- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Thursday, 22 June 2017 00:34
- Hits: 12814
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : ขึ้นในไม้ที่สองเลย
SCI เริ่มไม้ที่สอง
เมื่อสัปดาห์ก่อนให้ไม้แรกไปแล้ว และก็บอกว่าจะเล่า Story ให้ฟัง มาคราวนี้ได้จังหวะซะทีหลังจากที่หุ้นมีฟอร์มการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นอย่างไม่ผิดหวัง ปัจจุบันมีงานในมือจากลาว 1.4 หมื่นล้านบาท และจะได้เพิ่มอีก 1.2 หมื่นล้านบาท เมื่อทางการลาว สรุปการปรับขนาดสายส่งใหม่ สำหรับในประเทศมีงานประมาณ 2 พันล้านบาท จะได้งานเพิ่มจากการร่วมธุรกิจกับ PF ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 5 จังหวัด ถือเป็นงานวางระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่มากที่บริษัทจะได้รับงานเข้ามา นอกจากนี้มีการลงนามทำ Solar roof top อีก 25 MW แล้ว คาดว่าปลายปีได้เห็นรายได้เข้ามาแน่ ถือว่า SCI มีอนาคต ก้าวไกล เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตสูง หากนับเฉพาะการรับรู้งานในมือปัจจุบัน ประเมินมูลค่าปี 60 ไม่ต่ำกว่า 13 บาท และปีหน้าราคาจะปรับเป็น 15-17 บาท เท่ากับก่อนหน้านี้ที่โบรกเกอร์เคยให้กันไว้ ส่วนกราฟกำลังเด้งตัวขึ้นไปยังแนว Gap ที่เปิดไว้ 10.60 บาท มี MACD ตัดขึ้นเป็นสัญญาณซื้อแล้ว จากนี้ไปก็เริ่มการขึ้นในไม้ที่สองเลย
TSR อย่ารอให้แพง ต้องบอกว่าผลงานของบริษัทจะไม่มีอะไรแย่ไปกว่าอดีตที่ผ่านมาอีกแล้ว รวมทั้งราคาหุ้นจากนี้ไปก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างชัดเจน หลังจากที่มีการปรับแบบของสินค้า และปรับองค์กร ปรับทีมการขาย ทุกอย่างโดยมีมืออาชีพเข้าจัดการอบรมให้มีความพร้อมอย่างมืออาชีพ จากนี้ไปจึงทำอะไรอย่างเป็นระบบและก้าวหน้าอย่างท้าทาย ธุรกิจขายเครื่องไฟฟ้าโดยมีเงินผ่อน และบริษัทเป็นผู้ให้สินเชื่อเอง ก็จะทำให้เพิ่มทั้งยอดขาย และรายได้เช่าซื้อในขณะเดียวกัน ถึง 2 เด้ง รวมทั้งการบุกตลาด CLMV ทำให้บริษัทมีโอกาสขยายฐานกว้างขึ้นเป็นคู่แข่งรายใหม่ของ SINGER ที่พลาดไม่ได้
นักวิเคราะห์ประเมินมูลค่าได้ค่อนข้างดี ประมาณ 5.70 บาท และหากผลงาน Q2 ออกมาดีเกินคาด มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มประมาณการขึ้นไปอีก ส่วนกราฟนั้นฟอร์มตัว W-shape มีแนวต้านที่ 5.10 และ 5.40 บาทให้ลุ้น สนับสนุนการขึ้นนี้โดย Stochastic ตัดขึ้นเป็นสัญญาณซื้อระดับ Bottom ที่มีช่วงการวิ่งกว้างพอดู แนะนำ "ซื้อ" ใครชอบหุ้นตัวนี้ก็เก็งกำไรกันไป
AEC Securities
รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research
ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: Spread ชี้ว่าไม่ไปไหน
BASIS (S50M17-SET50): เมื่อวานนี้ Basis (S50M17-SET50) ปิดเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.68 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.58 จุด อย่างไรก็ดี Series M จะหมดอายุอีก 8 วัน จะทำให้ Basis เข้าหาค่าศูนย์มากขึ้น ส่วน Spread (S50U17-S50M17) ปิดเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.4 จุด ขยับเข้าใกล้ Theory Spread ที่ -4.74 จุด สรุปตลาดมองว่า ระยะกลางแกว่งทรงตัว
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.88x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.85x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.30x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.02x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนฝั่ง Options กลัวความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิม
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 497 ล้านบาท และ Short 110 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เหลือ 13,432 สัญญา หรือคิดเป็นมูลค่า 2,303 ล้านบาท โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติทั้งฝั่งตลาดหุ้นและ Index Futures เท่ากับซื้อสุทธิ 7,045 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 519 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยลดลง
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: คาดติดต้าน 1,000 จุด
S50M17 ยังคงมีแนวโน้มย่อยที่เป็นขาขึ้น เพียงแต่ว่าปัจจุบันเริ่มติดแนวต้าน 1,000 จุด ซึ่งเป็นทั้งแนวต้านในทางจิตวิทยา และกรอบบน Sideway Up บวกกับสัญญาณแท่งเทียนคล้ายกับ Bearish Engulfing บ่งชี้สัญญาณกลับตัวลงของราคาโดย S50M17 มีแนวรับถัดไปที่ 990 จุด กรอบล่าง Sideway Down ดังนั้น แนะนำ Trading Short เก็งกำไรระยะสั้น ตามการเคลื่อนไหวแบบ Zig-Zag
