรือเหนือ 1,710 จุดให้ได้ในวันนี้จะยืนยันการฟื้นตัวที่อาจสร้าง New high ได้ แต่หากต่ำกว่านี้ จะมีแรงกดดันให้ SET ผันผวนต่อในระยะปลายสัปดาห์   อย่างไรก็ตามวอลุ่มที่ลดลง ทำให้เรามองว่าแนวโน้มเชิงลบอาจได้เปรียบในวันนี้
 
กลยุทธ์
          1. ลดการถือครองหุ้นใหญ่ที่ต้นทุนสูงระยะ 1 สัปดาห์
          2. หากปิดต่ำกว่าเปิด ให้ถือหุ้นกลับบ้านน้อยลง 
          3. ถือเงินสดในพอร์ตเพิ่มขึ้น 20%

 

          SET อาจผันผวน เนื่องจากวอลุ่มลดลง
 
          SET Closed: 1,701.81
          Support:   1,685   1,690
          Resistant: 1,712   1,720

          MALEE   มุ่งหน้าไป 54
          ราคาปิด  45.25 บาท
          แนวรับ  45.00 บาท     แนวต้าน: 5400 บาท
          Stop Loss : เมื่อหลุด 44.00 บาท

          กราฟ MALEE (week) ฟอร์มตัวเป็น Head & Shoulder   ขณะที่ RSI เกิด Buy signal ที่แข็งแรง สนับสนุนการปรับตัวสูงขึ้นนี้ โดยมีแนวต้านที่มีโอกาสขึ้นทดสอบได้ที่ 5 บาท แนะนำ "ซื้อสะสม"

         

          AEC Securities
          รณกฤต สารินวงศ์
          Head of Research
          ID: 012234
          [email protected]

 

บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
 
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีขึ้นต่อ
          BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวานนี้ Spot ปิดบวกน้อยกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 3.59 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +7.02 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +1.76 จุด สะท้อนระยะกลาง (3 เดือน) ตลาดกลับมามีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.9 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -2.94 จุด
          PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.14x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.08x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.24x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
          Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net LONG 2,609 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 37,184 และซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 371 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิลดลงเหลือ 7,920.5 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย

Technical Analysis

 

มุมมองด้านเทคนิค: แกว่งในกรอบที่กว้างขึ้น
          เมื่อวานนี้ S50Z17 แกว่งขึ้นตลอดทั้งวัน หากพิจารณาการเคลื่อนไหวในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาจะพบว่ามีความผันผวนที่สูงมาก  โดยมีกรอบการเคลื่อนไหว High-Low ค่อนข้างกว้างซึ่งอยู่ที่ 1,070-1,110 จุด ขณะที่ราคาปัจจุบันปิดตรงกลางของกรอบพอดีที่ 1,090 จุด ซึ่งเป็นระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยตรงกลางของกรอบ Bollinger Band แสดงให้เห็นโอกาสที่จะขึ้นและลงในระดับเท่ากัน ดังนั้นวันนี้นักลงทุนต้องระวังเก็บไม้เก็บมือบ้าง เพื่อรอหาจังหวะการลงทุนรอบใหม่ โดยรอจังหวะเปิด Short เมื่อเข้าใกล้แนวต้านที่ 1,110 จุด และรอจังหวะเปิด Long เมื่อเข้าใกล้แนวรับที่ 1,070 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน
          Outright Trading: หาจังหวะ Trading S50Z17 ในกรอบ 1,070-1,110 โดยพิจารณาจากความได้เปรียบ Gain/Loss Ratio ตั้ง Stop loss เมื่อหลุดกรอบมากกว่า 5 จุด

         

        AEC Securities
          Technical Research Team

 

บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: แบ่งขายกำไร
Trading Idea: MALEE
เด็กแนว: SPALI
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
•    นักลงทุนติดตามผลประกอบการบ.จดทะเบียนในสหรัฐฯ ตลอดทั้งสัปดาห์

Market Outlook
•    วันนี้นี้คาด SET แกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1,680-1,715 จุด จากบรรยากาศซื้อขายที่   ซบเซาในช่วงไว้อาลัย อีกทั้งอยู่ระหว่างรอปัจจัยหนุนใหม่และงบ 3Q60 บจ. ที่ทยอยออกมา

 

Market Factors
•    (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.72%DoD หลังผลประกอบการบริษัทช่วง 3Q60 ที่ประกาศวานนี้ส่วนใหญ่ดีกว่าคาด สอดคล้องกับดัชนีภาคการผลิตที่ฟื้นตัว
•    (+) ราคาน้ำมัน WTI  ปิด+1.7%DoD หลังซาอุฯ ตั้งเป้าลดปริมาณน้ำมันดิบเพื่อแก้ปัญหา Oversupply บวกกับตลาดคาดสต๊อกน้ำมันสหรัฐฯ สัปดาห์นี้จะลดลง
•    (+/-) วันนี้นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของภาคการผลิตและภาคบริการ (Markit PMI) เดือน ต.ค. และรายงานสต๊อกน้ำมันดิบจาก API

