- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Wednesday, 20 August 2014 17:12
- Hits: 3708
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : เด็กแนว
เด็กแนว : สะสมกันเถอะ
หุ้นมันก็มีขึ้นมีลง เมื่อแรงซื้อถึงจุดอิ่มตัว เมื่อราคาหุ้นถึงจุดพอใจ ก็จะมีการแบ่งขายทำกำไรออกมาเป็นอย่างนี้เสมอในหุ้นทุกตัว นักลงทุนที่จะเข้าไปในหุ้นตัวไหนๆ ก็ต้องรู้ตัวเองว่าราคาที่เราเข้าไปนั้นมันอยู่ในช่วงต้น ช่วงกลาง หรือช่วงปลาย ถ้าเราเข้าไปในขณะที่ราคาเพิ่มเริ่มขึ้นก็ถือได้หลายวัน ถ้าเข้าไปช่วงกลางคือราคาขึ้นมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เหมาะแก่การถือต่อสักไม่กี่วัน แต่ถ้าเข้าไปในช่วงที่ราคากำลังร้อนแรง และขึ้นมาเยอะแล้วเราก็ต้องเล่นตามน้ำเอามันส์เกาะกระแสไป แล้วจบให้ได้ ไม่อย่างนั้นเสียรอบติดสูง
อย่างหุ้นพลังงานทดแทนเมื่อวานก็บอก และยกตัวอย่างแล้วว่าของจริงมันคืออะไร ถ้าจะเข้าไปก็ต้องดูกันให้ดี จะเลือกคู่ก็ต้องมองให้ออก สิ่งที่เห็นชัดเมื่อวานคือแรงขายออกมาของหุ้นในกลุ่มนี้ เป็นการทำกำไรจากราคาที่ขึ้นต่อเนื่องมาหลาย Week คงเหลือ PPP ของเด็กแนวที่ยังยืนเขียวอยู่ได้ก็แปลกใจเหมือนกัน
สิ่งที่ควรจะมองต่อไปคือ รอบของหุ้น หรือกระแสตลาดมันจะไปทางไหนต่อ เด็กแนวมองดูว่าตลาดจะวนกลับไปที่กลุ่ม IT หรือ ICT ที่พักตัวมาระยะหนึ่งแล้ว และประเมินกันว่ากลุ่มนี้กำลังมีการปรับโครงสร้างธุรกิจในเร็วๆ นี้ เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและทำประเทศให้ทันสมัย ดังนั้นเราจึงต้องหันมาจังทางหุ้นกลุ่มนี้ให้ได้ ไม่ใช่มัวแต่ฝันค้างกับกลุ่มเดิมๆ หมุนหุ้นไม่เป็น เล่นอย่างไรก็ไม่ชนะ สังเกตให้ดี เราเริ่มต้นหมุนหุ้นจากอสังหา พอราคาแพงก็ถูกขาย ไปเล่นรับเหมาตามนโยบาย คสช. พอราคาเริ่มอิ่มตัว ก็หมุนไปหากลุ่มเหล็ก จากนั้นก็มุ่งมาพลังงานทดแทน และต่อไปเชื่อว่ากลุ่มเทคโนโลยีจะกลับเล่นมาหลังจากพักตัวไปช่วงหนึ่งแล้ว
IRCP เมื่อวานช่วงบทวิเคราะห์เด็กแนวบ่าย ได้ให้นักลงทุนหันไปสนใจหุ้น CSS ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าราคาสามารถวิ่งไปถึง 8% ได้อย่างน่าตื่นเต้น แต่เช้านี้ขอสลับตัว เพราะเคยบอกไว้เหมือนกันว่ามีหุ้นอยู่อีกบริษัทหนึ่งที่มีลักษณะของธุรกิจในแนวทางเดียวกัน คือวางระบบโทรคมนาคม แม้จะไม่ได้เป็นผู้วางระบบเสาส่ง แต่บริษัทก็เตรียมที่จะบุกงานด้านนี้ จุดเด่นคือการเชื่อมระบบโครงข่ายต่างๆ รวมทั้งงานราชการถือว่าเด่น การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีบ้านเรา เชื่อว่าจะพัฒนาไปให้มีการเชื่อมต่อกันทั้งระบบราชการและเอกชนเหมือนสหรัฐ ทุกอย่างจะออกมาเป็นระบบไร้กระดาษ สื่อสารกันผ่านทาง net work ซึ่งเป็นงานที่ IRCP มีความชำนาญ สิ่งที่บริษัทมีโอกาสที่จะทำในระยะข้างหน้าคือ การบุกงานบริการ โดยอาจจะมีการร่วมธุรกิจถือหุ้นกลับบริษัทที่ให้บริการด้านนี้เพื่อเกิดรายได้ในระยะยาวแก่บริษัท เด็กแนวเคยบอกว่าจับตาดูให้ดีบริษัทยังมีทุนขนาดเล็ก ด้งนั้นจึงง่ายที่จะขยับทุนให้ใหญ่ขึ้นไม่ว่าจะออก PP หรือออกวอแรนท์ ไม่อันใดก็อันหนึ่งล่ะ ถือว่าส่วนทุนยังบริสุทธิ์ ซึ่งยังไม่ได้ใช้เครื่องมือการเงินเลยสักอย่าง
ส่วนแนวโน้มกำไรของบริษัทนั้นใน Q2 กำไรโตถึง 250% เทียบเป็นกำไรทั้งปีคาดว่าทุบสถิติ และคิดเป็นค่า PE เพียง 12 เท่าต่ำที่สุดในกลุ่มนี้ ถ้าให้ค่า PE ใกล้เคียงกับ CSS ที่ 15 เท่าจะได้เป้ายาวไป 7.20 บาท ถือว่า upside บานตะไท ต้องซื้อกันล่ะ ด้านแนวโน้มกราฟระยะยาวกำลังฟอร์มตัวให้เป็นถ้วยข้าวต้มหงายเต็มใบ มีขอบชามด้านขวาที่ 7.43-8.00 บาทในระยะ12 เดือนข้างหน้า และยังไม่เห็นสัญญาณเปลี่ยนทิศลงแต่อย่างใด หุ้นแบบนี้ยิ่งถือยิ่งมีมูลค่าเพิ่ม สะสมกันเถอะแล้วจะดีเอง