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้
Outright Trading: Trading Short ในกรอบ 990-1,000 จุด พร้อมกับตั้ง Stop Loss หากสูงกว่า 1,005 จุด
Spread Trading: รอเปิด Long Spread S50M17U17 (Long S50U17 Short S50M17) เมื่อ Spread ต่ำกว่า -6.8 จุดเพื่อรอทำกำไรเมื่อ Spread มากกว่า -4.8 จุดขึ้นไป
AEC Securities
Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง
Analyst
ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ไม่ผ่านต้าน เริ่มปรับฐาน
Trading Idea: CSS
เด็กแนว: SCI, TSR
Connect the World- (P.2)
ตลาดหุ้น ตปท.ปิดลบตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงมาต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
Market Outlook
วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,570-1,590 จุด โดยดัชนีมีโอกาส Sideway Down จาก แรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลง
Market Factors
(-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -0.29%DoD หลังราคาน้ำมันดิบที่ลดลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -2.2%DoD จากกังวลภาวะน้ำมันล้นตลาดหลังสหรัฐฯ, ลิเบีย และไนจีเรีย มีการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
(+) MSCI ประกาศนำหุ้น A share ที่มีทุนจดทะเบียนสูง 222 ตัวของจีนคำนวณในดัชนีMSCI EM ซึ่งมีน้ำหนักในดัชนี MSCI EM ราว 0.73% โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือน มิ.ย. 61
(+) ที่ประชุม คสช. มีมติใช้ ม.44 ปลดล็อกที่ดิน ส.ป.ก.ทำขุดเจาะน้ำมัน,กังหันลม, เหมืองแร่
(+) พาณิชย์ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันสต็อกไบไอดีเซลเพิ่มจากเดือนละ 50 ล้านลิตร เป็น 90 ล้านลิตร เพื่อแก้ปัญหาปาล์มล้นตลาดและหวังดึงราคาผลปาล์มสด มองเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันปาล์ม อาทิ UVAN,UPOIC, VPO, CPI, LST
(+/-) วันนี้ติตตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ อาทิ ยอดขายบ้านมือสองและสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA รวมทั้งรายงานการประชุมของ BOJ
Investment Strategy
หากดัชนีหุ้นไทยยังสามารถยืนเหนือ 1,565 จุด แนะนำ "Let Profit Run" ในหุ้นกลุ่มโรงแรม(MINT, ERW, CENTEL) และ รพ. (BCH, CHG, LPH) ที่ได้แนะนำซื้อไปในสัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกันแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวชุดใหม่เพิ่ม ดังนี้
1) กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง ซึ่งคาดได้อานิสงส์จากการใช้ ม.44 ปลดล็อคโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนเลือก CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, SCC
2) หุ้น Big Cap. ที่ราคาหุ้นยังมี Upside น่าสนใจ เลือก PTT, SCB, CPALL, BJC
3) หุ้น Mid-Small Cap. ที่คาดปีนี้กำไรโตสดใสเลือก MONO, COM7, KAMART
4) Trading Idea :หุ้นที่ได้อานิสงส์จากราคาข้าวปรับขึ้น 22%YTD หลังประเทศผู้ผลิตข้าวอื่นๆ ประสบภัยแล้งและน้ำท่วม อีกทั้งสต็อกข้าวโลกลดลงส่งผลให้หลายประเทศเริ่มเปิดประมูลนำเข้าข้าวทำให้ราคาข้าวในประเทศเพิ่มขึ้นเลือก GCAP, TK, AUCT
Market Talk and News
ARROW (BUY:[email protected]): ช่วง 2Q60 คาดแรงกดดันจากต้นทุนเหล็กที่พุ่งสูงขึ้นจะลดลงหลังช่วงที่ผ่านมาบริษัททยอยปรับขึ้นราคาสินค้าให้สอดคล้องกับราคาเหล็กในตลาดบวกกับได้อานิสงส์จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ รวมถึงโครงการย้ายสายไฟลงดินของ กฟน. จึงคาดหนุนปี 60 กำไรโต 8.8%YoY + Upside 6.2% คงแนะนำ "ซื้อ"
TASCO (BUY: Consensus [email protected]): ช่วง 2Q60 คาดกำไรโต YoY ด้วยอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง 20%YTD ส่งผลให้ต้นทุนยางมะตอยลดลง คาดหนุนมาร์จิ้นดีขึ้นบวกกับปริมาณยอดขายยางมะตอยในต่างประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นผลักดันให้ปี 60 คาดกำไรเติบโต 9.1%YoY + มี Upside 22.8% จึงแนะนำ "ซื้อ"
COM7 (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรโต 29.4%YoY จากความแข็งแกร่งของดีมานด์ในตลาดมือถือและไอที บวกกับมีแผนเปิดสาขาใหม่พร้อมกับกระจายความเสี่ยงโดยการจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นที่มีราคาเข้าถึงกลุ่ม Mass มากขึ้น + Upside 16.4%