 

Investment Strategy
•    เรามองระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังสถานการณ์การเมืองและภาวะ ศก. มีสัญญาณที่ดีขึ้นชัดเจน อีกทั้งยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ  RMF ที่กำลังจะเริ่มทยอยไหลเข้าในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “ทยอยซื้อ เน้นช่วงอ่อนตัวและไม่ไล่ราคา” โดยเลือกหุ้น Domestic Play ที่มีศักยภาพเติบโตดี, Laggard หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะดังนี้กลุ่มธนาคาร (KKP, BBL, TMB), กลุ่มนิคม (AMATA, WHA), กลุ่มโรงแรม (ERW, MINT) , กลุ่ม รพ.(BCH, LPH), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, BEAUTY, HMPRO) และกลุ่ม Mid-Small Cap (ZIGA, WICE, JWD, JUBILE)
•    กลุ่มเรือเทกอง (Trading Buy): อานิสงส์บวกจากดัชนี BDI ปรับเพิ่มขึ้นราว65.6%YTD ขณะที่ต้นทุนน้ำมัน NYMEX ปรับลดลงราว 3.1%YTD เลือก TTA (Consensus [email protected]) และ PSL (Upper Band Consensus [email protected])

 

Fundamental Report
•    MALEE (BUY:[email protected]): ช่วง 3Q60 คาดกำไรเติบโต 68.2%QoQ จากยอดขายน้ำผลไม้ในประเทศและผลไม้กระป๋องเริ่มดีขึ้น ส่วนทั้งปี 60 คาดกำไรยังหดตัว 20.7%YoY จาก    ออเดอร์น้ำมะพร้าวที่ลดลงเพราะการเพิ่มคุณภาพทั้งระบบ Supply Chain แต่คาดปี 61 กำไรจะโตแบบก้าวกระโดด 33.7%YoY จากโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ +Upside 17.1% และคาดให้ Div. Yield จากผลกำไรช่วง 2H60 อีกราว 1.02% จึงคงแนะนำ “ซื้อ”

 

Market Talk and News
•    EPG (BUY: [email protected]): ปี60/61-61/62 คาดกำไรปกติโตเฉลี่ยปีละ10.1% หนุนด้วยยอดขายของ 3 ธุรกิจหลักที่คาดโตดี หลังเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตฉนวนยางและอะไหร่ยานยนต์เพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้นบวกกับการฟื้นตัวของยอดขายบรรจุภัณฑ์ตามภาวะการบริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง + Upside 10.5% และคาดให้ Div. Yield เฉลี่ยปีละ 2.1%
•    WHAUP (BUY: Consensus [email protected]) : ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 35.7% หนุนด้วยธุรกิจสาธารณูปโภคในเขตนิคมกลุ่มเหมราช 8 แห่งและได้อานิสงส์จากนโยบาย EEC หนุนการขยายตัวในพื้นที่ดังกล่าว อีกทั้งทยอย COD โรงไฟฟ้า SPP อีก 4 โรงในปีนี้และ 1 โรงในปีหน้าทำให้มีกำลังผลิตรวม 542 MW ในปี 61 + Upside 5.1% และ Div Yield. ปีนี้ 2.3%
•    Quantitative Screening

 

    24-Oct-17    Change (pts.)    23-Oct-17
SET Index    1,701.81    9.23    1,692.58
SET50 Index    1,082.98    3.91    1,079.07
SET100 Index    2,442.48    12.39    2,430.09

High    1,578.96    Gainers                         826
Low    1,574.71    Unchanged    355
Value (Bt m)    48,286.01    Losers                         569
Volume (*000)    9,056,882          

Market Valuation
   SET Data    2017F    2018F    Long Term
   Fwd PER (x)    16.88    15.32    13.90
   EPS Growth (%)    5.76    10.19    10.18
   EV/EBITDA (x)    11.02    10.08    9.57
   FWD PBV (x)    1.97    1.82    1.70
   Dividend Yield (%)    2.79    2.93    3.21
   ROE    10.18    10.72    11.30

 

Net Buy/Sell by Investor Types
    Unit : M Bt    24-Oct-17    WTD    MTD    YTD
    Institution    1,636.73    1,636.73    (1,186.24)    61,336.86
    Proprietary    (18.57)    (18.57)    1,657.29    11,729.82
    Foreign     371.16    371.16    225.20    9,886.55
    Individual    (1,989.32)    (1,989.32)    (696.25)    (82,953.23)