- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Wednesday, 11 February 2015 15:40
- Hits: 3364
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : ครึ่งบ่าย ไม้สั้น
สรุปตลาดภาคเช้า
ตลาดภาคเช้าปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง จากแรงขายในหุ้นพลังงานงานที่มีความกังวลต่อแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4 และปัญหาการเจรจาหนี้ของกรีซที่ไม่คืบหน้า ดัชนีปิดปรับตัวลดลง -3.59 จุด มาที่ระดับ 1,591.37 จุด มูลค่าซื้อขาย 2.7 หมื่นล้านบาท
แนวโน้ม ภาคบ่าย
คาดตลาดมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากภาพรวมที่ขาดปัจจัยบวกเพิ่มเติม สร้างโอกาสในการขายลดความเสี่ยงจากประเด็นการเจรจาหนี้ของกรีซที่ไม่คืบหน้า ก่อนครบกำหนดในช่วงปลายเดือนนี้
วิเคราะห์ทางเทคนิค
SVOA : ราคาปิด 1.79 บาท
แนวรับ 1.78 บาท แนวต้าน 1.88 บาท
แนว cut loss เมื่อหลุด 1.75 บาท
กราฟ SVOA ส่งสัญญาณการเกิด technical rebound ในแท่งเทียน ขณะที่ RSI กำลังฟื้นตัวเพื่อสร้างสัญญาณซื้อ ทั้งนี้หากราคาสามรรถยืนเหนือ 1.82 บาทได้ในระยะหว่างวันจะทำให้เกิด Buy signal ไปยังแนวต้าน 1.88 บาท และหากผ่านได้จะมีแนวขึ้นรอบใหม่ แนะนำซื้อเก็งกำไร
PE : ราคาปิด 1.49 บาท
แนวรับ 1.47 บาท แนวต้าน 1.60 บาท
แนว cut loss เมื่อหลุด 1.45 บาท
กราฟ PE อ่อนตัวลงจนเข้าใกล้เขต Overbought เมื่อวันก่อนหน้านี้ และเริ่มดีดตัวทางเทคนิค โดยกราฟแท่งเทียนอยู่ในช่วงฟอร์มตัว หากวันนี้สามารถยืนเหนือ 1.50 บาทได้จะเกิด buy signal เต็มตัวแบบ Engulfing แนะนำซื้อสะสม
เด็กแนว : สะสมๆ กันต่อเลย
CSS : จัดเป็นหุ้นวางระบบโทรคมนาคม ที่มีข่าวมากตัวหนึ่ง หลังจากในช่วงที่ผ่านมารับงานวางเสาส่ง ทั้งในและต่างประเทศไม่น้อย โดยเฉพาะที่พม่ารับงานของ TRUE ก้อนใหญ่ และส่งมอบกันตามกำหนด ซึ่งใน Q4 ถือว่าจะเป็นอีกไตรมาสหนึ่งที่มีแนวโน้มของกำไรโดดเด่นเพราะส่งมอบงานปริมาณมาก จะเห็นได้จาก Q3 ที่ผ่านมามีการส่งมอบงานก้อนแรกทำให้กำไรพุ่งขึ้นกว่า 300% แต่สิ่งที่จะทำให้ CSS กลายเป็นหุ้นดาวรุ่งในอนาคต เพื่อเป็นการสะท้อนราคาหุ้นที่ยังคงเดินหน้ามาได้ตลอดก็คือการประกาศร่วมลงทุนทำ Solar farm ที่ญี่ปุ่นเริ่มต้นที่ 10 MW และมีความเป็นไปได้ว่าจะทำเพิ่มอีกปริมาณไม่น้อย โดยเบื้องต้นถือสัดส่วนกัน 50:50 ถือเป็นความชัดเจนอย่างมาก ถ้าประเมินเป็นกำไรต่อปีสำหรับรายการนี้จะประมาณ 40 ล้านบาท
ในส่วนของ CSS ที่รับเข้ากระเป๋า แค่นั้นยังไม่พอ ประกาศทำโรงไฟฟ้าขยะที่จังหวัดพะเยาขนาดราว 10 MW นักวิเคราะห์คงทราบกันดีว่าโรงไฟฟ้าขยะนั้นมีอัตราการทำกำไรที่สูงมาก เพราะใครจะเอาขยะมาให้กำจัดยังต้องเสียค่าจัดการ หมายความว่าได้แหล่งพลังงานฟรีบวกค่าบำบัดอีกตะหาก ทำให้กำไรต่อ 1 MW อาจสูงถึง 30 ล้านบาท หรือรับกำไรเต็มๆ หลังภาษีอีกราว 200 ล้านบาท เอาแค่ที่เห็นๆ นี้จะมีกำไรจากโรงไฟฟ้าปีละ 240 ล้านบาท กำไรจากธุรกิจที่รับกระแส Digital economy อีก 150 ล้านบาท เท่ากับกำไรขั้นต่ำต่อปีคือ 390 ล้านบาท คิดเป็น EPS ราว 0.54 บาท ถ้าให้ PE 30 เท่าจะได้เป้าไม่น้อยกว่า 16 บาท และคอยดูกันให้ดีกับแผนเพิ่มทุน แจกวอร์ แตกพาร์ เพื่อรองรับธุรกิจไฟฟ้า ต้องมีแน่ ราคาหุ้นตรงนี้แม้ขึ้นมาไม่น้อย แต่ upside มีไม่น้อยเช่นกัน สะสมๆ กันต่อเลย
ทีมวิเคราะห์