- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Friday, 14 August 2015 18:27
- Hits: 12062
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์เด็กแนว
เด็กแนว : ทยอยสะสมอย่างแท้จริง
ECL เมื่อต้นสัปดาห์ เด็กแนวมีมุมมองเชิงเทคนิค แนะนำให้สะสมหุ้นตัวนี้ไว้เพราะราคาปรับตัวลดลงมากเกินไป ทั้งๆที่ธุรกิจมีอนาคตสดใส แม้ว่าผลประกอบการ Q2 มีแนวโน้มจะทรงๆ ไม่เด่นก็ตาม แต่จากนี้ไปผลบวกของดอกเบี้ยต่ำจะทำให้ลีสซิ่งมี margin เติบโตขึ้นชัดเจน ปัจจัยบวกสำคัญที่สำคัญบอกมาหลายครั้งเกี่ยวกับการทำนาโนไฟแนนซ์ เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าฐานใหญ่ที่มีโอกาสเติบโตสูง และปัจจัยจากพันธมิตรญี่ปุ่นที่ MOU กันไปหลายเดือนแล้วน่าจะได้เรื่องได้ราวกันซะที หากไม่เรียบร้อยดูเหมือนว่าพันธมิตรในประเทศก็นอนรอเสียบอยู่แล้ว เพราะเราจะเห็นพาร์ทเนอร์ชุดแรกแล้วได้แก่การร่วมลงทุนกับบริษัท แอสเซทแมเนจเมนท์ โฮลดิ้งส์ จำกัด(AMH) ในการทำธุรกิจให้สินเชื่อรายย่อยโดยมีหลักประกัน โดยคาดว่าจะขยายฐานเต็มพื้นที่ภาคตะวันออก และเชื่อว่าแผนของบริษัทจะมี Partner อื่นๆ เข้ามาอีกแน่
ด้านตัวเลขสำคัญทางสถิตินั้นพบว่า PBV ลดลงจาก 3 เท่าหรือ เพียง 1.4 เท่า ลงมากึ่งหนึ่งแล้ว เท่ากับว่าราคาหุ้นตอนนี้ถูกกว่าก่อนหน้านี้บานตะไท ตรงนี้จึงเป็นจังหวะทยอยสะสมอย่างแท้จริง
แนวโน้มกราฟจะเห็นว่าราคาหุ้นไหลลงมาจาก 3.8 บาทโดยประมาณ และรูดลงมาเรื่อยๆ ถึงตรงนี้โวลุ่มเบาบางเรียกว่าค่อนข้างแห้ง กราฟเกิด Oversold ขณะที่แท่งเที่ยนฟอร์มตัวเป็น V-shape ขึ้นมาสัปดาห์แรก โดย MACD เกิด Positive Divergence มองเป้าการวิ่งน่าจะม้วนกลับไป 1.78 - 1.85 บาทราคาตรงนี้ถูกความเสี่ยงต่ำ โอกาสเหวี่ยงได้ยาว ลองดูๆ กันนะ
BIG ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับปากกาบิ๊ค เลยแม้แต่น้อย เดิมคือบริษัทซันวูดนั่นเอง ต่อมา BIG ซึ่งทำธุรกิจเป็นร้านขายอุปกรณ์ถ่ายภาพได้โอกาสเข้าสวมกิจการแล้วนำกลับมาเข้าตลาด ซึ่งถือว่าน่าจับตา วันแรกของการ Resume trade ก็เละเป็นโจ๊ก เพราะราคาหุ้นลงจาก 4 บาทเหลือ 1.50 บาท นักลงทุนไม่มั่นใจว่าจำนวนหุ้นเยอะขนาด 3.5 พันล้านหุ้นคงโดนผู้ถือหุ้นเดิมเทกระจาดออกมาเพราะติดไว้นานแสนนาน การลงในครั้งนั้นถือว่าราคาหุ้นเสียทรง และไม่ค่อยได้วิ่งไปไหนอีกเลย แต่หลังจากนั้นเข้าใจว่าผู้ถือหุ้นหลักๆ คงเริ่มเข้าเก็บหุ้นจนตอนนี้คงจะมีในมือไม่น้อยกว่า 70% เหลือในตลาดไม่มากเท่าไร การจะลากไปไหนก็ทำได้ง่ายขึ้นล่ะ BIG ตั้งเป้าเปิดร้านค้ากล้องให้ครบ 250 แห่งภายในปี 60 จากปัจจุบันมีมากกว่า 220 แห่งแล้ว ถือเป็นผู้ประกอบการใหญ่สุดกิน market share ระดับ 50% ใครจะมาแข่งด้วยคงเหนื่อย เพราะฐานทุนตอนนี้คนละขนาดกันแล้วหลังจาก BIG เข้าตลาดสำเร็จ
ด้านผลประกอบการรวมครึ่งปีทำได้ดีแล้ว ทั้งยอดขาย และต้นทุนดำเนินงานลดลง มีกำไร 143 ล้านบาท แบบนี้ทั้งปีรายได้มีลุ้น 300 ล้านบาท หรือ EPS แบบ Fully dilute ที่ 0.85 บาท ประเมินที่ค่า PE 20 เท่าเราเห็นเป้า 1.70 บาท เป็นอย่างน้อย และสามารถเพิ่มค่าเป็น 2.12 บาทถ้าให้ PE ขึ้นเป็น 25 เท่าแบบกลุ่มค้าปลีก ด้านกราฟดูกันให้ดีทรงคล้ายพระเอกตัวจริง AJD ก่อนขึ้นแรงไม่มีผิด เพราะลงมาจนติดดิน ขณะที่ MACD มี Bullish Divergence ราคาจะเด้งไป 1.50 บาทก่อน หลังจากนั้นไต่ระดับไปไหนต่อไหนไม่ยากแล้ว ใครสนใจ เก็งกำไรกันได้เลย