- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Thursday, 18 May 2017 18:43
- Hits: 3608
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : สะสมได้เลย
- GCAP แจ้งงบไตรมาสแรกชะลอตัวลง ไม่แปลกใจแต่อย่างใด เพราะพัฒนาการของบริษัทน่าจะดีขึ้นตั้งแต่ Q2 นี้ หลังจากเดินหน้าบุกเช่าซื้อได้เต็มที่ การเติบโตพอร์ตสินเชื่อก้าวกระโดดถือว่าไปได้ไกลกว่าที่คิด ฝ่ายบริหารเคยให้ข้อมูลว่า ปีนี้จะเน้นการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลมากขึ้น นอกเหนือจากสินเชื่อเครื่องจักรการเกษตร โดยคาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 50% ทำให้เด็กแนวมองว่านี่คือโอกาสอันดีที่ราคาหุ้นจะเริ่มต้นไปพร้อมกัน การปรับฐานของราคาหลังแจ้งงบ ทำให้มี Upside ในการเล่น กลับมาเก็บครั้งใหม่ที่ราคากำลังตั้งลำ น่าสนใจมาก
จุดเด่นของหุ้น Leasing ในปีนี้คือการเติบโตของการปล่อยกู้ เนื่องจากธนาคารใหญ่ไม่ลงมาเล่นเพราะกลัว NPLs ทำให้รายเล็กลุยกันเต็มที่ จะเห็นผลประกอบการออกมาก้าวกระโดดกันหลายบริษัท และ GCAP จะเป็นเช่นนั้นในอนาคต ด้านกราฟกำลังตีวงตั้งลำเป็นถ้วยหงายใบโต มีเป้าหมายที่ 3.60 บาท และ 4 บาทอีกครั้งหนึ่ง แนะนำสะสมได้เลย
- SMIT ผลประกอบการ Q1 ที่เด็กแนวบอกว่าก้าวกระโดดนั้น ปรากฏออกมาชัดเจนสมจริงมากทั้งๆ ที่ Q1 ปีก่อนจัดว่าเป็นไตรมาสที่กำไรเยอะ แต่ปีนี้แซงได้กว่า 22% โดยยอดขายเครื่องผลิตน้ำแข็งส่งออกต่างประเทศกระฉูดอย่างรุนแรง และมีออเดอร์เพียบไหลเข้าต่อเนื่อง หลังจากเด็กแนวแนะนำไม้แรกทำให้ราคาหุ้นวิ่งแรงสุดยอด กลายเป็นชุบชีวิตให้หุ้นตัวนี้คึกคัก จนหัวกระไดไม่แห้ง ทั้งนักวิเคราะห์ นักลงทุนเข้าไปเยี่ยมชมความงามกันไม่ขาดสาย ล่าสุดข่าวดีคว้างานเหล็กชุบแข็งเครื่องบิน ได้รับใบอนุญาตเจ้าแรกของไทย ขนาดนั้นเลย
เป้ากำไรคงต้องขยับขึ้นไปอีกเพราะฐานสูงขึ้นอย่างแรง ซึ่งถ้าประเมิน PE 18 เท่าจะมีเป้าใหม่ที่ 7.20 บาท เป็นไปได้อย่างมากกับของดีขนาดนี้ ส่วนกราฟกำลังม้วนตัวขึ้นรอบใหม่หลังจากพักฐานลงมา รอบนี้มีโอกาส New high ตามโครงสร้างขาขึ้น โดยมีเป้าหน้า 6.80 บาท สัญญาณซื้อใน Stoch มาเต็มๆ แล้ว ใครชอบก็ติดมือไป
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
บล.เออีซี : Action Strategy
SET Index
AECS Market Outlook: หากปิดต่ำกว่า 1,540 จุด หยุดการ Rebound
SET พยายามที่จะดีดตัวทดสอบแนวต้าน 1,555 จุด ให้ได้เมื่อวานนี้ แต่ยังเผชิญแรงขายกดดันให้ปิดตัวลงสู่ระดับกลางของราคาต่ำสุดและสูงสุด ส่งผลให้กราฟแท่งเทียนเกิดรูปที่เรียกว่า Star หมายถึงการไม่มั่นใจในทิศทางใดทางหนึ่ง และมีความหมายในเชิงลบมากกว่าบวก และหากไม่สามารถผ่าน 1,555 จุด ภายใน 1-2 วันนี้จะยิ่งทำให้แนวโน้มแย่ลง อย่างไรก็ตาม Stochastic ยังรักษาแนวการ Rebound ไว้ได้ ดังนั้นวันนี้จึงมีโอกาสเปิดต่ำ และปิดสูงขึ้นได้ โดยมีข้อแม้ว่า SET ช่วงท้ายไม่ควรปิดลงต่ำกว่า 1,540 จุด จะยกเลิกสัญญาณการ Rebound ที่ได้สร้างมาก่อนหน้านี้
กลยุทธ์
1. เน้นการซื้อเมื่ออ่อนตัว เก็งกำไรช่วงสั้น
2. หากลงถึง 1,540 จุด ให้ถือเป็นแนวรับ แต่หากหลุดลงไปให้ cut loss ออก โดยไม่ลังเล
3. ลุ้นการปิดสูงกว่าเปิด เพราะคือสัญญาณ Rebound ในวันถัดไป
บทสรุปการลงทุน:
Stock Picks: BGT, GFPT, OTO
แนวรับ: 1,535 1,540
แนวต้าน: 1,550 1,555
BGT: สองกล่อง สามก้น
ราคาปิด: 2.00 บาท
แนวรับ : 1.96 บาท
แนวต้าน: 2.38บาท
Stop Loss: 1.92 บาท
กราฟ BGT ดีดตัวขึ้นหลังจากอ่อนตัวลงทดสอบแนว Bottom ของเดือนมีนาคม และเป็นแนว Support ของ Stochastic เช่นกัน โดยการดีดตัวนี้ได้เกิดขึ้นตามมาเป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่งแบบ Triple Bottom ซึ่งคาดว่าจะทำให้การดีดตัวของกราฟแท่งเทียนเป็นไปตามกล่องสี่เหลี่ยมที่สอง มีแนวต้าน 2.38 บาทเป็นอย่างน้อย
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน Technical Analyst ID: 049732 [email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ต่างชาติเริ่ม Cover Short
BASIS (S50M17-SET50): เมื่อวานนี้ Basis (S50M17-SET50) ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.02 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.02 จุด ต่ำกว่า Theory Basis ที่ +1.52 จุด สรุปตลาดมองว่า ระยะสั้นลงต่อ ส่วน Spread (S50U17-S50M17) ปิดเท่ากับวันก่อนหน้า จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.0 จุด ต่ำกว่า Theory Spread ที่ -4.76 จุด สรุปตลาดมองว่า ระยะกลางซึมลง
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.18x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.26x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.40x เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.01x แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนฝั่ง Options กลัวความเสี่ยงขาลงเพิ่มขึ้น
Fund Flow Analysis: โดยหากพิจารณาเฉพาะในฝั่งนักลงทุนต่างชาติพบว่า Month to Date (MTD) มีสถานะ Net Buy ในตลาดหุ้นเหลือ 6 ล้านบาท แต่เริ่ม Cover Short จนมีสถานะ Net Short ใน Index Futures เหลือ 31,839 สัญญา หรือคิดเป็นมูลค่า 6,238 ล้านบาท โดยรวม Exposure ทั้ง 2 ตลาดเท่ากับขายสุทธิ 4,613 ล้านบาท ขายสุทธิลดลงจากวันก่อนหน้า 2,086 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมองขาลงเริ่มชะลอตัว
มุมมองด้านเทคนิค: ลงต่อ
เมื่อวานนี้ S50M17 ปิดลบเล็กน้อย หมดแรงรีบาวด์ ดูแล้วเหมือนจะขึ้นต่อไม่ไหว เพราะ ไม่ผ่านแนวต้าน 990 และ RSI ยังต่ำกว่าค่า 50 มองวันนี้ S50M17 กลับมาลงต่อ และมองเหมือนเดิมว่า S50M17 มีแนวโน้มแบบ Zig-Zag Down คาดจะเจอกันแถวๆ 960-970 จุด
ในกรณีพลิกผันหากภายในสัปดาห์นี้ยังไม่ทำ Lower Low คาดสัปดาห์หน้าโมเมนตัมขาลงชะลอตัว และอาจทำให้ภาพทางเทคนิคคัลของ S50M17 เปลี่ยนจาก Zig-Zag Down เป็น Sideway
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้
Outright Trading: Trading Short หวังทำกำไรบริเวณแนวรับที่ 960-970 จุด และตั้งจุด Stop Loss ไว้ที่ 995 จุด
Spread Trading: รอเปิด Long Spread S50M17U17 (Long S50U17 Short S50M17) เมื่อ Spread ต่ำกว่า -6.8 จุดเพื่อรอทำกำไรเมื่อ Spread มากกว่า -4.8 จุดขึ้นไป
AECS Analyst อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: หากปิดต่ำกว่า 1,540 จุด หยุดการ Rebound
Stock Picks: BGT, GFPT, OTO
เด็กแนว: GCAP, SMIT
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ตลาดหุ้น ตปท. ร่วงหนัก จากความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,535-1,555 จุด โดยมองดัชนี Sideway-Sideway Down จาก Sentiment เชิงลบของตลาดต่างประเทศและช่วงสั้นยังขาดปัจจัยหนุนที่เด่นชัด
Market Factors
• (-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -1.78%DoD จากกังวลปัญหาการเมืองที่อาจนำไปสู่การถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะกระทบต่อการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
• (+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +0.8%DoD หลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง
• (+/-) ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์เดือน เม.ย. ลด 12.85%YoY ต่ำสุดในรอบ 64 เดือน จากยอดส่งออกลด 14.37%YoY แต่ยอดขายในประเทศเพิ่ม 15.1%YoY สะท้อน ศก.ไทยฟื้นตัว
• (+) หอการค้าไทยคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวในกรอบ 3.5-4.0%YoY จากภาคส่งออกและศก. ในประเทศที่เริ่มกลับมาดีขึ้น รวมถึงการลงทุนภาครัฐที่มีต่อเนื่อง
• (+/-) วันนี้ติดตามข้อมูลศก.สหรัฐ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือน พ.ค.
Investment Strategy
• กลยุทธ์ลงทุนยังคงแนะนำ “Selective Buy” ในกลุ่มหุ้นที่มีงบ 1Q60 กำไรโตเด่นและราคาหุ้นยังมี Upsideน่าสนใจ ซึ่งคาดว่าจะยังสามารถ Outperform ตลาด ได้แก่ BEAUTY, KAMART, SAWAD, MTLS, LIT, WICE, MONO, ERW, MINT, D
• Trading Idea : ดักเก็บหุ้นที่มีโอกาสถูกCover Short จากผลของSell in May ด้วยชุดหุ้นที่มีคุณสมบัติ 3 ประการดังนี้1) ราคาหุ้นปรับลงมากกว่า 10%MTD 2) มี Upside จากConsensus มากกว่า 20% และ 3) ช่วง 1Q60 กำไรโต YoY และปีนี้คาดกำไรยังโตมากกว่า20%YoY ดังนั้นเลือกTKN (Consensus TP@27) และ TACC (Consensus [email protected])
Fundamental Reports
• SYNTEC (BUY:[email protected]): แม้ช่วง 1Q60 กำไรปกติโต 53.6%QoQ จากมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น แต่ช่วงที่เหลือของปีนี้คาดลดลง YoY และกดดันให้ทั้งปี 60 กำไรปกติหดตัว 14%YoY เนื่องจากคาดมาร์จิ้นธุรกิจรับเหมาจะปรับลงจากปีก่อนที่ทำมาร์จิ้นได้ดีจนทำให้มีฐานกำไรสูง อย่างไรก็ดีการเดินหน้าประมูลงานคาดหนุนปี 61 พลิกกำไร 9.3%YoY + Upside 14%
• PYLON (HOLD:TP@12): แม้ช่วง 1Q60 กำไรโต 18.8%YoY จากรับรู้งานเฉพาะค่าแรงในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น และทั้งปี 60 คาดกำไรยังโต 20.1%YoY จากรับรู้รายได้จากงานภาคเอกชนและมีแนวโน้มรับงานใหม่จากภาครัฐที่คาดกลับมาสดใสในช่วง 2H60 แต่ราคาหุ้นสะท้อนพื้นฐานแล้ว จึงลดคำแนะนำจากเดิม “ซื้อ” เป็น “ถือ” โดยคาดให้ Div. Yield ปีนี้ราว 4.5%
Market Talk and News
• KTC (BUY:TP@148): แม้ Opp. Day วานนี้ผู้บริหารจะแสดงความกังวลต่อยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วง 1Q60 ที่น้อยกว่าคาดแต่เราคาดผลลบดังกล่าวจะถูกหักล้างด้วยยอดปล่อยสินเชื่อที่โตดีซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าโดยคาดปี 60 กำไรยังโต18.1%YoY ตามภาวะ ศก. ที่ดีขึ้นและการกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรด้วยการอัดโปรโมชั่นร่วมร้านค้าพันธมิตรที่มีอยู่มาก + Upside 12.5% และ Div. Yield ปีนี้ 3.4% จึงแนะนำ “ซื้อ”
• ROBINS (BUY:TP@74): แม้ช่วง 2Q60 คาดยอดขายสาขาเดิมไม่สดใส แต่ผลบวกจากนโยบายคุมเข้มค่าใช้จ่ายและการเพิ่มศักยภาพทำกำไรด้วยการเพิ่มสินค้าใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงในร้าน Great Value และ Just Buy ตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. นี้เป็นต้นไป อีกทั้งช่วงที่เหลือของปีนี้ยังเปิดสาขาใหม่อีก 3 แห่ง จึงคาดหนุนปี 60 กำไรปกติยังโต 12.8%YoY + Upside 25.4%
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก LPH, PTTGC
17-May-17 Change (pts.) 16-May-17
SET Index 1,548.29 1.94 1,546.35
SET50 Index 983.98 -0.68 984.66
SET100 Index 2,216.45 0.99 2,215.46
High 1,552.55 Gainers 590
Low 1,545.17 Unchanged 349
Value (Bt m) 50,634.68 Losers 585
Volume (*000) 9,378,919
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 15.08 13.55 12.34
EPS Growth (%) 3.30 11.27 9.88
EV/EBITDA (x) 9.67 8.93 8.43
FWD PBV (x) 1.84 1.72 1.60
Dividend Yield (%) 3.03 3.31 3.59
ROE 10.52 11.26 12.00
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 17-May-17 WTD MTD YTD
Institution 637.63 1,518.12 1,002.92 36,288.92
Proprietary (565.53) (1,736.25) (2,634.18) 736.34
Foreign 1,259.83 659.20 1,624.99 9,718.43
Individual (1,331.93) (441.06) 6.28 (46,743.69)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน (ID. 049732) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary