- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Monday, 04 September 2017 18:35
- Hits: 3811
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : สะท้อนอะไรบางอย่าง
- ASIMAR ทำงานใหญ่ ใจต้องนิ่ง
การเปลี่ยนแปลงที่น่ามองมาให้เห็นแล้ว ช่วงต้นปีเด็กแนวเคยบอกไปว่าจับตาดูหุ้นตัวนี้ไว้ให้ดี เนื่อง
จากกลุ่มนักธุรกิจเลือดใหม่เข้ามาบริหารงานและปรับโครงสร้างใหม่ให้ทันสมัยขึ้น เน้นงานหลากหลายที่
มีมาร์จิ้นสูง และขยายธุรกิจออกกว้างกว่าเดิม และในที่สุดก็ไม่นานเกินรอเมื่อผลประกอบการประกาศ
ออกมาระเบิดระเบ้อ สะท้อนอะไรบางอย่าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานไหลเข้าต่อเนื่อง และ Q3 จะแรงสุดเนื่องจากมีงานค้างส่งทะลักรับรู้รายได้
อีกทั้งได้รับการว่าจ้างงานอื่นๆ เพียบ เพราะบริษัทรุกเปิดธุรกิจเหล็กโครงสร้างจึงรับงานรั้วเหล็กทางด่วน
เหล็กโครงสร้างรถไฟฟ้า และมีโอกาสได้งานเหล็กโครงสร้างสุวรรณภูมิ เฟส 2 ขณะที่งานต่อเรือเฟอร์รี่
กำลังจะได้รับข่าวดีก้อนโตในไม่ช้านี้ จุดเด่นมากคือ PE ต่ำ 11 เท่าหมายถึง Upside อนาคตเพียบนั่นเอง
ขณะที่กราฟสร้าง W-shape มีสัญญาณซื้อราย Month ใน MACD บ่งบอกเป้าที่ 4 บาท แนะนำว่าสะสม
ของดีราคาถูก
- TACC ส่งสัญญาณ Bottom Out
นักวิเคราะห์มองตรงกันว่าผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วใน Q1 หลังจากผลกำไรใน Q2 ดีกว่าคาด และ
จากนี้ไปจะกลับมาขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เครื่องดื่มจากโถกดในร้านเซเว่นได้เพิ่มชนิดใหม่ ขณะที่ต่าง
ประเทศ ทั้งชาเขียวและเครื่องดื่มชูกำลัง จะเป็นตัวสร้างรายได้เติบโต ส่วนเครื่องดื่มร้อนจะขยายเพิ่มเป็น
กว่า 750 สาขา อนาคตขยายไปเรื่องจึงถือว่าการเติบโตน่าจับตา ส่วนกราฟสะท้อนจุดต่ำสุดเช่นกันโดย
ฟอร์มตัวจากแนว Bottom ขึ้นมาแล้วเห็นเป้าการวิ่ง 7.50 บาท และ 9 บาท มีลุ้นไม่ยาก แนะนำสะสมไว้
แล้วในพอร์ตคร๊าบบบ
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : แนวโน้มอ่อนตัวทางเทคนิค
SET ดีดตัวขึ้นและยืนอยู่แดนบวกตลอดวัน แต่ยังไม่สามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่เหนือ 1,626 จุด
ของวันก่อนหน้าได้ จากนั้นปิดตัวต่ำลง ซึ่งการไม่สามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่ส่งผลให้กราฟรายหลาย
ช่วงนาทีเกิดภาวะ Negative Divergence หมายถึงโอกาสผันผวนปรับลงจะเกิดขึ้นจากตรงนี้ และหาก
ไม่สามารถผ่าน 1,626 จุดขึ้นไปได้อย่างเด็ดขาดภายในสัปดาห์นี้แสดงถึงการจบรอบขาขึ้น และหากหลุด
1,610 จุด จะเป็นสัญญาณยืนยันการจบแนวโน้มการขึ้นในรอบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปิดต่ำกว่าเปิด
จะทำให้วันต่อมามีแนวโน้มปรับตัวลง
กลยุทธ์
1. เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง เน้นการลดพอร์ตจากนี้ไป
2. หากปิดต่ำกว่าเปิดให้ถือหุ้นน้อยลง หากปิดสูงกว่าเปิดให้ถือหุ้นข้ามวัน
3. เน้นการลดน้ำหนักหุ้น
บทสรุปการลงทุน:
SET ส่งสัญญาณปรับฐาน ให้เน้นขาย
SET Closed: 1,618.42
Support: 1,600 1,608
Resistant: 1,625 1,630
TNP เกิด Bottom out
ราคาปิด 2.42 บาท
แนวรับ 2.40บาท แนวต้าน: 2.80 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 2.36 บาท
กราฟ TNP อยู่แนวโน้มขาลงโดยสมบูรณ์ และเข้าสู่ Oversold ซึ่งมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นในระยะสั้น
จาก Stochastic อีกทั้งกราฟก่อตัวเป็น W-shape มีแนวต้านทดสอบที่ 2.80 บาท แนะนำ"ซื้อเก็งกำไร"
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดยังกลัวแรงเทขายทำกำไร
BASIS (S50U17-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ Spot ลง แต่ S50U17 ขึ้น ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้น
จากวันก่อนหน้า 1.94 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.95 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ -0.62 จุด สะท้อนมุม
มองเป็นบวกในระยะสั้นของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index (อัพเดทผลกระทบจากการจ่ายเงินปันผล
ระหว่างกาล โดยข้อมูลจาก Bloomberg พบว่าในเดือน ก.ย. 60 หุ้นในกลุ่ม SET50 จะขึ้นเครื่องหมาย XD
ทั้งหมด 10 บมจ. และคาดกระทบ SET50 Index 2.1 จุด)
PUT/CALL Ratio: แม้ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL
พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.18x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.33x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open
Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.67x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.03x อย่างไรก็ดีค่าปัจจุบัน PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI
มากกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต บ่งชี้ถึงสถาวะความกลัวดัชนีจะปรับตัวลง หรือสภาวะ Bearish (ดูรายละเอียด
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 153 ล้านบาท
แต่กลับมา Short 1,822 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน
Index Futures เพิ่มเป็น 35,051 สัญญา และ ส่งผลให้โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติในฝั่ง
ตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เท่ากับขายสุทธิ 4,079.5 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเป็น
ลบต่อตลาดทุนไทย
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: คาดอ่อนตัวลงจากแรง Take Profit
แม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา S50U17 จะพยายามปรับตัวขึ้นต่อ แต่โมเมนตัมอ่อนแอลง บวกกับ ดัชนีไม่
สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1,040 จุดขึ้นมาได้ พร้อมกับสัญญาณ Overbought ผ่าน RSI และ Modified
Stochastic อีกทั้งยังมีแรงขายทำกำไรออกมาจากฝั่งนักลงทุนต่างชาติติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ทำให้ทั้ง
สัปดาห์นี้เรามองว่า S50U17 จะเผชิญแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงอีกครั้ง โดยมีแนวรับที่ 1,025 จุด ซึ่งเป็น
แนวรับที่มีนัยสำคัญ เพราะอดีตเคยเป็นแนวต้านกรอบบน Uptrend Channel โดยหากหลุดอาจทำให้
S50U17 กลับลงมาเทรดตรงกรอบ Uptrend Channel เดิม โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,000 จุด (แนวรับกรอบ
ล่าง Uptrend Channel และแนวรับจิตวิทยา)
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: นักเก็งกำไรระยะสั้น Trading Short เมื่อดัชนีเข้าใกล้แนวต้าน 1,040 จุด โดยมี
แนวรับ 1,025 จุด และตั้ง Stop loss หากสูงกว่า 1,043 จุด
Spread Trading: เปิด Long Spread S50U17Z17 (Long S50Z17 Short S50U17) เมื่อ Spread
ต่ำกว่า +0.7 จุด เพื่อรอขายทำกำไรเมื่อ Spread มากกว่า 2.7 จุด ขึ้นไป และ Stop Loss หากขาดทุนเกิน
0.5 จุด
AEC Securities Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: แนวโน้มอ่อนตัวทางเทคนิค
Trading Idea: TNP
เด็กแนว: ASIMAR, TACC
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• เอเชียเปิดลบสวนทางสหรัฐฯ และยุโรปจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
Market Outlook
• สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,600-1,640 จุดโดยมองดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลง หลังมีปัจจัย
เสี่ยงจากสถานการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี บวกกับ ช่วงสั้น Upside ของ SET เหลือ
เพียง1.4% จากเป้านี้ของเราที่ระดับ1,641 จุดเทียบเท่า PER ปีนี้ที่16.3x
Market Factors
• (+) ตลาดหุ้น DJIA ปิด+0.18%DoDหลังข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ ชะลอตัวเกินคาด
• (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +0.1%DoD หลังพายุฮาร์วีย์อ่อนกำลังทำให้โรงกลั่นบางส่วนเริ่มกลับมา
เปิดดำเนินการอีกครั้ง
• (-) เกาหลีเหนือทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เป็นผลลบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
• (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ สต็อกน้ำมันและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่าง
งานรายสัปดาห์ รวมทั้งดุลการค้าและดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ, จีน และยูโรโซน, รายงานสรุป
ภาวะ ศก.ของเฟด, การประชุมนโยบายการเงินของ ECB, GDP 2Q60 ของญี่ปุ่นและอียู (ประมาณการ
ครั้งสุดท้าย), ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้มองการขึ้นของดัชนีมีจำกัดการลงทุนไม่เหมาะกับทุ่มพอร์ตกลยุทธ์ลงทุนเน้น “เก็งกำไรเล่น
สั้น”โดยกำหนดจุด Stop Loss หาก SET ปิดต่ำกว่า 1,600 จุด อย่างไรก็ดี นักลงทุนระยะกลาง-ยาว
ยัง Let Profit Run พร้อมหาจังหวะซื้อหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะ ดังนี้
1) กลุ่มรับเหมาฯ ซึ่งคาดได้ประโยชน์จากการเริ่มเปิดประมูล e-auction รถไฟทางคู่สายต่างๆ ในช่วงวันที่
1-10 ก.ย. นี้ มูลค่าราว 7.3 หมื่นลบ. : STEC, CK, ITD, UNIQ
2) หุ้นซึ่งคาดได้ประโยชน์จากนโยบาย EEC :กลุ่มนิคม AMATA, WHA กลุ่มโลจิสติกส์JWD, WICE
3) หุ้นที่กำไรครึ่งปีหลังแนวโน้มโตสดใส :CBG, CPN, BCH, LIT, CPALL, COM7
Market Talk and News
• MONO (BUY:TP@4): ปี 60 คาดพลิกมีกำไร 261 ลบ. หลัง Content หนังและซีรีย์ของช่องMONO29
ได้รับความนิยมมากขึ้นสะท้อนจากRating ที่ปรับดีต่อเนื่อง (เดือนก.ค. Rating โต 24%YoY) อีกทั้งด้วย
CPRP ที่ยังคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งหนุนให้ค่าโฆษณามีแนวโน้มปรับขึ้นตามลำดับขณะที่ราคาหุ้น
ปัจจุบันยัง Laggard และมี Upside 14.3% แนะนำ “ซื้อ"
• LIT (BUY: [email protected]): ช่วง 2H60 คาดกำไรโตทั้ง HoH และ YoY หนุนด้วยดีมานด์สินเชื่อBid Bond
และProject Finance ของกลุ่มผู้รับเหมา SME ที่มีแนวโน้มโตดีตามการเร่งเบิกจ่ายของโครงการก่อสร้าง
ภาครัฐฯ (75% ของพอร์ตลูกหนี้LIT) บวกกับต้นทุนการเงินมีแนวโน้มปรับลงหลังมีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ
เพิ่มขึ้น (LIT-W1 และวงเงินกู้จากNEC Capital พันธมิตรของ SVOA) หนุนปี 60 คาดกำไรโต 45.6%YoY
และโตต่อ 38.7%YoY ในปี 61
• ALT (BUY: Consensus [email protected]) : ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 13.6% หนุนด้วยBacklog
ปัจจุบันที่ 400 ลบ. (คาดรับรู้ราว 90% ในช่วง 2H60) และมีแผนเพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจโครงสร้างพื้น
ฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อให้เช่า (Recurring Income) เป็น 50% ภายในปี 63 จากสิ้นปี 59 ที่ 10% ทั้ง
โครงการที่ลงทุนเองโดยตรงและลงทุนผ่านบริษัทร่วมทุนหรือกิจการร่วมค้า + มีUpside 43.2% และคาด
ให้ Div.Yield ปีนี้ 2.6%
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก ANAN, WHA
1-Sep-17 Change (pts.) 31-Aug-17
SET Index 1,618.42 2.26 1,616.16
SET50 Index 1,033.85 -0.44 1,034.29
SET100 Index 2,319.78 0.79 2,318.99
High 1,578.96 Gainers 595
Low 1,574.71 Unchanged 434
Value (Bt m) 44,762.35 Losers 613
Volume (*000) 8,402,897
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 16.11 14.59 13.30
EPS Growth (%) 5.19 10.38 9.73
EV/EBITDA (x) 10.55 9.73 9.26
FWD PBV (x) 1.92 1.80 1.68
Dividend Yield (%) 2.94 3.11 3.39
ROE 10.03 10.78 11.26
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 1-Sep-17 WTD MTD YTD
Institution (603.97) 923.61 (603.97) 59,039.80
Proprietary 707.70 6,802.91 707.70 2,454.57
Foreign 153.26 5,584.83 153.26 2,848.24
Individual (256.98) (13,311.36) (256.98) (64,342.61)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary