- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Friday, 16 June 2017 17:41
- Hits: 2002
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : เข้าซั่มต่อได้เลย
- TACC กราฟแบบนี้ต้องเข้าซั่ม อย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนก่อนว่าให้สะสมหุ้นตัวนี้ไว้เพราะราคามันลงลึกมากนั้น เพราะว่าช่วงแย่ที่สุดของบริษัท ได้ผ่านพ้นไปใน Q1 นี้แล้ว และยอดขายที่เติบโตทั้งในและต่างประเทศจะพลิกฟื้นกลับมาใน Q2 เป็นต้นไป สาขาของเซเว่นซึ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจของบริษัทยังขยายตัว ทำให้บริษัทสามารถที่จะขยายธุรกิจตู้กดเครื่องดื่มตามไปได้ตลอด ขณะที่ยอดขายในกัมพูชาจะกลับมาเห็นตัวเลขที่เป็นบวก ดังนั้นนักวิเคราะห์จึงมองตรงกันว่าในไตรมาสสองเป็นต้นไปตัวเลขกำไรก้าวกระโดดจะได้เห็นกัน สำหรับราคาหุ้นที่ลงแรงก่อนหน้านี้ เกิดการฟื้นตัวขึ้นแล้ว และกำลังจะไหลขึ้นไปต่อ โดยทางเทคนิคดีดขึ้นจากแนว Bottom ล่าสุดกราฟ Week มีการตัดขึ้นของ MACD เป็นสัปดาห์แรก ทำให้แรงซื้อเริ่มเข้ามามากขึ้น ทำให้กราฟสวย มี Momentum ที่จะไปต่อตาม V-shape เป้าหมายในการดีดตัวที่ 8.50 บาท แนะนำว่าเข้าซั่มต่อได้เลย
TMC อดีตไม่สำคัญ ปัจจุบันฉันเล่นเธอ
หุ้นที่เคยสร้างความระบมให้กับนักเก็งกำไรอย่างมาก เพราะผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ราคาถูกทิ้งแบบรุนแรง จน Oversold และแห้งมาแรมปี นี่คือหุ้นที่ต้องเข้าไปเล่นสักรอบ เพราะใน Q1 ที่ผ่านมานั้นโชว์กำไรแล้ว อีกทั้งตัวธุรกิจมีความก้าวหน้า เครื่องจักรต่างๆ มีออเดอร์มากมาย อีกทั้งการขายผ่านระบบออไลน์ ทำให้บริษัทมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น เพื่อนๆ อย่าง SMIT, PK วิ่งกันไปหมดแล้ว แต่ TMC กลายเป็นขาลง เด็กแนวมองว่านี่คือโอกาสของหุ้นที่พลิกสถานะ แต่คนกลัว
หุ้นแบบนี้แหละมี Down side จำกัด และมีโอกาสชนะตลาดได้ง่าย ด้วยความแรงที่เกิดขึ้นไม่ยาก เพราะตัวเบา แม้จะมีคนติดเยอะ แต่ตรงนี้คนติดสูงยังไม่ขายแน่ และเผลอๆ จะกลับมาซื้อถัว เมื่อผลประกอบการกลับมาดี ขณะที่กราฟกำลังสร้างแนวขึ้น แบบ Triple bottom มีแนวต้าน 1.80 บาท ถ้าผ่านได้ ขาลุย ขาถัว จะมากันเอง
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ดีดขึ้นทยอยลดเสี่ยง
SET ดีดตัวขึ้นถึง 1,580 จุด สร้างระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนจากนั้นค่อยๆ อ่อนตัวลงจนปิดในระดับต่ำสุดของวัน ซึ่งทำให้กราฟแท่งเทียนเกิดรูปแบบ Shooting Star ซึ่งหมายถึงการอ่อนตัวจะเกิดขึ้นตามมา ประกอบกับ Stochastic และเครื่องมืออ่อนตัวอื่นๆ กลับไม่สามารถแสดงจุดสูงสุดตามกราฟแท่งเทียน จนเกิดรูปแบบ Divergence Negative สนับสนุนโอกาสการอ่อนตัว เราคาดว่าแรง Rebound จะเกิดได้ในระยะต้นตลาด แต่ท้ายตลาดจะมีความผันผวนตามสัญญาณกราฟ โดยไม่ควรหลุดแนว 1,565 จุด เพราะจะทำให้เกิดแรงขายตามมา
กลยุทธ์
1. ลดการถือครองหุ้นเมื่อดีดตัว ลดความเสี่ยง และถือหุ้นน้อยลงหากหลุด 1,565 จุด
2. หากปิดสูงกว่าเปิด ถือหุ้นกลับบ้านได้
3. หากปิดต่ำกว่าเปิด จะยืนยันการอ่อนตัวในสัปดาห์หน้า ให้ลดการถือครองหุ้น
บทสรุปการลงทุน:
เน้นการลดปริมาณหุ้นเมื่อดีดตัววันนี้
SET Closed : 1,573.53
Support : 1,565 1,570
Resistant : 1,580 1,585
VIH : จุดนี้คือ Bottom
ราคาปิด: 8.15 บาท
แนวรับ : 8.10 บาท แนวต้าน: 9.50 บาท
Stop Loss เมื่อหลุด: 8.00 บาท
กราฟ VIH (week) เลี้ยงตัวที่แนว Support ซึ่งเป็นแนวดีดตัวที่เคยเกิดขึ้นช่วงปลาย ปีก่อน โดย Stochastic โค้งตัวขึ้นรับแล้ว จึงมีโอกาสดีดตัวจากนี้ไป คาดจะขึ้นไปปิด Gap ที่ 9.50 บาท หากวอลุ่มหนาแน่นจะขึ้นไปถึงไหล่ขวาที่ 11 บาท แนะนำ "ซื้อสะสม"
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
มุมมองทางทฤษฎี: Hedging ขาลง เพิ่มขึ้น
BASIS (S50M17-SET50): เมื่อวานนี้ Basis (S50M17-SET50) ปิดเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 2.27 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.52 จุด กลับมามากกว่า Theory Basis ที่ +0.53 จุด สรุปตลาดมองว่า ระยะสั้นแกว่งเชิงบวก ส่วน Spread (S50U17-S50M17) ปิดลดลงจากวันก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.30 จุด ขยับห่างออก Theory Spread ที่ -4.75 จุด สรุปตลาดมองว่า ระยะกลางแกว่งเชิงลบ
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.73x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.80x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.34x ปิดเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.01x ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนฝั่ง Options กลัวความเสี่ยงขาลงเพิ่มขึ้น
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 196 ล้านบาท และ Short 3,564 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures 33,158 สัญญา หรือคิดเป็นมูลค่า 6,222 ล้านบาท โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติทั้งฝั่งตลาดหุ้นและ Index Futures เท่ากับซื้อสุทธิเหลือ 2,549 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 902 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยน้อยลง
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: ติดต้าน คาดผงกหัวลง
เมื่อวานนี้ S50M17 กลับมาต่ำกว่ากรอบบน Sideway Down ที่ 992 จุด เช่นเดียวกับ RSI เริ่มผงกหัวลง บวกกับเช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียไม่เต็มใจ คาดกดกันต่อ Sentiment ดังนั้นวันนี้มองลง คาดดัชนีแกว่งในกรอบ Sideway Down ที่ 982-992 จุด และหากในกรณีพลิกผลันดัชนีขึ้นต่อ ตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่ 997 จุด
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้
Outright Trading: Trading Short ในกรอบ 982-992 จุด พร้อมกับตั้ง Stop Loss หากสูงกว่า 997 จุด
Spread Trading: รอเปิด Long Spread S50M17U17 (Long S50U17 Short S50M17) เมื่อ Spread ต่ำกว่า -6.8 จุดเพื่อรอทำกำไรเมื่อ Spread มากกว่า -4.8 จุดขึ้นไป
AEC Securities Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ดีดขึ้นทยอยลดเสี่ยง
Trading Idea: VIH
เด็กแนว: TACC, TMC
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ตลาดหุ้น ตปท. น้ำมัน ทองคำ ปิดในแดนลบ
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์กรอบแคบระหว่าง 1,565-1,580 จุด หลังขาดปัจจัยชี้นำใหม่
Market Factors
• (-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -0.07%DoD หลังวิตกข้อมูลศก.สหรัฐที่อ่อนแอและแนวโน้มเฟดปรับลดวงเงิน QE หลังประกาสขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
• (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -0.6%DoD หลังกังวลปัญหา Oversupply ในตลาดน้ำมันดิบโลก
• (0) BOE คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% และวงเงินQE ที่ 4.35 แสนล้านปอนด์ตามคาด
• (+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของ BOJ
Investment Strategy
• ภายใต้ภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังมีแนวโน้มแกว่งตัวกรอบแคบ กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ซึ่งคาดจะ Outperform ตลาด ดังนี้
1) กลุ่มโรงแรมที่ได้อานิสงส์จากธุรกิจเที่ยวไทยยังสดใส ได้แก่ MINT, ERW, CENTEL
2) กลุ่ม รพ. ที่ได้รับผลบวกจากฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติและการอนุมัติปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวจากประกันสังคม ได้แก่ BCH, CHG, LPH, RJH
3) กลุ่มที่คาดปีนี้กำไรยังโตสดใส ได้แก่ SEAFCO, COM7, BEAUTY, WICE, WORK
Market Talk and News
• กลุ่มเครื่องดื่ม (Underweight): จากข่าวกรมสรรพสามิตจะเก็บภาษีความหวานดีเดย์ 16 ก.ย. นี้โดยจะพิจารณาจากส่วนผสมน้ำตาลหากมีอัตรา 6-10 กรัม/100 มล. และ 10 กรัม/100 มล. จะถูกเก็บอัตราภาษีไม่ต่ำกว่า 20% และ 25% ของราคาขายปลีกตามลำดับ ส่งผลให้ผู้ประกอบการอาจต้องเร่งปรับสูตรหรือเปลี่ยนสินค้าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้นคาดส่งผลระทบเชิงลบต่อหุ้นที่มีสัดส่วนยอดขายเครื่องดื่มในประเทศ (รวมไม่หวาน) ดังนี้ ICHI(98%), MALEE (61%), CBG (58%). TIPCO (50%), SAPPE (35%) และ SSC (42%) ดังนั้นระยะสั้นเราจึงแนะนำ “ชะลอการลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ออกไปก่อน”
• SCN (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60-62 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 23.6% หนุนด้วยแผนเพิ่มปั๊มก๊าซ NGV อีก 13 แห่ง (จากปัจจุบันที่ 7 แห่ง) คาดหนุนปริมาณขายก๊าซเพิ่มเป็น 6.9 แสน ก.ก./วันในปี 62 (จากปัจจุบันที่ 2.2 แสน ก.ก./วัน) และล่าสุดจับมือพันธมิตรญี่ปุ่นเตรียมขายถังก๊าซ NGV สำหรับยานยนต์ที่อินโดนีเซีย (คาดเริ่มต้นปี 61) + Upside 37.3%
• UNIQ (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 14.4% ด้วยแรงหนุนจาก Backlog ในมือ (31มี.ค.) ราว 3 หมื่น ลบ.ซึ่งคาดจะทยอยรับรู้ในช่วง 2 ปีนี้ บวกกับช่วง 2H60 มีโอกาสได้งานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐเพิ่มเติมเช่นงานรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ, รถไฟรางคู่ 5 สาย, สนามบินสุวรรณภูมิเฟส2และมอเตอร์เวย์ + มี Upside 21%
• TK (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรโต 8.6%YoY และโตต่อ 12.2%YoY ในปี 61 จากพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อจักยานยนต์ที่ฟื้นตัวดีหลังราคาสินค้าเกษตรมีทิศทางปรับตัวดีและปัญหาภัยแล้งเริ่มชะลอลงพร้อมกับมีแผนขยายสาขาในกัมพูชาเพิ่มอีก 3 สาขา + ราคาหุ้นยังมี Upside 19.5% และคาดให้ Div. Yield ปีนี้ 4.4% จึงแนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก TK, EASTW
15-Jun-17 Change (pts.) 14-Jun-17
SET Index 1,573.53 -3.47 1,577.00
SET50 Index 989.58 -3.57 993.15
SET100 Index 2,238.08 -6.91 2,244.99
High 1,580.52 Gainers 469
Low 1,573.53 Unchanged 442
Value (Bt m) 39,961.78 Losers 619
Volume (*000) 10,611,217
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 15.35 13.82 12.53
EPS Growth (%) 3.95 11.09 10.25
EV/EBITDA (x) 9.88 9.12 8.74
FWD PBV (x) 1.86 1.73 1.62
Dividend Yield (%) 2.96 3.23 3.50
ROE 10.20 11.00 11.69
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 15-Jun-17 WTD MTD YTD
Institution (652.01) 5,085.88 7,273.62 46,074.57
Proprietary 108.24 (856.96) 722.43 932.00
Foreign (196.30) (3,289.53) (4,844.86) 8,770.97
Individual 740.07 (939.39) (3,151.18) (55,777.54)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary