- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Monday, 13 March 2017 17:20
- Hits: 4599
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : ดีดตัวไป ไม่ยาก
- ROBINS หุ้นค้าปลีกที่มีแววโตแรงโดยคาดว่าปี 60 จะมีกำไรปกติ 2,907 ล้านบาท เติบโต 12.8%YoY ด้วยแรงหนุนทั้งจากยอดขายสาขาเดิมที่คาดโต 1%YoY หลังกำลังซื้อดีขึ้นจากปลดล็อกรถคันแรกและการเร่งรัดใช้จ่ายโครงการลงทุนภาครัฐคาดหนุนให้เกิดการจ้างงาน บวกกับ ยังรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่เปิดต่อเนื่อง
โดยปีนี้ ROBINS มีแผนเปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ เพชรบุรี (ช่วง 1H60) และ กำแพงเพชร (ช่วง 2H60) และรูปแบบปกติ 1 แห่งที่มหาชัย (ช่วง 2H60) ให้เป้ายาวๆ ปีนี้ที่ 74 บาท ส่วนกราฟถือว่าน่าสนใจ เพราะราคาหุ้นยกฐานขึ้นต่อเนื่อง โดยสัญญาณซื้อเกิดขึ้นทั้งในกราฟแท่งเทียนและใน RSI แนวโน้มราคาควรจะดีดตัวไปที่ 63 บาท ไม่ยาก แนะนำซื้อ
- BGT หุ้นเสื้อผ้าดู้เหมือนจะมีอาการแรงๆ อย่างบอกไม่ถูก ยกตัวอย่างกางเกงยีนส์แม็ค เดินหน้าสวนทาง SET แบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อาการเหมือนจะมีพันธมิตร ขณะที่ BGT นั้นก็ค้าขายเสื้อผ้าคล้ายๆ กัน และราคาหุ้นรวมทั้งวอลุ่มก่อตัวแปลกๆ ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องอะไรกันหรือไม่ เพราะในอดีตเคยมีกระแสข่าวว่าทั้งคู่จูจุ๊บ จูบปากกัน
หุ้นบอดี้โกลฟ์จะแตกต่างจากแม็ค เพราะมีขนาดที่เล็กกว่า มีส่วนเหมือนตรงที่มี Shop หลายจังหวัด ซึ่งเป็นการง่ายที่จะถูกหมายตาจากร้านค้าแบรนด์ใหญ่ที่ต้องการขยายสาขาแบบร่วมทุนหรือควบรวม จึงถือว่าน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง ด้านกราฟ BGT ไต่ระดับอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกันยายน พร้อมโวลุ่มสะสมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แสดงว่ามีคนเข้ามาเก็บหุ้นแล้ว เมื่ออิงกราฟจะเห็นแนวต้านของการดีดตัวขึ้นไปที่ 2.40 บาท ชักน่าติดตามยังไงไม่รู้
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook: ตั้งรับ 1,530 จุด
กราฟ SET ไม่สามารถรักษาฐานบริเวณ 1,550 ไว้ได้ และทิ้งตัวลงอย่างแรงสูญเสีย Momentum ซึ่งจะกดดันให้การผันผวนเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้หากพิจารณากราฟแท่งเทียนจะเห็นแนวการทิ้งตัวถึง 1,530 จุด ซึ่งตรงกับแนว Support ของ RSI ที่แนว Oversold เต็มตัว เราคาดว่าแนวดังกล่าวนี้จะเกิดการดีดตัวอย่างจริงจัง เนื่องจาก RSI จะไม่ต่ำกว่านี้มากนัก อย่างไรก็ตามการอ่อนตัวยังคงเกิดขึ้นในระยะแรกของต้นสัปดาห์ เนื่องจากแรงขายและ Sentiment ที่กดดันมาก่อนหน้านี้ แต่คาดว่าการอ่อนตัวจะแคบลงแล้ว จึงกำลังเข้าใกล้ แนวดีดตัวนั่นเอง
กลยุทธ์
1. ตั้งรับที่ 1,530 จุด ทยอยสะสมตั้งแต่แนวนี้
2. ยังคงเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น
บทสรุปการลงทุน:
Stock Picks: SVI, FN, NETBAY
แนวรับ: 1,525 1,530
แนวต้าน: 1,545 1,550
SVI: มีสัญญาณซื้อ
ราคาปิด: 5.60 บาท
แนวรับ : 5.55 บาท
แนวต้าน: 5.95 บาท
Stop Loss: 5.45 บาท
กราฟ SVI สามารถทรงตัวไม่หลุด 5.50 บาทได้ตลอดสัปดาห์ สวนทาง SET ที่ผันผวนหนัก เกิดสัญญาณ Double Bottom และ Buy Signal ใน RSI ที่อยู่ติดกับแนว Oversold คาดว่าราคาหุ้นจะเกิดการดีดตัวเข้าใกล้ 6 บาท จึงแนะนำซื้อเก็งกำไร
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน Technical Analyst ID: 049732 [email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
AECS Derivatives Signals
SET50 Futures: ทดสอบกรอบล่าง Sideway!!! เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ SET50 Index (Spot) ปรับตัวลงปิด -0.47%DoD และ S50H17 ปิดที่ -0.51%DoD ส่งผลให้ Basis (S50H17-SET50) ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.38 จุด โดย Basis ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -0.58 จุด ใกล้เคียง Theory Basis ที่ +0.25 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index เช่นเดียวกับ Price Action ของ S50H17 ยังคงอยู่ในกรอบ Sideway ที่ 970-1,000 จุด และปัจจุบันกำลังลงมาทดสอบกรอบล่าง Sideway ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์หากดัชนียืนได้อย่างแข็งแกร่งเป็นโอกาสเปิดสถานะ Long
USDTHB Futures: ปัจจุบันค่าเงินบาทยังคงยืนเหนือแนวรับทั้งค่าเฉลี่ยระยะสั้นและยาว (EMA5วัน EMA20วัน EMA60วัน และ EMA120วัน) ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น อีกทั้งด้วยแนวโน้มของ Dollar Index ที่แกว่งในกรอบ Sideway Up ระดับ 101-103 จุด คาดจะหนุนให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงต่อ โดยค่าเงินบาทจะมีแนวต้านถัดไปที่ 35.5 THB/USD
Gold Futures: รีบาวด์เพื่อลงต่อ!!! ด้วยแรงกดดัน Dollar Index ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น (ราคาทองโลกและ Dollar Index มีค่าสหสัมพันธ์ในรอบ 1 ปีที่ -0.38) บวกกับทองโลกยังคงต่ำกว่าแนวต้านค่าเฉลี่ยทั้งระยะสั้นและยาว (EMA5วัน EMA20วัน EMA60วัน และ EMA120วัน) ดังนั้นแม้ช่วงสั้นทองโลกอาจมีความผันผวนจากแรงรีบาวด์ แต่หาก Dollar Index ยังคงแข็งค่าขึ้น คาดจะเป็นการรีบาวด์เพื่อลงต่อ
AEC Securities Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ตั้งรับ 1,530 จุด
Stock Picks: SVI, FN, NETBAY
เด็กแนว: ROBINS, BGT
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World–
• ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังชะลอตัวติดตามผลประชุมเฟดวันที่ 15 มี.ค. นี้
Market Outlook
• สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,530-1,560 จุด โดยแม้ดัชนียังมีโมเมนตัมปรับลงต่อจาก Fund Flow ที่ไหลออก แต่ช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์คาดดัชนีจะเริ่มทยอยฟื้นตัวได้หลังทราบผลประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งมองว่าตลาดได้ซึมซับข่าวนี้ไปพอสมควรแล้ว
Market Factors
• (+) ตลาดหุ้น DJIA ปิด +0.21%DoD หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาแข็งแกร่ง
• (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -1.60%DoD หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ มีจำนวนเพิ่มขึ้น
• (+) ดัชนี BDI ขึ้นต่อเป็นวันที่ 8 โดยปิด +2.07%DoD สู่ 1,086 จุด สูงสุดรอบ 3 เดือน
• (-) เมื่อวันศุกร์ต่างชาติขายสุทธิใน SET ต่อเป็นวันที่ 10 ราว 1.29 พัน ลบ.โดยยอดขายรวม 10 วัน 1.24 หมื่น ลบ. หลังคาดเฟดมีโอกาสสูงขึ้นที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
• (-) ความกังวลเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยทำให้เกิดแรงขายทั้งตราสารหนี้และหุ้น กดดันให้บาทอ่อนค่าลงกว่า 1.1%MTD โดยล่าสุดเช้านี้อยู่ที่ 35.28 บาท/ดอลลาร์
• (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศ นำโดย FOMC (14-15 มี.ค.), BOJ และ BOE (16 มี.ค.) รวมทั้งข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ดัชนีภาคการผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคยอดค้าปลีกสต็อกน้ำมันและสินค้าคงคลัง เป็นต้น
Investment Strategy
• แม้ SET ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่คาด Downside เริ่มจำกัด หลังมองตลาดซึมซับข่าวเฟดมีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำเริ่ม “ทยอยซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว” หุ้นที่คาดยัง Outperform ตลาดได้ ดังนี้
1) หุ้นได้ประโยชน์ค่าเงินบาทอ่อน ได้แก่ KCE, GFPT, CPF
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลง ได้แก่ EPG, TASCO, BA, AAV
3) หุ้นที่กำไรมีแนวโน้มโตเด่นปีนี้ ได้แก่ ROBINS, BJC, TWPC, ARROW, JWD
4) หุ้นที่ประกาศจ่าย Div. yield ล่าสุดเกิน 5% ได้แก่ TISCO, SC, AIT, KKP, WHA
Market Talks and News
• GFPT (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรโต 12.5%YoY จากการเติบโตของยอดส่งออกไก่สดหลังเกาหลีใต้และญี่ปุ่นทำลายไก่และเป็ดจำนวนมากจากการเกิดไข้ หวัดนกระบาดขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบยังอยู่ในระดับต่ำอีกทั้งยังได้อานิสงส์เพิ่มจากเงินบาทอ่อนค่า +ราคาหุ้นมีUpside 12.6% และคาดให้ Div. yield ปีละ 2% จึงแนะนำ “ซื้อ”
• KCE (Trading BUY:ConsensusTP@113): ด้วยSentiment บวกจากต้นทุนทองแดงล่วงหน้าตลาด CMX ปรับตัวลง 4.4%MTD พร้อมกับล่าสุดบาทอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์1.1%MTD อีกทั้งมีแผนขยายกำลังการผลิตโรงงานเฟส 3 คาดหนุนปี 60-61 กำไรโตเฉลี่ย ปีละ 20.7% แต่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside เหลือเพียง 8.7% จึงแนะนำ “Trading Buy”
• ARROW (BUY:[email protected]): ปี60-61คาดกำไรโตปีละ15%หลังมองเป็นผู้ได้ประโยชน์จากแนวโน้มอุตสาหกรรมท่อร้อยสายไฟที่สดใสตามการลงทุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐอีกทั้งARROW ยังมีจุดแข็งจากเป็นผู้นำตลาดท่อร้อยสายไฟใต้ดิน RTRC ซึ่งเป็นรายแรกที่ได้มาตรฐาน มอก. + Upside 16% และจ่ายเงินปันผล 0.40 บาท (XD 4พ.ค.) แนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก KCE, TWPC
10-Mar-17 Change (pts.) 09-Mar-17
SET Index 1,539.91 -9.33 1,549.24
SET50 Index 972.88 -4.62 977.50
SET100 Index 2,190.42 -11.47 2,201.89
High 1,548.59 Gainers 337
Low 1,537.23 Unchanged 372
Value (Bt m) 39,569.57 Losers 809
Volume (*000) 9,539,844
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 15.00 13.48 12.24
EPS Growth (%) 10.05 11.28 10.10
EV/EBITDA (x) 9.61 8.95 8.33
FWD PBV (x) 1.84 1.71 1.59
Dividend Yield (%) 3.05 3.33 3.54
ROE 10.63 11.21 11.81
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 10-Mar-17 WTD MTD YTD
Institution 1,944.83 3,293.74 9,252.16 18,206.10
Proprietary (579.68) 69.66 1,965.21 1,219.38
Foreign (1,290.13) (7,076.46) (10,591.43) (7,908.66)
Individual (75.02) 3,713.06 (625.93) (11,516.82)
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์(ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล(ID. 027445) [email protected]
ชวิศ หวังมุทิตากุล (ID. 059559) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน (ID. 049732) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary