- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Friday, 22 September 2017 17:39
- Hits: 5341
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : ลดต้นทุนได้มาก
- HARN คว้างานในฝัน ประกอบธุรกิจด้านอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย กำไรแรง โดยครึ่งแรก พุ่งขึ้น 57 ล้านบาทเหนือกว่าปีที่ผ่านมา (ดูกราฟแท่ง) ล่าสุดมีงานในมือเฉียดพันล้าน เพราะเพิ่งคว้างานระบบป้องกันอัคคีของสุวรรณภูมิเฟส 2 บางส่วน และจะได้ในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นงานในฝันที่บริษัทหวังไว้ แค่นั้นยังไม่พองานระบบดับเพลิงที่สถานี และบนรถไฟฟ้าก็ไหลเข้าเรื่อยๆ ผู้บริหารบอกว่าปี 61 ลุ้นทะลักรับเละจากงานรัฐ นอกจากนี้ เพราะเน้นแผนการลดต้นทุนได้มากทำให้อัตรา Margin สูงขึ้นนั่นเอง
ปีนี้กำไรไม่หนี 110 ล้านบาท สูงสุดเท่าที่เคยมีมา และปีหน้าลุ้น New high ไม่น้อยกว่า 130 ล้านบาท แต่หากไปควบรวมบริษัทอื่นอีกจะกำไรแรงขึ้นกว่านี้ ส่วนเป้าพื้นฐานที่นักวิเคราะห์ประเมินเบื้องต้นคือ 4.10 บาท ส่วนปีหน้าเด็กแนวเชื่อว่าราคา 5 บาทก็เอาไม่อยู่ ส่วนกราฟลงมาที่แนวรับพอดีเปี๊ยบ มีสัญญาณซื้อในที่ต่ำของ Stochastic ซึ่งจะทำให้การดีดตัวขึ้นยาวไป 4 บาทได้เลย โอกาสนี้ จังหวะซื้อมาแล้วคร๊าบบ
- ALT ขากำลังขึ้น นี่คือผู้ชำนาญในการวางระบบโทรคมนาคม และเป็นหนึ่งในไม่กี่เจ้าที่ได้งานวางสายใต้ดินใน กทม. โดยล่าสุดวางเสร็จที่เขตพญาไท และดำเนินต่อที่สุขุมวิท มีงานรอส่งมอบอีกราว 45 ก.ม และยังมีงานต่อคิวอีกบานมากๆ ทำกันไม่ทัน ยังไม่นับงานให้บริการด้านอินเตอร์เนท ดังนั้นถือว่าบริษัทกำลังขาขึ้นเต็มที่กินยาวและเร่งด่วน
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย กรุงเทพเมืองมหานครแห่งอาเซี่ยน คอยติดตามรายได้ที่จะโตทะลักจากนี้ไป ขณะที่ราคาหุ้นฟื้นตัวอย่างชัดเจน ไม้แรกที่แนะนำให้สะสมตอนนี้ผลิดอกออกผลแล้ว ใครจะเข้าก็ยังถือว่ามีโอกาสวิ่งได้อีกยาว โดยจากกราฟสร้างสัญญาณซื้อแบบ V-shape มีแนวต้านน่ามองถัดไป 7.50 บาท
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ปรับฐานต่อเนื่อง
SET แกว่งตัวแคบ และปรับตัวทั้งสองทิศทาง โดยกราฟแท่งเทียนฟอร์มตัวเป็น Doji ครั้งที่สาม เรียกว่า Warning Star ขณะที่ Stochastic ยังคงโค้งตัวลงบ่งบอก Sell Signal ในระยะสั้น เมื่อประเมินด้วยกราฟ 120 นาที จะพบการไม่สามารถผ่านแนว 1,678 จุดได้เป็นครั้งที่สอง จึงเกิด Double Top ดังนั้นแนวโน้มเชิงลบกลับมาได้เปรียบ และเป็นไปตามที่เราคาดหมายว่าต้นสัปดาห์ปรับตัวขึ้น และย่อตัวในช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้ไม่ควรหลุด 1,662 จุด เพราะจะเกิด Sell Signal อย่างชัดเจน
กลยุทธ์
1. การเก็งกำไรเน้น ซื้อเมื่ออ่อนตัว ไม่ควรเพิ่มพอร์ต
2. หุ้นเก็งกำไรเน้นขนาดที่เล็กลง และเน้นจบในวัน
3. กำหนดจุดลดความเสี่ยงป้องกันผันผวน แนว Stop 1,662 จุด
บทสรุปการลงทุน:
SET ส่งสัญญาณอ่อนตัวทางทฤษฎีกราฟต่อไป
SET Closed: 1,670.49
Support: 1,655 1,662
Resistant: 1,678 1,685
CIG หัวและไหล่
ราคาปิด 0.60 บาท
แนวรับ 0.59 บาท แนวต้าน: 0.65 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 0.58 บาท
กราฟ CIG(Week) มีโครงแบบหัวและไหล่ สนับสนุนการขึ้นนี้ด้วย MACD และอีกหลายเครื่องมือเป็น Buy Signal ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นมีเป้าหมายได้ถึง 0.65 บาท แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองระยะสั้นลงระยะกลางขึ้น
BASIS (S50U17-SET50): เมื่อวานนี้ Spot ปิดลบน้อยกว่า S50U17 ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 7.38 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.79 จุด กลับมาน้อยกว่า Theory Basis ที่ +0.26 จุด ส่วน Calendar Spread (S50Z17-S50U17) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.20 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.60 จุด ยังสูงกว่า Theory Spread ที่ 2.82 สะท้อนตลาดมีมุมมองต่อ SET50 Index ว่าเป็นลบในระยะสั้น (1 สัปดาห์) แต่มีมุมมองเป็นบวกในระยะกลาง (3 เดือน)
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.24x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.07x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.70x ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า ซึ่งเราให้น้ำหนักกับ OI มากกว่า Volume เพราะสะท้อนถึงอุปสงค์ป้องกันความเสี่ยงที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงที่เท่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 145 ล้านบาท พร้อมกับ LONG 9,553 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 109,814 สัญญา ทั้งนี้โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติในฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เท่ากับขายสุทธิลดลงเหลือ 8,800.6 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทยน้อยลง
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: รีบาวด์เพราะ BASIS ลงมากเกิน
เมื่อวานนี้ S50U17 เปิดเช้ายังแกว่งในกรอบ แต่ภาคบ่ายทิ้งตัวลงมาค่อนข้างแรง อย่างไรก็ดีหากพิจารณา BASIS ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่าง S50U17 และ SET50 พบว่า ต่ำกว่าค่าทางทฤษฎีถึง 6.05 จุด เป็นเพราะเมื่อวานนี้ S50U17 ลงแรงกว่า Spot ทำให้วันนี้เรามองว่ามีโอกาสสูงที่ S50U17 จะเจอแรงซื้อกลับเพื่อให้ Basis กลับมาเข้าใกล้ค่าทางทฤษฎี บวกกับเมื่อวานนี้ในกราฟระหว่างวัน S50U17 เกิดสัญญาณ Oversold ตรงกรอบล่าง Sideway ที่ 1,063.5 จุด จึงคาดว่าวันนี้จะรีบาวด์ โดยมีแนวต้านกรอบบน Sideway ที่ 1,078 จุด
*** ระวัง S50U17 จะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 28 ก.ย. นี้
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำ Trading LONG S50U17 คาดหวังรีบาวด์เพราะ BASIS (S50U17-SET50) ต่ำกว่าค่าทางทฤษฎีราว 6.05 จุด โดยมีแนวต้านที่ 1,078 จุด พร้อมกับตั้งจุด Stop Loss ไว้ที่ 1,060.0 จุด
Spread Trading: ชะลอการเปิดสถานะใน Calendar Spread ระหว่าง S50U17 และ S50Z17 เพราะ Series U จะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 28 ก.ย. นี้
AEC Securities Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ปรับฐานต่อเนื่อง
Trading Idea: CIG
เด็กแนว: HARN, ALT
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World–
• สถานการณ์เกาหลีเหนือตึงเครียด กดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,660-1,680 จุด โดยมองดัชนีมีโอกาสปรับฐานหลังเดินหน้าปรับขึ้นต่อเนื่องช่วงก่อนหน้า อีกทั้งยังมีปัจจัยลบ ตปท. ที่ต้องติดตามทั้งการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งของเฟดและสถานการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี
Market Factors
• (-) ดัชนี DJIA ปิด -0.24%DoD หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ธ.ค. นี้ และกลับมากังวลปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลีหลังประธานาธิบดีสหรัฐมีคำสั่งคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่
• (-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด -0.3%DoD หลังนักลงทุนรอผลประชุมกลุ่มโอเปกพิจารณาขยายเวลาลดกำลังผลิตในวันนี้
• (+) ก.พาณิชย์เผยมูลค่าส่งออกไทย ส.ค. 60 อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ สูงสุดรอบ 6 ปีขยายตัว 13.23%YoY เพิ่มต่อเนื่องเดือนที่ 6 ดันยอดรวม 8 เดือนเพิ่ม 8.8%YoY
• (+) ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้า (พ.ย. 60) อยู่ที่124.13 อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง (Bullish) เป็นครั้งแรกรอบ 7 เดือนหรือปรับขึ้น 19.34% จากเดือนก่อนที่ 104.13
• (+) BDI Index ปิด +1.45%DoD สู่ระดับ 1,470 จุด ยังเป็นบวกต่อเรือเทกอง TTA, PSL
• (+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง, สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์จาก EIA, ผลประชุมนโยบายการเงินของเฟดรวมทั้งดุลการค้าของญี่ปุ่น
Investment Strategy
• กลยุทธ์ลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะสั้นแนะนำ “เก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง” โดยกำหนดจุด Stop Loss หาก SET ปิดต่ำกว่า 1,625 จุด ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาวยังคงแนะนำให้ Let Profit Run พร้อมใช้จังหวะย่อตัวเข้าซื้อหุ้นเด่น ดังนี้
1) หุ้นได้ประโยชน์จากความเชื่อมั่น ศก.และผู้บริโภคฟื้นตัว : กลุ่ม ธพ.(SCB, KBANK, KTB), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC)
2) หุ้นได้ประโยชน์จากลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและนโยบาย EEC: กลุ่มรับเหมา (STEC, CK, ITD, UNIQ), กลุ่มนิคม (WHA, AMATA, TICON), กลุ่มวัสดุ (TASCO, SCC)
3) หุ้นที่ครึ่งปีหลังคาดกำไรโตสดใส:CBG, SEAFCO, MAJOR, BCH, WICE
Market Talk and News
• HARN (BUY:[email protected]): ช่วง 2H60 คาดกำไรโต 114.4%YoY หลังรวมผลประกอบการจากCM (ธุรกิจระบบทำความเย็น) และ QIIS (ธุรกิจระบบพิมพ์ดิจิทัล) หลังเข้าซื้อกิจการมา อีกทั้งยังมีแผนเพิ่มสินค้านวัตกรรมและเจาะตลาด CLM หนุนให้คาดปี 60 กำไรจะโต171.6%YoY และโตต่อ 9.8%YoY ในปี 61 + Upside 18% และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ 4%
• PM (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 22.6% หนุนด้วยแผนส่งออกทาโร่ไปต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด CLV และเกาหลีอีกทั้งล่าสุดยังเตรียมรุกตลาดจีนโดยปัจจุบันระหว่างการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายคาดได้ข้อสรุปภายในช่วง 4Q60 และจะเริ่มส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายในต้นปี 61 + มี Upside 38.1%
• TPCH (BUY: Consensus TP@21): ปี 60 คาดกำไรโต 87.6%YoY จากรับรู้รายได้เต็มปีของโรงไฟฟ้าชีวมวล4แห่งกำลังผลิตรวม 40MW บวกกับทยอย COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 2 โรงคือ 1) PGP (9.2MW) ในวันที่ 7 ก.ค. 60 และ 2) SGP (9.2MW) ในช่วง 4Q60 ทำให้สิ้นปีนี้จะมีกำลังผลิตรวม 50MW + ราคาหุ้นยังมี Upside 22% จึงคงแนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก ERW, NYT
21-Sep-17 Change (pts.) 20-Sep-17
SET Index 1,670.49 -0.16 1,670.65
SET50 Index 1,070.39 -2.22 1,072.61
SET100 Index 2,401.30 -3.43 2,404.73
High 1,578.96 Gainers 624
Low 1,574.71 Unchanged 457
Value (Bt m) 54,494.08 Losers 643
Volume (*000) 10,227,665
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 16.60 15.04 13.67
EPS Growth (%) 5.20 10.32 10.06
EV/EBITDA (x) 10.93 10.02 9.52
FWD PBV (x) 1.99 1.86 1.73
Dividend Yield (%) 2.81 2.99 3.26
ROE 10.21 10.73 11.30
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 21-Sep-17 WTD MTD YTD
Institution (144.48) (793.38) 511.22 60,155.00
Proprietary 345.31 2,250.85 7,530.90 9,277.77
Foreign 144.84 (379.87) 11,233.70 13,928.68
Individual (345.67) (1,077.60) (19,275.83) (83,361.45)
AECS (Fundamental and Strategic Team)
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary