- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Friday, 06 October 2017 18:16
- Hits: 25558
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : กลับมาขยายตัวดี
CWT : กราฟชี้สายัณห์ 5 บาท
ธุรกิจหนังของบริษัท ถือว่า เข้าสู่จุดที่ผลประกอบการกลับมาขยายตัวดี ออเดอร์เบาะ พวงมาลัยหนังของรถรุ่นใหม่ทั้งโตต้า ฮอนด้า อีซูซุ ส่งผลให้กำไร Q3 เติบโต 300% และครึ่งหลังดีต่อเนื่อง ปี 61 Highlight ไม่ใช่ตรงนี้ แต่จะเป็นรายได้จากขายไฟฟ้า ซึ่งโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 9 MW จะเสร็จราวปลาย Q1
ซึ่งอาจช้ากว่าสัญญารับซื้อไฟของการไฟฟ้า แต่ปรากฏว่าข่าวดีก็เกิด เพราะ กฟภ.ได้อนุมัติให้ยืดระยะเวลาให้บริษัทออกไปอีก 6 เดือนของการจ่ายไฟ ดังนั้นจะทำให้โรงไฟฟ้านี้ไม่โดนตัดสัญญา อันนี้เป็นข่าวบวก ซึ่งถ้าประเมินกำไรจากโรงไฟฟ้าในปีหน้าควรจะได้ประมาณ 25-30 ล้านบาท เมื่อรวมกับกิจการหนัง กำไรรวมควรจะเห็นอย่างน้อย 120 ล้านบาท และเป็นเท่าตัวในปีถัดไป แถมยังมีลุ้นโรงไฟฟ้าที่ติดกันซึ่งเจรจาซื้ออยู่ หากได้ก็จะเบิ้ลกำไรขึ้นไปอีก แนวโน้มกราฟถือว่าน่าสนใจมาก เห็นการ Break out ของชายธง ซึ่งจะทำให้กราฟจะไหลขึ้นไปต่อถึงแนว 5 บาท โดย MACD ตัดขึ้นแล้ว งานนี้ยังต้องไปอีกยาว
TAPAC : ลงมาที่แนวเก็บของ เดิมรู้จักกันในฐานะของธุรกิจฉีดชิ้นงานพลาสติกขึ้นรูปต่างๆ แต่ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ที่เข้ามาช่วยปรับโครงสร้างธุรกิจทำให้ดุมีสีสันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีการเชิญนักวิเคราะห์เข้าพบปะเยี่ยมชม จากที่เงียบมานาน แสดงว่าพร้อมแล้วที่จะเดินงาน ปัจจุบันรายได้กว่า 80% กลายเป็นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและอสังหา ซึ่งมีเงินลงทุนในต่างประเทศ และทำให้เกิด Backlog กว่า 6 พันล้านบาททยอยรับรู้ เมื่อเทียบกับขนาดสินทรัพย์ 1.6 พันล้านบาทถือว่าเยอะ
ผลประกอบการตรงงวดจะเป็น Q3 แจ้งออกไปก่อนหน้ามีกำไรเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก ปีก่อน และแนวโน้ม Q4 ยังแรงต่อเนื่องถึง ปีหน้าด้วยธุรกิจอสังหา จึงถือเป็นหุ้นน่าสนใจอย่างยิ่ง ขณะที่ราคาย่อตัวลงมาต่ำแบบนี้เข้าทางในการสะสมไม่ต้องไปไล่ราคาให้เมื่อยแล้วไปเจอกัน 25 บาทคร๊าบบบ
บล.เออีซี : Derivatives Signals
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีแกว่งทรงตัว
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวานนี้ Spot ปิดบวกน้อยกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.35 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +2.59 จุด เท่ากับ Theory Basis ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.0 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.00 จุด ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.96 จุด สะท้อนระยะกลาง (3 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นกลางต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.06x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.23x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.41x ลดลงจากวันก่อนหน้า ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net LONG 2,843 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 129,040 สัญญา แต่กลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 905 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติในฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เท่ากับขายสุทธิเพิ่มเป็น 15,906.2 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังคงมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย
มุมมองด้านเทคนิค: คาดลงต่อ
แม้เมื่อวานนี้ S50Z17 แกว่งทรงตัว แต่กราฟ Intraday เกิดสัญญาณ Reversal Down เรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบัน S50Z17 เริ่มผงกหัวลงเข้าหาตรงกลางของกรอบ Sideway ที่ 1,076 จุด พร้อมกับข้อมูลจากกราฟ 120 นาทีพบว่า Modified Stochastic ค่า %K ตัด %D และทั้งคู่มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ จนเริ่มต่ำกว่าระดับ 50% เข้าสู่เขต Negative Zone ทำให้เราคาดว่าวันนี้และสัปดาห์หน้า S50Z17 มีแนวโน้มที่จะลงต่อ จากแรงขายที่ยังคงทำงานอยู่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,063.4 จุด ดังนั้นกลยุทธ์ขาลงยังคงได้เปรียบ
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: Trading Short S50Z17 คาดหวังลงมาแกว่งในกรอบ Sideway โดยมีแนวรับที่ 1,063.4 จุด พร้อมกับตั้งจุด Stop Loss ไว้ที่ 1,092.0 จุด
Spread Trading: Wait&See
AEC Securities
Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีแกว่งทรงตัว
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวานนี้ Spot ปิดบวกน้อยกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.35 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +2.59 จุด เท่ากับ Theory Basis ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.0 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.00 จุด ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.96 จุด สะท้อนระยะกลาง (3 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นกลางต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.06x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.23x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.41x ลดลงจากวันก่อนหน้า ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net LONG 2,843 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 129,040 สัญญา แต่กลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 905 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติในฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เท่ากับขายสุทธิเพิ่มเป็น 15,906.2 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังคงมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย
มุมมองด้านเทคนิค: คาดลงต่อ
แม้เมื่อวานนี้ S50Z17 แกว่งทรงตัว แต่กราฟ Intraday เกิดสัญญาณ Reversal Down เรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบัน S50Z17 เริ่มผงกหัวลงเข้าหาตรงกลางของกรอบ Sideway ที่ 1,076 จุด พร้อมกับข้อมูลจากกราฟ 120 นาทีพบว่า Modified Stochastic ค่า %K ตัด %D และทั้งคู่มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ จนเริ่มต่ำกว่าระดับ 50% เข้าสู่เขต Negative Zone ทำให้เราคาดว่าวันนี้และสัปดาห์หน้า S50Z17 มีแนวโน้มที่จะลงต่อ จากแรงขายที่ยังคงทำงานอยู่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,063.4 จุด ดังนั้นกลยุทธ์ขาลงยังคงได้เปรียบ
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: Trading Short S50Z17 คาดหวังลงมาแกว่งในกรอบ Sideway โดยมีแนวรับที่ 1,063.4 จุด พร้อมกับตั้งจุด Stop Loss ไว้ที่ 1,092.0 จุด
Spread Trading: Wait&See
AEC Securities
Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: เปิดสูง และแนวโน้มปิดย่อตัว
Trading Idea: RCL
เด็กแนว: CWT, TAPAC
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World–
• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกหลังงบประมาณ 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ได้รับอนุมัติ
Market Outlook
• วันนี้คาด SET ยังคงแกว่งตัวไซด์เวย์พักฐานในกรอบแคบระหว่าง 1,680-1,695 จุด
Market Factors
• (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.50%DoD ขานรับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติงบประมาณประจำปี 61 วงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ และรับข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่ยังคงออกมาแข็งแกร่ง
• (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +1.6%DoD รับคาดการณ์ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียจะขยายเวลาปรับลดกำลังผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปี 61
• (+) ม.หอการค้าเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ย.ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยอยู่ที่75.0 จาก 74.5 ในเดือน ส.ค. 60 จากภาคส่งออกและท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น
• (+/-)วันนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ
Investment Strategy
• ระยะสั้นคาดกรอบการขึ้นจำกัดและมีความเสี่ยงปรับฐาน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ“ทยอยซื้อหุ้น Domestic Play ที่น่าสนใจในช่วงตลาดปรับฐาน” ดังนี้
1) กลุ่มโรงแรม: อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยแข็งเกร่ง เลือก ERW, MINT, CENTEL
2) กลุ่ม รพ. : ช่วง 2H60 เป็น High Season และ/หรือ ได้อานิสงส์ขึ้นค่าเหมาจ่ายประกันสังคม เลือก BCH, CHG, LPH, BDMS
3) กลุ่มวัสดุและรับเหมา : แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐคืบหน้าต่อเนื่อง เลือก STEC, CK, UNIQ, TASCO, SCC
4) Top Picks 4Q60 : BCH, ERW, ANAN, SEAFCO, ITEL, ZIGA, LIT, MAJOR
Market Talk and News
• MTLS (BUY:TP@46): ช่วง3Q60 คาดกำไรโตทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ทั้งปี60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ45.4% หนุนด้วยพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวดีตามความต้องการเงินด่วนที่มีอยู่มากและจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามเป้าปี 60 ที่ 2,200 สาขา เพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคลุมมากขึ้นขณะที่ฐานะการเงินยังแกร่งมี D/E ratio 2.96x (เพดานการกู้อยู่ที่ 4x) และ Coverage Ratio สูงถึง 267% + Upside 26.9% จากพื้นฐานปี 61 จึงคงแนะนำ “ซื้อ”
• WICE (BUY:[email protected]): ช่วง 2H60 คาดกำไรยังโตเด่นทั้ง HoH และ YoY จากการรวมงบเต็มปีเป็นครั้งแรกกับ SEL พร้อมทั้งคาดได้รับผลแห่ง Synergy ด้าน Network ระหว่างกันและการเพิ่มธุรกิจใหม่เพื่อเติมธุรกิจเดิมให้ครบวงจรทำให้ปีนี้คาดกำไรโตเด่น 67.3%YoY และโตต่อ 18.1%YoY ในปี 61 + มี Upside 23% จาพื้นฐานปี 61 จึงคงแนะนำ “ซื้อ”
• SEAFCO (BUY:[email protected]): เช้านี้แจ้งรับ 2 งานใหม่ คือ อาคารชุดเอส 47 และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ชุด 2) มูลค่ารวม 337 ลบ. คาดหนุน Backlog ในมือแตะ 2.3 พัน ลบ.อีกทั้งยังมีโอกาสได้งานใหม่จากภาคเอกชน เช่น โครงการ One Bangkok โดยปี 60 คาดกำไรโต 45.5%YoY และโต 21.4%YoY ในปี 61 +Upside 4.3% และคาดให้ Div. Yield ปีนี้ 2.3%
• HARN (BUY:[email protected]): ช่วง 2H60 คาดกำไรสุทธิเติบโต 114.4%YoY หนุนด้วยการรวมผลประกอบการจาก CM (ธุรกิจระบบทำความเย็น) และ QIIS (ธุรกิจระบบพิมพ์ดิจิทัล) นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มสินค้านวัตกรรมและแผนเจาะตลาด CLM หนุนให้ปี 60 กำไรโตเด่น171.6%YoY + มีUpside 21.1% และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ที่ 4.1% คงแนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก EPG, PTG
5-Oct-17 Change (pts.) 4-Oct-17
SET Index 1,690.87 3.10 1,687.77
SET50 Index 1,077.91 0.65 1,077.26
SET100 Index 2,424.25 3.27 2,420.98
High 1,578.96 Gainers 634
Low 1,574.71 Unchanged 484
Value (Bt m) 51,079.38 Losers 566
Volume (*000) 11,877,701
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 16.85 15.27 13.84
EPS Growth (%) 2.56 10.34 10.34
EV/EBITDA (x) 11.01 10.09 9.58
FWD PBV (x) 2.02 1.88 1.76
Dividend Yield (%) 2.78 2.94 3.23
ROE 10.27 10.77 11.33
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 5-Oct-17 WTD MTD YTD
Institution 407.93 822.32 822.32 63,345.42
Proprietary 559.92 1,195.83 1,195.83 11,268.36
Foreign (904.52) 1,371.84 1,371.84 11,033.19
Individual (63.33) (3,390.00) (3,390.00) (85,646.97)
AECS (Fundamental and Strategic Team)
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary