WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ACESบล.เออีซี : เด็กแนว

เด็กแนว : งบการเงินถือว่าแข็งแกร่ง

    การเกิด M-CURVE ในกราฟไม่ใช่เพิ่งเห็น หรือเพิ่งเกิด แต่เตือนมาตั้งแต่ปลายเดือนก่อนแล้วว่าให้ระวัง รวมทั้งการเกิด Divergence ที่รุนแรงใน MACD จะกดดันให้ SET ยังไงก็ต้องลง แต่นักลงทุนก็ยังมีคำถามว่าตลาดลงได้อย่างไร ซึ่งหากแค่เพียงสังเกตก็พอจะบอกได้แล้วว่าขึ้นไม่ไหวมามากกว่า 2 เดือนหลังจาก 1,585 จุดไม่ผ่านซะที การเกิดตัว M นี้ จะทำให้ SET ควรปรับฐานรอบเล็กๆ ที่แนวลงประมาณ 1,510 จุด ถือเป็นเรื่องธรรมดา และควรล ถ้าลงน้อยไปก็ยังไม่พอ เพราะแรงเหวี่ยงจะมีน้อย ดังนั้นใจเย็นรอไปก่อน รอให้ตลาดสะเด็ดน้ำ ตอนนี้ยังมีโอกาสลง การดีดตัวช่วงสั้นเพื่อให้ขายหุ้น อย่าเสียดาย ขายหมูให้เป็น หรือ Cut loss ให้ได้ ตั้งรอบใหม่ กับต้นทุนใหม่ๆ

    - GIFT มีความโดดเด่นทางธุรกิจ เพราะขายเคมีที่ใช้ในส่วนผสมของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น แชมพู เครื่องสำอาง ครีม สบู่ และอีกไม่น้อย รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนผสมของอาหาร เครื่องดื่ม โดยในปี 60 จะขยายธุรกิจด้านความงาม ไม่ว่าจะเป็นสบู่ลดสิว คอลลาเจน ประเภทเหล่านี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่าผลงานในปี 60 จะขยายตัวโดดเด่นจากการกระจายตัวของโครงสร้างรายได้มากมาย ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก นอกจากนี้ งบการเงินถือว่าแข็งแกร่ง มีหนี้สินต่ำ

กำไรสะสมสูง และค่า PE เพียง 11 เท่า การที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาแบบนี้จึงมี Upside ในการวิ่งขึ้นไม่น้อย โดยค่าเฉลี่ยราคาเป้าหมายของโบรกเกอร์สูงกว่าราคากระดานมากว่า 20% ด้านกราฟจะเห็นภาวะ Oversold ทางเทคนิค และสัญญาณ Rebound ในกราฟแท่งเทียน เด็กแนวว่าโอกาสในการเข้าสะสมรอบนี้มาอีกครั้ง มองแนวต้านการเด้งตัวแถว 7 บาท และมีข้อแม้ในการ Cut ถ้าราคาหุ้นมีแรงขายหนักหน่วง นับจากตรงนี้ รับความเสี่ยงหากหลุด 5.90 บาทก็พอ

AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
บล.เออีซี : Action Strategy

AECS Market Outlook: Rebound เก็งกำไร
กราฟ SET เกิดการ Rebound ในระยะต้นตลาด เหมือนวันก่อนหน้า ตอบรับตลาดหุ้น รอบบ้านที่ดีดตัวแรงจากผลการเลือกตั้งฝรั่งเศส แต่ในช่วงบ่ายกลับมีแรงขายหนักหน่วงในหุ้นขนาดใหญ่กดดันให้ SET รูดลงใกล้ถึงแนวรับสำคัญ 1,552 จุด ซึ่งเป็นแนว Support ของ M-Curve เล็ก ที่เราประเมินไว้เมื่อวานนี้ จากนั้นเกิดการดีดตัวอย่างรวดเร็ว ขึ้นไปปิดที่ 1,562 จุด ทั้งนี้ผลจากการเกิด Oversold ทำให้เกิดแรงซื้อเก็งกำไรเกิดขึ้น ส่งผลให้กราฟแท่งเทียนเกิดไส้เทียนยาวด้านล่างคล้าย Hammer ซึ่งจะทำให้เกิดการ Rebound เป็นจริงเป็นจังในวันนี้ และมีโอกาสเด้งตัวปลายสัปดาห์

กลยุทธ์
1. เข้าเก็งกำไรได้ตั้งแต่ต้นตลาด แบ่งขายเป็นรอบอย่าหวังถือยาว
2. หากทรงตัวแดนบวกได้เหนือราคาปิด ถือหุ้นต่อไป
3. หากอ่อนตัวใกล้ราคาเปิดส่งสัญญาณไม่ปลอดภัย ให้ถือหุ้นอย่างระมัดระวัง
4. หากปิดต่ำกว่าราคาเปิด หรือต่ำกว่าราคาปิดเมื่อวาน ให้ขายหุ้น

บทสรุปการลงทุน:
Stock Picks: KOOL, LST, HTECH
แนวรับ: 1,555 1,558
แนวต้าน: 1,570 1,575

KOOL: ลงมากเกินไป
ราคาปิด: 4.42 บาท
แนวรับ : 4.40 บาท
แนวต้าน: 4.60 5.00 บาท
Stop Loss: 4.38 บาท
กราฟ KOOL ทิ้งตัวลงต่อเนื่องและต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ทำให้สัญญาณทางเทคนิคเกิด Oversold ขณะทีการเด้งตัวเมื่อวานนี้ทำให้กราฟแท่งเทียนเกิดรูปเชิงบวก ซึ่งมีโอกาสที่เกิดการดีดตัวทางเทคนิค โดยมีแนวต้านสำคัญ 4.60 บาท หากผ่านได้จะกลับมาฟื้นตัวจริงจัง แนะนำซื้อเก็งกำไร

AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน Technical Analyst ID: 049732 [email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals

SET50 Index Futures

มุมมองทางทฤษฎี: ความกลัวขาลงเพิ่มขึ้น
BASIS (S50M17-SET50): เมื่อวานนี้ SET50 Index (Spot) ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า S50M17 ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.78 จุด โดย Basis ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.39 จุด กลับมาใกล้เคียง Theory Basis ที่ -1.62 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกลดลงของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index (อัพเดทผลกระทบจากการจ่ายเงินปันผลในช่วง 27 เม.ย.- 8 พ.ค. 60 หุ้นในกลุ่ม SET50 ขึ้นเครื่องหมาย XD ทั้งหมด 13 บมจ. และคาดกระทบ SET50 Index 4.6 จุด)


PUT/CALL Ratio: แม้ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL ในฝั่งปริมาณซื้อขาย (Volume) จะยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ดีเมื่อวานนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง Open Interest ปรับเพิ่มเป็น 1.60x จากวันก่อนหน้าที่ 1.54x แสดงให้เห็นถึงนักลงทุนเริ่มกลัวว่า SET50 Index จะปรับตัวลง
Volume-Open Interest Analysis: เมื่อวานนี้ดัชนี SET50 Index ทำปิดต่ำกว่าเปิด พร้อมกับปริมาณซื้อขาย (Volume) และสถานะคงค้าง (Open Interest) ใน SET50 Index Futures 4 Series หลัก (M17, U17, Z17 และ H18) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงความต้องการเปิดสถานะ Short ที่เพิ่มขึ้น

Technical Analysis

มุมมองด้านเทคนิค: ลงแบบ Zig-Zag
เมื่อวานนี้ S50M17 มีหลุดแนวรับสำคัญ 990 จุด ในระหว่างวัน แต่ท้ายตลาดดีดกลับซะงั้น วันนี้เรามองว่าดัชนีอาจ Rebound สั้นๆ แต่ยังเสี่ยงการหลุดแนวรับ 990 จุด แล้วลงต่อ แบบ Zig-Zag โดยมีแนวรับถัดไปแถวๆ 960-970 จุด เพราะ Indicator หลายตัวทรงไม่ดีเลย เช่น MACD ปรับตัวลงต่อเนื่อง จนเกือบเข้าใกล้ค่าศูนย์ บ่งชี้การเปลี่ยนเทรนด์จากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง
แต่ในทางกลับกันหากยืน 990 จุด ได้ เราจะไม่รีบทำอะไรเพราะ S50M17 ยังมีแนวต้านสำคัญ 1,000 จุด ซึ่งคาดว่าไม่ผ่านได้ง่ายนัก
กลยุทธ์การลงทุน 1) Outright Trading: ใช้แนวรับ 990 จุด เป็นตัวชี้วัด หากหลุดเปิด Short ตาม หวังทำกำไรบริเวณแนวรับที่ 960-970 จุด แต่หากยืน 990 จุดได้ยังไม่ทำอะไรรอเปิด Short อีกทีตรงต้าน 1,000 จุด และ 2) Spread Trading: รอเปิด Long Spread S50M17U17 (Long S50U17 Short S50M17) เมื่อSpread ต่ำกว่า -6.5 จุดเพื่อรอทำกำไรเมื่อ Spread มากกว่า -4.5 จุดขึ้นไป


AEC Securities Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus

AECS Daily Focus
Technical: Rebound เก็งกำไร
Stock Picks: KOOL, LST, HTECH

เด็กแนว: GIFT
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ตลาดหุ้นปิดบวก หลังคลายกังวลการเมืองฝรั่งเศส และคาดหวังต่อแผนภาษีทรัมป์

Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,555-1,570 จุด โดยแม้มีลุ้นรีบาวด์แต่กรอบขึ้นยังจำกัดหลังขาดปัจจัยบวกเด่น ทำให้ยังต้องระวังการลงทุน กดดันตลาดหุ้นไทยยัง Underperform

Market Factors
• (+) ตลาดหุ้น DJIA ปิด +1.12%DoD รับข้อมูล ศก.และผลประกอบการของ บจ.ที่แข็งแกร่ง
• (+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +0.7%DoD หลังคาดสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง
• (-) BDI Index ปรับลง -1.37%DoD สู่ระดับ 1,154 จุด เป็นลบต่อกลุ่มเรือเทกอง TTA, PSL
• (+/-) วันนี้จับตาการประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับแผนปฏิรูประบบภาษีครั้งใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งคาดจะช่วยกระตุ้น ศก. สหรัฐฯ ให้ขยายตัวได้อย่างมาก

Investment Strategy
• กลยุทธ์ลงทุนยังคงเน้น “Trading เล่นสั้น” ในหุ้นที่มีพื้นฐานดี/มีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้
1) หุ้นรับเหมาอิงงานประมูลภาครัฐ ได้แก่ CK, STEC, SEAFCO
2) หุ้นได้รับประโยชน์จากนโยบาย EEC ได้แก่ ROJNA, WHA,WICE, EASTW
3) หุ้นที่ให้ Div. Yield ราว 5% และจะขึ้น XD ในเดือนนี้ ได้แก่ KKP, TISCO, SC
4) หุ้น Mid-Small ที่คาดกำไรโตดีปีนี้ ได้แก่ SAWAD, MTLS, ARROW, SMPC, MONO

Fundamental Report
• CBG (BUY:TP@79) : วานนี้บอร์ดมีมติให้ยกเลิกโครงการลงทุนในกลุ่มGreater China หลังประเมินว่าจะกดดันให้ CBG ต้องรับรู้ผลขาดทุนในช่วง 4-5 ปีแรกจากมีค่าใช้จ่ายที่สูง อย่างไรก็ดี CBG ยังคงได้สิทธิ์ซื้อหุ้นโครงการลงทุนนี้เมื่อเห็นว่าเหมาะสมในอนาคต ซึ่งเรามองว่าเป็นเงื่อนไขที่ดี ทำให้ไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงล้มเหลวจากการลงทุนและไม่ต้องแบกผลขาดทุนกดดันการเติบโตของกำไร ส่งผลให้เรามีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร โดยคาดปี 60-61 CBG จะมีกำไรโตเฉลี่ยปีละ 23.8% + มี Upside 20.2% จึงคงแนะนำ “ซื้อ”
• SYNTEC (BUY:[email protected]): ช่วง1Q60 คาดกำไรปกติโต26.4%QoQ จากมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้นหลังหลายโครงการที่ส่งมอบเกิด Defect & Error ที่น้อยกว่าที่กันสำรองไว้ขณะที่แม้ปี 60 คาดกำไรปกติลดลง 14%YoY จากฐานปีก่อนที่สูง แต่ราคาหุ้นปรับลงมาจนกลับมามีUpside 18% + เงินปันผลจ่ายหุ้นละ 0.11 บาท (XD 8 พ.ค.) จึงเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”
• M (HOLD:TP@59) : ช่วง 1Q60 คาดกำไรโต 5.9%YoY จากยอดขายสาขาเดิมที่ยังโตจากขึ้นราคาอาหารและรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ อีกทั้งคาด SG&A/Sales ลดลงตามผลประหยัดจากขนาด และด้วยปัจจัยหนุนข้างต้นคาดทำให้ปี 60 กำไรโต6.3%YoY อย่างไรก็ดีราคาเต็มมูลค่าแล้ว แต่ด้วยมีจุดแข็งด้านฐานะการเงินและปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. yield ปีละ 3.4% จึงคงแนะนำ“ ถือรับปันผล” โดยมีเงินปันผลจ่าย 1.10 บาท (XD 3 พ.ค.)

Market Talks and News
• KTC (BUY:TP@148):ปี 60 คาดกำไรโต 18.1%YoY และโตต่อ 11.2%YoY ในปี 61 จากการฟื้นตัวของ ศก.และแผนกระตุ้นยอดใช้จ่ายด้วยการรุกธุรกิจออนไลน์และออฟไลน์ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังไม่น่ากังวลจากการคุมเข้มหนี้เสีย + ราคายังมี Upside 10.9%

Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก TVO, CPALL

25-Apr-17 Change (pts.) 24-Apr-17
SET Index 1,562.27 -2.39 1,564.66
SET50 Index 993.39 0.88 992.51
SET100 Index 2,234.59 0.13 2,234.46

High 1,569.90 Gainers 336
Low 1,553.44 Unchanged 376
Value (Bt m) 46,297.44 Losers 833
Volume (*000) 9,226,797

Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 15.28 13.67 12.37
EPS Growth (%) 9.08 11.77 10.48
EV/EBITDA (x) 9.85 9.13 8.52
FWD PBV (x) 1.86 1.73 1.62
Dividend Yield (%) 2.99 3.29 3.55
ROE 10.35 11.20 12.01

Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 25-Apr-17 WTD MTD YTD
Institution (1,280.93) (1,691.95) (470.32) 27,028.96
Proprietary (117.21) (333.96) 3,312.66 2,932.27
Foreign 1,141.94 1,551.22 (202.73) 6,084.36
Individual 256.21 474.69 (2,639.61) (36,045.59)

AECS ( Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
ชวิศ หวังมุทิตากุล (ID. 059559) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน (ID. 049732) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!