- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Wednesday, 15 March 2017 17:18
- Hits: 16997
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : หุ้นมีอนาคต
- SYNEX ราคาหุ้นลงมาไม่น้อยทีเดียวในรอบนี้ แม้เมื่อวานเด้งแรง และสัญญาณ Follow buy ยังไม่แจ่มชัด แต่การที่ราคาหุ้นอยู่ลึกมากและต่ำกว่าพื้นฐาน ขณะที่ธุรกิจดี ก็ควรที่จะจับรอบเล่นของถูกซักรอบ และสำหรับคนที่รอคอยให้ราคาย่อก็ขอ บอกว่านี่คือโอกาสในการเข้าเก็บแล้ว หุ้นพื้นฐานดี PE ไม่สูง กำไรปี 60 ตั้งเป้าทุบสถิติอีกแล้วยอดขายสินค้าไอที และสมาร์ทโฟนเติบโตแรง และกำลังจะมีพันธมิตรทางธุรกิจใหม่อีก 2 ราย
ถือเป็นหุ้นมีอนาคต เป้าหมายของบริษัทมองไประยะยาวกำลังจะตั้งบริษัทเช่าซื้อสินค้ากะเขาด้วย ขายของแล้วปล่อยเงินกู้เองด้วย ไม่รู้จะรวยยังไงไหวแล้ว ส่วนกราฟ เกิด Reversal ในแท่งเทียน และการตั้งท้องเตรียมคลอดของ Stoch ล้วนแล้วแต่บ่งบอกแนวโน้มดีดตัวกลับแล้ว แนะนำว่าเข้าสะสมเก็งกำไรโดยมีแนวต้าน 9.80 บาท
- SLP ธุรกิจหลักของบริษัทคือการพิมพ์สลากต่างๆ งานพิมพ์ชื่อหรือตราสินค้าลงบนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีอัตราการเติบโตปี 59 อย่างก้าวกระโดดถึง 150% ผลจากการที่สามารถควบคุมต้นทุนได้ และยอดขายที่โตขึ้นโดย Net margin แรงจัดถึง 14% จากก่อนหน้านี้ที่ทำได้เพียง 5.5% ถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจ และอาจจะมีการร่วมธุรกิจกับพันธมิตรอื่นๆ ได้ไม่ยากเพื่อขยายตลาดงานพิมพ์ ทั้งในและต่างประเทศ
กราฟ SLP มีการพักฐานลงมา หลังจากสร้างระดับสูงสุดในรอบปี 2016 ผ่านไป ทำให้สามารถที่จะลากยอดแนวต้านได้สูงขึ้น ขณะที่แนวรับของเส้น Support ก็ลงมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เท่ากับว่าแนวปัจจุบันเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ารับรอบใหม่ และแท่งเทียนสร้าง Hammer ในแนวทาง Zig Zag ขาขึ้น แบบนี้โอกาสในการสร้าง High ใหม่จึงไม่ยากเลย ซื้อตรงนี้ ไปรอขาย 2.60 บาท กำลังสวย
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook: ทิศทางไม่แน่นอน
SET อ่อนตัวในระยะแรก และดีดตัวขึ้นอย่างแรง หลังจากเข้าเขต Oversold การดีดตัวตามคาดหมายที่เราประเมินไว้ก่อนหน้านั้น ส่งผลให้สัญญาณระยะสั้นยังคงเกิด Technical Rebound ได้ ทั้งนี้ Stochastic และ RSI โค้งตัวขึ้นในที่ต่ำแนวโน้มเชิงบวก แต่ยังคงมีแรงกดดันจากเส้นแนวกดทับ ขณะที่กราฟแท่งเทียนเกิด Engulfing เชิงบวก แต่ยังคงมีแนวขวางกันที่ 1,550 จุด ต้องฝ่าแนวนี้ไปก่อนจึงจะมีแนวโน้มที่เสถียรภาพ การเข้าใกล้แนวต้านของ Indicators และปริมาณวอลุ่มที่ไม่หนาแน่น จะส่งผลให้วันนี้แกว่งตัวผันผวนไม่แน่นอน ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน จนกว่าจะทะลุ 1,555 จุดขึ้นไปจึงเกิด Follow Buy ได้ ดังนั้นความเสี่ยงในทิศทางวันนี้จึงยังคงมีอยู่
กลยุทธ์
1. เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นมาก กำหนดจุดลดเสี่ยงหากหลุด 1,535 จุด
2. หากปิดต่ำกว่าเปิด ถือหุ้นน้อยลง หากปิดสูงกว่าเปิด ถือหุ้นกลับพอประมาณ
3. หาก SET ผ่าน 1,550 จุดถือหุ้นต่อ หากผ่าน 1,555 จุด ซื้อหุ้นเพิ่ม
บทสรุปการลงทุน:
Stock Picks: ALT, SAWAD, MONO
แนวรับ: 1,530 1,535
แนวต้าน: 1,550 1,555
ALT: พร้อมดีดตัว
ราคาปิด: 8.55 บาท
แนวรับ : 8.45 บาท
แนวต้าน: 9.00 บาท
Stop Loss: 8.35 บาท
กราฟ ALT ลงสู่แนว Oversold และใกล้ Low เมื่อเดือนมกราคม และสามารถรักษาระดับนี้ไว้ตลอดสัปดาห์ โดยกราฟแท่งเทียนสร้างรูปแบบเชิงบวก จึงมีแนวโน้มที่จะ Rebound ได้ มีเป้าหมายการฟื้นตัวที่ 9 บาท แนะนำเก็งกำไร
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน Technical Analyst ID: 049732 [email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
AECS Derivatives Signals
SET50 Futures: Sideway!!! เมื่อวานนี้ SET50 Index (Spot) และ S50H17 ปิดด้วยขนาดใกล้เคียงกัน +0.2%DoD ส่งผลให้ Basis (S50H17-SET50) ทรงตัวจากวันก่อนหน้า โดย Basis ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -0.75 จุด ใกล้เคียง Theory Basis ที่ +0.48 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index เช่นเดียวกับ Price Action ของ S50H17 ยังคงอยู่ในกรอบ Sideway ที่ 970-1,000 จุด และปัจจุบันกำลังทดสอบกรอบล่าง Sideway ดังนั้นคงแนะนำกลยุทธ์ดังนี้ หากดัชนีปรับเพิ่มขึ้นเข้าใกล้กรอบบนเป็นโอกาสเปิด Short ในทางกลับกันหากดัชนีปรับตัวลงเข้าใกล้กรอบล่างเป็นโอกาสเปิดสถานะ Long
USDTHB Futures: ด้วยแนวโน้มของ Dollar Index ที่แกว่งในกรอบ Sideway Up ระดับ 101-103 จุด คาดหนุนค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อ โดยปัจจุบันค่าเงินบาทยังคงยืนเหนือแนวรับทั้งค่าเฉลี่ยระยะสั้นและยาว (EMA5วัน EMA20วัน EMA60วัน และ EMA120วัน) ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น โดยค่าเงินบาทจะมีแนวต้านถัดไปที่ 35.5 THB/USD
Gold Futures: คาดลงต่อ!!! ด้วยแรงกดดัน Dollar Index ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น (ราคาทองโลกและ Dollar Index มีค่าสหสัมพันธ์ในรอบ 1 ปีที่ -0.38) บวกกับทองโลกยังคงต่ำกว่าแนวต้านค่าเฉลี่ยทั้งระยะสั้นและยาว (EMA5วัน EMA20วัน EMA60วัน และ EMA120วัน) ดังนั้นแม้ช่วงสั้นทองโลกอาจมีความผันผวนจากแรงรีบาวด์ แต่หาก Dollar Index ยังคงแข็งค่าขึ้น คาดจะเป็นการรีบาวด์เพื่อลงต่อ
AEC Securities Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ทิศทางไม่แน่นอน
Stock Picks: ALT, SAWAD, MONO
เด็กแนว: SYNEX, SLP
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ตลาดหุ้นทั่วโลกซบเซาหลังนักลงทุนชะลอซื้อขายรอผลประชุมเฟด
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,530-1,550 จุด โดยมองดัชนีจะไซด์เวย์กรอบแคบ หลังช่วงที่ผ่านมาตลาดซึมซับข่าวเฟดมีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 15 มี.ค. นี้ไปแล้ว
Market Factors
• (-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -0.21%DoD จากแรงขายหุ้นกลุ่มสายการบินและพลังงาน
• (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -1.4%DoD หลังมีรายงานสมาชิกโอเปกหลายรายผลิตน้ำมันเกินโควต้าที่กำหนด ทำให้เกิดความวิตกปัญหา Oversupply ในตลาดโลก
• (+) ดัชนี BDI ขึ้นต่อเป็นวันที่ 10 โดยปิด +1.18%DoD สู่ 1,112 จุด สูงสุดรอบ 3 เดือน
• (-) วานนี้ต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิใน SET 1.98 พัน ลบ.
• (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศ นำโดย FOMC (14-15 มี.ค.), BOJ และ BOE (16 มี.ค.) รวมทั้งข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ดัชนีภาคการผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคยอดค้าปลีก สต็อกน้ำมันและสินค้าคงคลัง
Investment Strategy
• แม้ SET ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่คาด Downside เริ่มจำกัด หลังมองตลาดซึมซับข่าวเฟดมีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำเริ่ม “ทยอยซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว” หุ้นที่คาดยัง Outperform ตลาดได้ ดังนี้
1) หุ้นได้ประโยชน์ค่าเงินบาทอ่อน ได้แก่ KCE, GFPT, CPF
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลง ได้แก่ EPG, TASCO, BA, AAV
3) หุ้นที่กำไรมีแนวโน้มโตเด่นปีนี้ ได้แก่ ROBINS, BJC, TWPC, ARROW, JWD
4) หุ้นที่ประกาศจ่าย Div. yield ล่าสุดเกิน 5% ได้แก่ TISCO, SC, AIT, KKP, WHA
Fundamental Reports
• BEAUTY (BUY:[email protected]): ปี 60 คาดกำไรโต 34.8%YoY หลังเดินหน้าขยายสาขาทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ อีกทั้งยอดขายสาขาเดิมคาดยังโตสดใสจากการจัดแคมเปญกระตุ้นใช้จ่ายและมีแผนเพิ่มสินค้าใหม่ราวปีละ 280-350 SKUs+ ราคาหุ้นยังมี Upside 28% และจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.138บาท (XD 28 เม.ย.นี้)
Market Talks and News
• FORTH (BUY:[email protected]): วานนี้แจ้ง ตลท. ได้รับงานใหม่ 2 โครงการ คือ 1) จ้างเหมาตรวจซ่อมบำรุงโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วของ กฟภ. 59.19 ลบ. และ 2) จ้างเหมาปรับปรุงและเพิ่มกล้อง CCTV ของ กทม. 422.2 ลบ. ซึ่งเมื่อรวมกับธุรกิจตู้บุญเติมและธุรกิจ EMS ที่ยังมีแนวโน้มสดใสจึงคาดปี 60-61 กำไรจะโตเฉลี่ยปีละ 17.5% +Upside 32% คงแนะนำ “ซื้อ”
• SEAFCO (BUY:[email protected]): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 32.9% จากแรงหนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อาทิ รถไฟฟ้า 3 สายซึ่งคาดเริ่มงานฐานรากช่วง 3Q60 และมีมูลค่ากว่า3 พัน ลบ. อีกทั้งยังมีงานฐานรากอีกกว่า1.6 หมื่น ลบ. จากโครงการในAction Plan + ราคาหุ้นยังมี Upside 34% และจ่ายเงินปันผล 0.15 บาท (XD 3 พ.ค..นี้)
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก KCE, ROBINS
14-Mar-17 Change (pts.) 13-Mar-17
SET Index 1,543.15 7.64 1,535.51
SET50 Index 977.25 1.88 975.37
SET100 Index 2,199.77 7.94 2,191.83
High 1,546.01 Gainers 782
Low 1,531.73 Unchanged 334
Value (Bt m) 49,875.34 Losers 456
Volume (*000) 11,392,072
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 15.06 13.53 12.30
EPS Growth (%) 9.85 11.30 10.02
EV/EBITDA (x) 9.62 8.96 8.34
FWD PBV (x) 1.85 1.72 1.60
Dividend Yield (%) 3.04 3.32 3.52
ROE 10.63 11.20 11.81
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 14-Mar-17 WTD MTD YTD
Institution 1,679.44 2,628.66 11,880.81 20,834.75
Proprietary 239.56 (293.30) 1,671.91 926.09
Foreign (1,981.64) (1,742.50) (12,333.92) (9,651.16)
Individual 62.64 (592.86) (1,218.80) (12,109.69)
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์(ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล(ID. 027445) [email protected]
ชวิศ หวังมุทิตากุล (ID. 059559) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน (ID. 049732) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary