- SCI  เก็บก่อนปรับเป้าไกล
          น่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ในขณะที่ราคาหุ้นต่ำมากรับรู้ปัจจัยลบไปแล้ว ราคา SCI  ที่ลงมา เพราะปัจจัยชะลอการรับรู้รายได้โครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูง-สถานีไฟฟ้าในลาว มูลค่างาน 1.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากทางลาวมีการปรับขนาดสายส่งให้เหมาะสมขึ้น ตั้งแต่ช่วงปลาย Q2 ที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะใกล้เรียบร้อยเร็วๆ นี้ คาดว่าไม่เกินเดือนหน้าทางลาวจะเซ็นผ่านและมอบงานใหม่มูลค่าราว 1.2 หมื่นล้านบาทที่ค้างอยู่ ให้พร้อมกันเลย 
          เรียกว่าหลังผ่านโรคเลื่อนก็จะกลายมาเป็นบุญหล่นทับเต็มๆ ไหนจะงานในประเทศเพียบทั้ง กฟภ. TRUE DTAC ADVANC พม่า กัมพูชาด้วยสิ่งที่น่าสังเกตคือช่วงที่ส่งมอบงานลาวปกติ โบรกเกอร์ให้มูลค่าสูงถึง 17 บาท แต่หลังจากงานชะลอการส่งมอบ จึงมีการปรับลดมูลค่าลง และคอยดูนะ เมื่อสถานการณ์กลับมา เป้าจะปรับสูงขึ้นอีกรอบ ดังนั้นราคาตรงนี้จึง Undervalue มาก
          ส่วนกราฟ ส่งสัญญาณซื้อสะสมเป็น W เล็ก แนวต้าน 8 บาท ถ้าผ่านไปได้ จะวิ่งแรงไป  W กลาง 9.50 บาท มองมุมไหนก็น่าเก็บอะ สะสมกันเถอะ

- AU บัตรคิวที่ 11 ใกล้ได้โต๊ะ
          เห็นกราฟของ After U แล้วก็ต้องคันไม้คันมือ อดที่จะเขียนถึงไม่ได้ ราคาหุ้นที่แข็งแรง แม้จะมีค่า PE สูงก็ตาม แต่ถ้าเห็นพัฒนาการของบริษัทแล้วก็ต้องยอมรับว่าอนาคตน่าจับตามอง  หลังจากเข้าตลาดมีการขยายธุรกิจต่อเนื่อง ทั้งในและเตรียมบุกต่างประเทศ ความสามารถในการลดต้นทุน การปรับประเภทสินค้าให้มีมาร์จิ้นท์สูงขึ้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยบวกให้ก้าวกระโดดได้  
อีกทั้งรอข่าวดีในการร่วมทุนธุรกิจนอกร้านที่จะเพิ่มฐานรายได้อันสำคัญ  โบรกเกอร์มีการปรับมูลค่าเหมาะสมสูงขึ้น เพราะเล็งเห็นการเติบโต และค่า PE ที่จะต่ำลง จึงถือว่าโอกาสในการเล่นมาอีกรอบในช่วงตลาดขาขึ้น โดยกราฟมีสัญญาณซื้อ แนวต้าน 11 บาท แนะนำเก็งกำไรกันคร๊าบบ

          AEC Securities
          รณกฤต สารินวงศ์
          Head of Research ID: 012234
          [email protected]

 

 บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ต้นตลาดยังดีดตัวขึ้นต่อ
          SET (180) นาที ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นตลาด ได้รับอานิสงส์จากตลาดหุ้นรอบบ้านที่สร้างระดับสูงสุดใหม่ถ้วนหน้า  โดยกราฟแท่งเทียนดีดตัวขึ้นฝ่าสัญญาณปรับฐานที่เกิดขึ้นก่อนหน้า  อย่างไรก็ตามระหว่างวันมีการเหวี่ยงตัวปรับฐานระหว่างชั่วโมง ก่อนที่จะเด้งตัวปิดสูงขึ้นในระยะท้ายตลาด ซึ่งกราฟล่าสุดยังคงมีทิศทางเดินหน้าใน Heat Zone  โดยกล่อง Uptrend จะเห็นภาวะตึงตัวที่ 1,736 จุด และอาจมีการปรับฐานจริงจังลงมาที่ 1,710 จุดในระยะปลายสัปดาห์

กลยุทธ์
          1. คาดเช้าเปิดบวก นักเก็งกำไรให้ถือหุ้นไปขายที่แนวต้าน 1,736 จุด
          2. ต้นทุนต่ำ Let profit run ต้นทุนสูง เก็งกำไรรายวัน
          3. หากปิดต่ำ ให้ถือหุ้นกลับบ้านน้อยลง สำหรับหุ้นที่เก็งกำไรข้ามวัน 

 

บทสรุปการลงทุน:
          SET ปรับตัวขึ้นในเขต Overbought เน้นเก็งกำไรระยะสั้น
           SET Closed: 1,706.95
          Support:   1,700   1,705
          Resistant: 1,720   1,725
         
          SCN  แนวทดสอบ 7 บาท
          ราคาปิด  5.85 บาท
          แนวรับ  5.80 บาท     แนวต้าน:  7.00 บาท
          Stop Loss : เมื่อหลุด 5.70 บาท

          กราฟ SCN (week) ดีดตัวขึ้นตัดผ่านแนวกรอบสามเหลี่ยม โดย RSI ปรับตัวขึ้นตัดผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเกิด Buy signal สนับสนุนการปรับขึ้นนี้ โดยมีแนวต้าน 7.00 บาท  แนะนำ "ซื้อ"

        

มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีวันนี้ขึ้นได้ไม่เยอะ
          BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวานนี้ Spot ปิดบวกมากกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.86 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +3.41 จุด เริ่มเข้าใกล้ Theory Basis ที่ +2.18 จุด ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.2 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.30 จุด เริ่มเข้าใกล้ Theory Spread ที่ -2.85 จุด สะท้อนระยะกลาง (3 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกลดลงต่อ SET50 Index
          PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.88x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.34x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.36x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.04x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
          Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net SHORT 5,304 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มเป็น 141,906 สัญญา พร้อมกับซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1,234 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติในฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เท่ากับขายสุทธิลดลงเหลือ 11,805.9 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังคงมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย

 

มุมมองด้านเทคนิค: จับตาแนวต้าน Spot ที่ 1,111.29 จุด
          เมื่อวานนี้ SET50 Index (Spot) เปิดบวกแล้วแกว่งขึ้นต่อ โดยสามารถทะลุแนวต้านเส้นระนาบที่ 1,096.29 จุด สลาย Price Pattern แบบ M-Shape อย่างไรก็ดีปัจจุบันกำลังทดสอบแนวต้าน  Historical High เมื่อปี 2539 ที่ 1,111.29 จุด ซึ่งเป็นจุดวัดใจว่าจะขึ้นต่อทันทีหรือจะแกว่งออกข้าง โดยกรณีหากไม่สามารถทนต่อแรงขายทำกำไรคาดดัชนีจะย่อลง โดยมีแนวรับที่ 1,096.29 จุด และ 1,080 จุด ตามลำดับ ในทางกลับกันหากทะลุขึ้นต่อได้ลุ้นขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่  1,115 จุด และ 1,148 จุด ตามลำดับ

 

กลยุทธ์การลงทุน
          Outright Trading: Wait&See วันนี้จับตา SET50 Index (Spot) สามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 1,111.29 จุด (S50Z17=1,113.5) ได้หรือไม่ หากทะลุได้ลุ้นขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านกรอบบน Sideway Up ที่ 1,115 จุด (S50Z17=1,117.2) และ 1,148 จุด (S50Z17=1,150.2)

          AEC Securities
          Technical Research Team

 

บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ต้นตลาดยังดีดตัวขึ้นต่อ
Trading Idea: SCN
เด็กแนว: SCI, AU

---------------------------------------------------------------------------

Connect the World
•    ติดตามผลการโหวตร่างงบประมาณปี 61 ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

 Market Outlook
•    วันนี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,720--1,735 จุด โดยดัชนีมีโอกาสดีดแล้วย่อพักตัวจากแรงขายทำกำไรหลังดัชนีปรับขึ้นมามากและยังรอติดตามการประกาศงบ 3Q60 ของ บจ.

Market Factors
•    (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.37%DoD จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่ยังติตตามงบ 3Q60 ของ บจ. รายใหญ่และการโหวตร่างงบประมาณปี 61 ของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
•    (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +0.8%DoD หลังกังวลถานการณ์ในตะวันออกกลาง
•    (+) FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 162.63 อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงอย่างมากเหตุเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าและความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้น
•    (+) BDI Index ปิด +2.56%DoD สู่ระดับ 1,523 จุด เป็นบวกต่อหุ้นเรือเทกอง TTA, PSL
•    (+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเบื้องต้นเดือนต.ค.รวมทั้งอัตราเงินเฟ้ออียูและอังกฤษ

Investment Strategy
•    แม้ระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังอยู่ทิศทางขาขึ้นหลังสถานการณ์การเมืองและภาวะ ศก. มีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ช่วงที่ผ่านมาคาดดัชนีปรับขึ้นมาสะท้อนประเด็นบวกไปพอควรแล้ว   ทำให้ระยะสั้นควรระวังดัชนีพักตัวจากแรงขายทำกำไร
•    กลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “ทยอยลดพอร์ตและค่อยเข้าซื้อใหม่ช่วงปรับฐานบริเวณ 1,700 จุด” โดยเน้นเลือกหุ้น Domestic Play ที่มีศักยภาพเติบโตดี, Laggard หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะดังนี้กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP), กลุ่มธนาคาร(KKP, BBL), กลุ่มรับเหมา (STEC, CK), กลุ่มโรงแรม (ERW, MINT) , กลุ่ม รพ. (BCH, LPH), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, HMPRO)

Market Talk and News
•    HARN (BUY:[email protected]): ช่วง 2H60 คาดกำไรสุทธิเติบโต 114.4%YoY หนุนด้วยการรวมผลประกอบการจาก CM (ธุรกิจระบบทำความเย็น) และ QIIS (ธุรกิจระบบพิมพ์ดิจิทัล) นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มสินค้านวัตกรรมและแผนเจาะตลาด CLM หนุนให้ปี 60 กำไรโตเด่น171.6%YoY +  มี Upside 23% และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ที่ 4.1% คงแนะนำ “ซื้อ”
•    HMPRO (BUY:[email protected]): ช่วง 3Q60 คาดกำไรโตสดใส 15.0%YoY หนุนด้วยยอดขายสาขาเดิมที่คาดพลิกเป็นบวก 1-2%YoY (หลังติดลบต่อเนื่องสี่ไตรมาส) และยังรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่เปิดต่อเนื่องทั้งโฮมโปรและเมกาโฮมในไทยอีกทั้งโฮมโปรในมาเลเซียซึ่งคาดเปิดครบ 6 สาขาในปีนี้หนุนปีนี้คาดกำไรโต 10.3%YoY + Upside 7% จึงคงแนะนำ “ซื้อ”
•    TACC (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรโต 27.3%YoY จากการส่งสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดต่อเนื่องทั้งในส่วนสินค้าที่วางจำหน่ายใน 7-11 และตลาด ตปท. ได้แก่ เครื่องดื่มชูกำลัง Jump Start ที่กัมพูชา (เริ่มจำหน่ายต้นปีนี้) และเครื่องดื่มผงรสชาติทุเรียนและมะม่วงภายใต้แบรนด์ Sawasdee (เริ่มจำหน่าย ก.พ. 60) + มีUpside 25.7% แนะนำ “ซื้อ”

Quantitative Screening
•    หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก KKP, SCI

16-Oct-17          Change (pts.)    13-Oct-17
SET Index          1,726.67    14.19    1,712.48
SET50 Index      1,105.49    11.16    1,094.33
SET100 Index    2,486.83    23.33    2,463.50

 

High    1,578.96    Gainers 739
Low    1,574.71    Unchanged 380
Value (Bt m)    66,894.62    Losers 605
Volume (*000)    16,933,111        

 

Market Valuation
SET Data           2017F     2018F    Long Term
Fwd PER (x)      17.14      15.54      14.11
EPS Growth (%) 2.55       10.32      10.14
EV/EBITDA (x)   11.10     10.16       9.65
FWD PBV (x)      2.07      1.92         1.80
Dividend Yield (%) 2.74    2.89        3.17
ROE                    10.25    10.76    11.33

 

Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    16-Oct-17    WTD           MTD                    YTD
Institution      861.59        861.59       3,300.35           65,823.45
Proprietary    265.32        265.32       3,191.58          13,264.10
Foreign         1,233.67     1,233.67     8,284.75         17,946.11
Individual      (2,360.58)  (2,360.58)  (14,776.68)    (97,033.65)