- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Monday, 18 September 2017 16:11
- Hits: 5126
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : ไม่ต้องรอนาน
- D (Dental) ไปได้เท่าตัว ปลายเดือนก่อน เด็กแนวได้จุดประเด็นให้รู้กันแล้วว่าหุ้นตัวนี้มีแววของการก้าวไปอย่างใหญ่โตระดับภูมิภาค เรามาทบทวนกันอีกที ธุรกิจบริษัทคือคลีนิคฟัน 12 แห่ง (BIDC) และกำลังจะไปซื้อกิจการขายอุปกรณ์ด้านทันตกรรมทั้งหมด (D-ALL) ซึ่งบริษัทได้เริ่มเปิดข่าวไปบ้างแล้ว ธุรกิจตัวนี้จะมีหน้าที่คล้ายโรงงานผลิตวัสดุเกี่ยวกับทันตกรรม ที่สั่งซื้อสินค้าได้รวดเร็วไม่ต้องรอนาน
ดังนั้น การซ่อมแซมฟันสามารถทำให้เสร็จได้อย่างรวดเร็ว กำหนดเวลาได้แน่นอน จึงทำให้ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าทั่วโลกที่จะลางานมาทำฟันที่นี่และกำหนดระยะเวลารักษาได้ย่างแม่นยำ โรงงงานผลิตวัสดุนี้ก็มีไว้สำหรับการรองรับโรงพยาบาลฟัน (BIDH) ที่บริษัจะเปิดใหญ่โตในเร็วๆ นี้เลย
หากซื้อกิจการเสร็จในปีนี้ กำไรปีนี้จาก 50 ล้านบาท เป็นประมาณ 100 ล้านบาท ซื้อมูลค่าที่เหมาะสมจะสูงถึง 12 บาท และถ้าโรงพยาบาลเสร็จ ราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นไปได้อีกเท่าตัว ส่วนกราฟลงมานิ่งสร้างฐานสวย มองการเด้งตัว 9.60 บาทมีให้เห็น หุ้นดีแบบนี้สะสมกันไว้เถอะ อนาคตมองไกลกว่านี้นัก
- CHOW กลับมาดีถึง 2 เด้ง หลังจาก โดนกระแสเรื่องตั๋วบีอี จนกระทบกับราคาหุ้น ทั้งๆ ที่บริษัทไม่ได้มีปัญหาอะไรในการชำระหนี้ แต่ก็หนีไม่พ้นแรงกดดันในตลาดจึงต้องเก็บตัวเงียบพักใหญ่ ตอนนี้กลับมาแล้ว และได้เห็นศักยภาพของบริษัทชัดเจน ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้ากว่า 43 MW โชว์กำไร Q2 กว่า 3,600% ตอนนี้ยิ่งดีขึ้น เพราะ Q3 รับรู้เต็มไตรมาสโรงไฟฟ้า 11 แห่ง อีกทั้งราคาเหล็กพุ่งแรงได้กำไรส่วนต่างอีกบาน
แค่นั้นยังไม่จบ ขายโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ญี่ปุ่นออกไป 2 แห่งได้เงินกว่า 660 ล้านบาท ฟาดกำไรปากมัน ขณะที่ราคาหุ้นเริ่มฟื้น คนที่มั่นใจในอนาคตต้องเข้าเก็บ และคุ้มค่าในการถือลงทุน จากนี้ไปรายได้เติบโตมั่นคงเพราะโรงไฟฟ้าเปิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนกราฟบรรยายสั้นๆ ง่ายๆ เกิด W-shape มีเป้าให้ลุ้น 7.50 บาท จัดกันไป
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ยังเชิงบวก แต่สัปดาห์นี้ควรปรับฐานเล็กน้อย
SET (weekly) ยังมีแรงเสริมที่ค่อนข้างดีจากหุ้นขนาดใหญ่ในธนาคารและพลังงาน โดยหากประเมินตามกล่องแนวตั้งจะมีระดับที่สูงขึ้นจากตรงนี้ แต่การเกิด Overbought ใน RSI และแท่งเทียนเกิด 3 Soldiers pattern จะกดดันให้ปลายสัปดาห์อาจย่อตัวเพื่อลดความร้อนแรงลง โดยคาดว่าต้นสัปดาห์ยังมีแนวโน้มเชิงบวก แต่ปลายสัปดาห์ จะเกิดการปรับฐานสั้นๆ ทางเทคนิค
กลยุทธ์
1. เก็งกำไรตามจังหวะตลาด
2. แบ่งหุ้นชัดเจนออกเป็นเก็งกำไร หรือถือลงทุนระยะสั้น
3. กำหนดจุดลดความเสี่ยงป้องกันผันผวน โดยแนวระมัดระวัง 1,645 จุด
บทสรุปการลงทุน:
SET ยังมีแรงส่งที่ดี แต่ Overbought จะทำให้พักฐานปลายสัปดาห์
SET Closed: 1,660.53
Support: 1,640 1,650
Resistant: 1,668 1,675
CHG สัญญาณซื้อ
ราคาปิด 2.54 บาท
แนวรับ 2.52 บาท แนวต้าน: 2.70 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 2.48 บาท
กราฟ CHG มีอยู่ในระยะของการดีดตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านแรกหลังจากการฟื้นตัวที่ 2.70 บาท โดย RSI เกิดสัญญาณซื้อ ส่งผลให้มีแนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อ แนะนำ "ซื้อสะสม"
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ระยะสั้นนิ่ง ระยะกลางขึ้นต่อ
BASIS (S50U17-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ Spot ปิดบวกแต่ S50U17 ปิดลบ ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 3.88 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.73 จุด กลับมาเข้าใกล้ Theory Basis ที่ +0.44 จุด ส่วน Calendar Spread (S50Z17-S50U17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.20 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.90 จุด ยังสูงกว่า Theory Spread ที่ 2.80 สะท้อนมุมมองตลาดว่า มีมุมมองเป็นกลางในระยะสั้น (1 เดือน) แต่มีมุมมองบวกในระยะกลาง (3 เดือน) ต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.95x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.07x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.64x เท่ากับวันก่อนหน้า ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นบ่งชี้ถึงการป้องกันความเสี่ยงขาลงเท่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติ SHORT 14,847 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มเป็น 90,178 สัญญา แต่กลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 4,223 ล้านบาท และ ทั้งนี้โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติในฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เท่ากับขายสุทธิลดลงเหลือ 4,192 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทยน้อยลง
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: ทั้งโมเมนตัมและเทรนด์บอกขึ้นต่อ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ SET50 (Spot) ช่วงเช้าแกว่งลงเล็กน้อย แต่ช่วยบ่ายกลับมายืนได้ในแดนบวก โดยกราฟ Intraday ของ Spot ยังคงมีโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง บวกกับภาพใหญ่ของ Spot (Weekly Chart) มีแนวโน้มที่จะขึ้นต่อ หนุนด้วยสัญญาณซื้อจาก MACD (ส่วนต่างระหว่างค่า MACD และ Signal มากขึ้น) พร้อมกับโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งจาก RSI (เข้าใกล้ 80%) โดย Spot มีแนวต้านถัดไปคือเส้นแนวระนาบ 2 แนวที่ 1,083 จุดและ 1,096 จุด (โดยหากนำแนวต้านของ Spot มาคำนวณตาม Cost of Carrying Model พบว่าราคาตามทฤษฎีของ S50U17 ควรจะอยู่ที่ 1,083.4 จุด และ 1,096.4 จุด)
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: ถือสถานะ Long S50U17 เพื่อ Let's Profit Run คาดหวังขึ้นต่อทดสอบแนวต้านที่ 1,083.4 จุด และตั้งจุด Trailing Stop ไว้ที่ 1,055 จุด
Spread Trading: เปิด Short Spread S50U17Z17 (Short S50Z17 Long S50U17) เมื่อ Spread สูงกว่า +4.8 จุด เพื่อรอปิดสถานะทำกำไรเมื่อ Spread ลงมาต่ำกว่า +2.8 จุด และ Stop Loss หากขาดทุนเกิน 0.5 จุด
AEC Securities
Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง
Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ยังเชิงบวก แต่สัปดาห์นี้ควรปรับฐานเล็กน้อย
Trading Idea: CHG
เด็กแนว: D, CHOW
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World–
• เงินเฟ้อสหรัฐฯ ปิดบวกโดยดัชนีS&P500ทำNew High เหนือ 2,500 จุด
Market Outlook
• สัปดาห์นี้คาด SETแกว่งตัวระหว่าง 1,640-1,680 จุด โดยแม้ยังคงมีแรงหนุนจาก Fund Flow แต่คาดกรอบขึ้นจำกัดและมีโอกาสพักฐานหลังปรับขึ้นทำ New High ในรอบ 23 ปี และยังมีประเด็นต้องติตตามทั้งความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีและผลประชุมเฟด
Market Factors
• (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.29%DoD จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสื่อสารและเทคโนโลยี
• (0) ราคาน้ำมัน WTI ปิดทรงตัว 49.89 ดอลลาร์/บาร์เรล และตลอดสัปดาห์ปิด +5.1%DoD รับคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกปีนี้ที่เพิ่มชึ้นและโรงกลั่นสหรัฐเริ่มเปิดดำเนินการอีกครั้ง
• (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลภาคอสังหา, ดุลบัญชีเดินสะพัด 2Q60, การประชุมนโยบายการเงินของเฟดและ BoJ รวมทั้งดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือน ก.ย. ของสหรัฐและประเทศในกลุ่มยูโรโซน
Investment Strategy
• กลยุทธ์ลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะสั้นแนะนำ “เก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง”โดยกำหนดจุด Stop Loss หาก SET ปิดต่ำกว่า 1,625 จุด ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาวยังคงแนะนำให้ Let Profit Run พร้อมใช้จังหวะย่อตัวเข้าซื้อหุ้นเด่น ดังนี้
1) หุ้นได้ประโยชน์จากความเชื่อมั่น ศก.และผู้บริโภคฟื้นตัว : กลุ่ม ธพ.(SCB, KBANK, KTB), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC)
2) หุ้นได้ประโยชน์จากลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและนโยบาย EEC: กลุ่มรับเหมา (STEC, CK, ITD, UNIQ), กลุ่มนิคม (WHA, AMATA, TICON), กลุ่มวัสดุ (TASCO, SCC)
3) หุ้นที่ครึ่งปีหลังคาดกำไรโตสดใส: SEAFCO, KAMART, BCH, GFPT, WICE
Fundamental Report
• BJC (BUY:TP@59): ช่วง 260 คาดกำไรโตทั้ง HoH และ YoY หลังกำลังซื้อเริ่มดีขึ้นและจะเข้าสู่ High Season ของการจับจ่ายใช้สอยในช่วง 4Q60 อีกทั้งยังคงมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนการขยายสาขาของ BIGC และเพิ่มกำลังผลิตในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ หนุนให้ปี 60 คาดกำไรปกติจะโต75.4%YoY และโตต่อ 13.7%YoY ในปี 61 + มีUpside 16.3%
• ZIGA (BUY:TP@9): ช่วง 3Q60 คาดกำไรโตทั้ง QoQ และ YoY จากดีมานด์เหล็ก Pre-Zinc ที่ขยายตัวดีหลังราคาเหล็กในประเทศสูงขึ้นบวกกับมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เลื่อนมาจากช่วง2Q60 ส่วนช่วง 4Q60 คาดโตต่อเนื่อง QoQ หลังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ Super Ziga ซึ่งมีมาร์จิ้นสูง หนุนปี 60 คาดมีกำไรสุทธิ 291 ลบ. โต 28.8%YoY + มี Upside 22.5%
Market Talk and News
• IRPC (BUY: Consensus TP 6.65): ช่วง 2H60 คาดกำไรฟื้นตัวเด่นหลังค่าการกลั่นสูงขึ้นจากผลของพายุเฮอริเคนในสหรัฐบวกกับธุรกิจปิโตรเคมีจะเริ่มรับรู้ผลบวกจากโครงการ UHV ซึ่งคาดเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ช่วง 3Q60 และคาดมีกำไรจากสต็อกน้ำมันหลังราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น + Upside 6.4% พร้อมคาดให้ Div. Yield ปีนี้ 3.6%
• UTP (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรโต 41.4%YoY หนุนด้วยความต้องการใช้กล่องกระดาษลูกฟูกเพิ่มขึ้นตามอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่สดใสบวกกับปีนี้มีแผนขยายกำลังรผลิตเพิ่มอีกปีละ 2 แสนตันจากสิ้นปี 59 ที่ 1.1 แสนตัน + Upside 9.3% และคาดให้Div. Yield ปีนี้ 2.6% จึงแนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก THCOM, ILINK
15-Sep-17 Change (pts.) 14-Sep-17
SET Index 1,660.53 1.43 1,659.10
SET50 Index 1,064.27 1.98 1,062.29
SET100 Index 2,387.72 4.61 2,383.11
High 1,578.96 Gainers 558
Low 1,574.71 Unchanged 409
Value (Bt m) 70,022.20 Losers 716
Volume (*000) 9,633,913
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 16.50 14.95 13.57
EPS Growth (%) 5.16 10.41 10.14
EV/EBITDA (x) 10.83 9.96 9.46
FWD PBV (x) 1.98 1.85 1.73
Dividend Yield (%) 2.83 3.00 3.28
ROE 10.21 10.81 11.35
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 15-Sep-17 WTD MTD YTD
Institution (2,742.34) (2,014.60) 1,304.60 60,948.38
Proprietary 759.27 1,944.56 5,280.05 7,026.92
Foreign 4,223.24 8,027.36 11,613.58 14,308.56
Individual (2,240.16) (7,957.32) (18,198.23) (82,283.85)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary