- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Wednesday, 28 March 2018 21:42
- Hits: 5237
บล.เออีซี : TSR แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน ที่ 4.00 บ.
Stock : TSR
Price : 2.74
Target Price : 4.00
Rating : BUY
Stock : TSR
Price : 2.74
Target Price : 4.00
Rating : BUY
ปีนี้สดใสด้วยกลยุทธ์การขายที่เข้มข้น
แนวโน้มสดใสจากการปรับกลยุทธ์งานขายด้วย Online to Offline
จากงาน Opp. Day วานนี้ เราสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1) ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโต 39.7%YoY จากแนวโน้มที่ยังสดใสของยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งผู้บริหารมีแผนเพิ่มสัดส่วนยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้ไว้มากกว่า 20% จากปี 2560 ที่ 14% โดยมีแรงหนุนจากแผนเพิ่มช่องทางขายผ่านสื่อออนไลน์ ภายใต้โครงการผ่อนสบาย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคที่ไม่มีบัตรเครดิต พร้อมกับแผนเพิ่มบุคลากรด้านการขาย ทั้งการเพิ่มพนักงานขายทางโทรศัพท์ของบริษัทเอง (ปีนี้จะเพิ่มอีก 80 คน เป็น 150 คน) และการเพิ่มพนักงานขายทางโทรศัพท์ภายนอกบริษัทอีก 3-4 Outsource 2) ค่าใช้จ่ายหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญมีแนวโน้มลดลง หลังบริษัทใช้ระบบการตามหนี้ใหม่ตั้งแต่ช่วง 3Q60 โดยเพิ่มกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นไว้ดังนี้ Welcome Call, Tele-Collection และ Outsource Agency ซึ่งบริษัทตั้งเป้าลดสัดส่วนลูกหนี้ค้างชำระที่เกิน 3 เดือน ไม่ให้สูงกว่า 5% จากสิ้นปี 2560 ที่ 6.94% 3) อัพเดท TSR Lao (TSR ถือ 49%) โครงการ JV เพื่อรุกตลาดประเทศลาวพบว่าแนวโน้มยอดขายเครื่องกรองน้ำดีขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายเครื่องกรองน้ำ 200 เครื่อง/เดือน และตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 400 เครื่อง/เดือน และ 4) อัพเดทแผนรุกตลาดประเทศกัมพูชาปัจจุบัน TSR มีตัวแทนจำหน่ายสินค้า 1 ราย และบริษัทได้เริ่มจำหน่ายสินค้าเครื่องกรองน้ำตั้งแต่ช่วง 2H60
จากงาน Opp. Day วานนี้ เราสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1) ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโต 39.7%YoY จากแนวโน้มที่ยังสดใสของยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งผู้บริหารมีแผนเพิ่มสัดส่วนยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้ไว้มากกว่า 20% จากปี 2560 ที่ 14% โดยมีแรงหนุนจากแผนเพิ่มช่องทางขายผ่านสื่อออนไลน์ ภายใต้โครงการผ่อนสบาย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคที่ไม่มีบัตรเครดิต พร้อมกับแผนเพิ่มบุคลากรด้านการขาย ทั้งการเพิ่มพนักงานขายทางโทรศัพท์ของบริษัทเอง (ปีนี้จะเพิ่มอีก 80 คน เป็น 150 คน) และการเพิ่มพนักงานขายทางโทรศัพท์ภายนอกบริษัทอีก 3-4 Outsource 2) ค่าใช้จ่ายหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญมีแนวโน้มลดลง หลังบริษัทใช้ระบบการตามหนี้ใหม่ตั้งแต่ช่วง 3Q60 โดยเพิ่มกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นไว้ดังนี้ Welcome Call, Tele-Collection และ Outsource Agency ซึ่งบริษัทตั้งเป้าลดสัดส่วนลูกหนี้ค้างชำระที่เกิน 3 เดือน ไม่ให้สูงกว่า 5% จากสิ้นปี 2560 ที่ 6.94% 3) อัพเดท TSR Lao (TSR ถือ 49%) โครงการ JV เพื่อรุกตลาดประเทศลาวพบว่าแนวโน้มยอดขายเครื่องกรองน้ำดีขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายเครื่องกรองน้ำ 200 เครื่อง/เดือน และตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 400 เครื่อง/เดือน และ 4) อัพเดทแผนรุกตลาดประเทศกัมพูชาปัจจุบัน TSR มีตัวแทนจำหน่ายสินค้า 1 ราย และบริษัทได้เริ่มจำหน่ายสินค้าเครื่องกรองน้ำตั้งแต่ช่วง 2H60
ปีนี้คาดกำไรโตเด่นจากนโยบายคุมเข้มสินเชื่อและกลยุทธ์ด้านการขายที่เข้มข้น
เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อ TSR ด้วยแรงหนุนจาก 1) แผนเพิ่มพนักงาน Telesales เพื่อรองรับการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าด้วยสื่อออนไลน์ 2) แผนเพิ่มทีมขายเพื่อรุกตลาดประเทศลาวให้เข้มข้นขึ้น และ 3) นโยบายคุมเข้มสินเชื่อเพื่อลดค่าใช้จ่ายหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญ ดังนั้นเราจึงคงประมาณการเดิม โดยคาดปี 2561 TSR จะมีกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท เติบโต 53.8%YoY
เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อ TSR ด้วยแรงหนุนจาก 1) แผนเพิ่มพนักงาน Telesales เพื่อรองรับการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าด้วยสื่อออนไลน์ 2) แผนเพิ่มทีมขายเพื่อรุกตลาดประเทศลาวให้เข้มข้นขึ้น และ 3) นโยบายคุมเข้มสินเชื่อเพื่อลดค่าใช้จ่ายหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญ ดังนั้นเราจึงคงประมาณการเดิม โดยคาดปี 2561 TSR จะมีกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท เติบโต 53.8%YoY
คงแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าพื้นฐานปี 61 ที่ 4.0 บาท มี Upside 46.0%
เพื่อสะท้อนแนวโน้มกำไรปีนี้ที่จะกลับมาโตสดใส จากนโยบายคุมเข้มสินเชื่อและการเพิ่มความเข้มข้นในกลยุทธ์ด้านการขาย อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 46.0% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2561 ที่ 4.0 บาท (อิง PER 22x และ Fully diluted EPS จากการใช้สิทธิ์ TSR-W1) และมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2560 ที่ 0.08 บาท/หุ้น คิดเป็น Div.Yield 2.9% (XD 4 พ.ค. และจ่ายปันผล 25 พ.ค. นี้) จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
เพื่อสะท้อนแนวโน้มกำไรปีนี้ที่จะกลับมาโตสดใส จากนโยบายคุมเข้มสินเชื่อและการเพิ่มความเข้มข้นในกลยุทธ์ด้านการขาย อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 46.0% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2561 ที่ 4.0 บาท (อิง PER 22x และ Fully diluted EPS จากการใช้สิทธิ์ TSR-W1) และมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2560 ที่ 0.08 บาท/หุ้น คิดเป็น Div.Yield 2.9% (XD 4 พ.ค. และจ่ายปันผล 25 พ.ค. นี้) จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
บล.เออีซี : Action Strategy
MARKET OUTLOOK
แกว่งตัวออกข้าง รอเลือกทาง! .. ดัชนี SET วานนี้เปิดโดดบวกกว่า 7 จุด และแกว่งตัวออกข้างในลักษณะ Sideway down โดยแกว่งตัวยืนแดนบวกในช่วงเช้า ก่อนเจอแรงขายกดดันช่วงบ่าย ส่งผลช่วงบวกแคบลง ปิดสิ้นวันที่ระดับดัชนี 1,802.58 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 1.48 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายราว 6.1 หมื่นล้านบาท ภาพรวมตลาด ยังไม่บ่งชี้แนวโน้มที่ชัดเจนทั้งทางขึ้น และทางลง โดยในกราฟ 120 นาที ดัชนี SET ยังคงแกว่งตัวออกข้างต่อหลังไม่ผ่านแนวต้าน 1,810 จุด ขณะที่ ADX ชี้ลงต่ำกว่า 20% เช่นเดียวกันกับ RSI โค้งลงในเขต Neutral Zone(RSI50%,?10%) ปัจจัยทางเทคนิคข้างต้นล้วนบ่งบอกถึงการขาดแนวโน้มที่ชัดเจน ทำให้เรามีมุมมองต่อ SET ในวันนี้ แกว่งตัวในกรอบ Sideway 1,790-1,810 จุด สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำซื้อ ด้วยกลยุทธ์ ซื้อแนวรับ-ขายแนวต้าน โดยมีแนวรับรอบนี้บริเวณ 1,790-1,795 จุด คาดหวังรีบาวด์แนวต้าน 1,810 จุด อย่างไรก็ดี Stop Loss หาก SET วกกลับเทรดต่ำกว่า 1,785 จุด สำหรับนักลงทุนระยะกลางยังคงแนะนำถือเงินสดต่อ
แกว่งตัวออกข้าง รอเลือกทาง! .. ดัชนี SET วานนี้เปิดโดดบวกกว่า 7 จุด และแกว่งตัวออกข้างในลักษณะ Sideway down โดยแกว่งตัวยืนแดนบวกในช่วงเช้า ก่อนเจอแรงขายกดดันช่วงบ่าย ส่งผลช่วงบวกแคบลง ปิดสิ้นวันที่ระดับดัชนี 1,802.58 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 1.48 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายราว 6.1 หมื่นล้านบาท ภาพรวมตลาด ยังไม่บ่งชี้แนวโน้มที่ชัดเจนทั้งทางขึ้น และทางลง โดยในกราฟ 120 นาที ดัชนี SET ยังคงแกว่งตัวออกข้างต่อหลังไม่ผ่านแนวต้าน 1,810 จุด ขณะที่ ADX ชี้ลงต่ำกว่า 20% เช่นเดียวกันกับ RSI โค้งลงในเขต Neutral Zone(RSI50%,?10%) ปัจจัยทางเทคนิคข้างต้นล้วนบ่งบอกถึงการขาดแนวโน้มที่ชัดเจน ทำให้เรามีมุมมองต่อ SET ในวันนี้ แกว่งตัวในกรอบ Sideway 1,790-1,810 จุด สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำซื้อ ด้วยกลยุทธ์ ซื้อแนวรับ-ขายแนวต้าน โดยมีแนวรับรอบนี้บริเวณ 1,790-1,795 จุด คาดหวังรีบาวด์แนวต้าน 1,810 จุด อย่างไรก็ดี Stop Loss หาก SET วกกลับเทรดต่ำกว่า 1,785 จุด สำหรับนักลงทุนระยะกลางยังคงแนะนำถือเงินสดต่อ
STRATEGY
นักลงทุนระยะสั้น : นักเก็งกำไรแนะนำซื้อ โดยมีแนวรับ 1,790-1,795 จุด แนวต้าน 1,810 จุด Cut Loss หากหลุด 1,785 จุด
นักลงทุนระยะกลาง : แนะนำถือเงินสดต่อ รอสัญญาณความชัดเจนของภาวะกระทิง (Bullish Trend)
นักลงทุนระยะสั้น : นักเก็งกำไรแนะนำซื้อ โดยมีแนวรับ 1,790-1,795 จุด แนวต้าน 1,810 จุด Cut Loss หากหลุด 1,785 จุด
นักลงทุนระยะกลาง : แนะนำถือเงินสดต่อ รอสัญญาณความชัดเจนของภาวะกระทิง (Bullish Trend)
SECTOR FOCUS
SECTOR FOCUS รีบาวด์ในกรอบ Sideway Up! Sector Focus วันนี้เลือกกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (CONMAT) เป็นกลุ่มที่จะรีบาวด์ต่อ โดยกราฟรายวัน ดัชนีเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideway Up ประกอบกับทางเทคนิคเกิดสัญญาณเชิงบวกทั้ง จาก Modified Stochastic ที่ให้สัญญาณการกลับตัวจาก Bullish Divergence และ MACD ที่ยืนเหนือค่าศูนย์เริ่มโค้งตัวขึ้น ทำให้เรามองว่ากลุ่ม CONMAT จะแกว่งตัวไปต่อ โดยมีแนวต้านเส้น Downward Slope รอทดสอบอยู่ ทั้งนี้มี TOP PICK ดังนี้ (EPG : แนวรับ 6.85 บาท/แนวต้าน 8.30 บาท , SCC : แนวรับ 498 บาท/แนวต้าน 512 บาท)
SECTOR FOCUS รีบาวด์ในกรอบ Sideway Up! Sector Focus วันนี้เลือกกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (CONMAT) เป็นกลุ่มที่จะรีบาวด์ต่อ โดยกราฟรายวัน ดัชนีเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideway Up ประกอบกับทางเทคนิคเกิดสัญญาณเชิงบวกทั้ง จาก Modified Stochastic ที่ให้สัญญาณการกลับตัวจาก Bullish Divergence และ MACD ที่ยืนเหนือค่าศูนย์เริ่มโค้งตัวขึ้น ทำให้เรามองว่ากลุ่ม CONMAT จะแกว่งตัวไปต่อ โดยมีแนวต้านเส้น Downward Slope รอทดสอบอยู่ ทั้งนี้มี TOP PICK ดังนี้ (EPG : แนวรับ 6.85 บาท/แนวต้าน 8.30 บาท , SCC : แนวรับ 498 บาท/แนวต้าน 512 บาท)
STOCK HUNTER
Point of view ยกโลว์แล้ว รอยกไฮ! Stock Hunter วันนี้เลือก THG ราคาขยับดีดตัวขึ้นจากแนวรับกรอบล่างของ Uptrend Channel โดยในกราฟรายวัน ทางเทคนิคเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวก เช่น การที่ MACD ยืนเหนือ Signal Line เคลื่อนตัวเข้าใกล้ค่า ประกอบกับการเคลื่อนไหวของราคายกจุดต่ำสูงขึ้น Higher Low บ่งชี้ถึงการไต่ราคาในแนวโน้มขาขึ้น เรามองว่า THG จะรีบาวด์ขึ้นต่อไป โดยมีแนวต้านรอทดสอบที่ 37.25 บาท และมีเป้าหมายที่กรอบบนของ Uptrend Channel บริเวณ 40.00 บาท ให้แนวรับ 34.25 บาท และ Stop Loss หากหลุด 33.00 บาท
Point of view ยกโลว์แล้ว รอยกไฮ! Stock Hunter วันนี้เลือก THG ราคาขยับดีดตัวขึ้นจากแนวรับกรอบล่างของ Uptrend Channel โดยในกราฟรายวัน ทางเทคนิคเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวก เช่น การที่ MACD ยืนเหนือ Signal Line เคลื่อนตัวเข้าใกล้ค่า ประกอบกับการเคลื่อนไหวของราคายกจุดต่ำสูงขึ้น Higher Low บ่งชี้ถึงการไต่ราคาในแนวโน้มขาขึ้น เรามองว่า THG จะรีบาวด์ขึ้นต่อไป โดยมีแนวต้านรอทดสอบที่ 37.25 บาท และมีเป้าหมายที่กรอบบนของ Uptrend Channel บริเวณ 40.00 บาท ให้แนวรับ 34.25 บาท และ Stop Loss หากหลุด 33.00 บาท
อิศรา เลิศสุดคนึง (เลขทะเบียน 033432) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: วานนี้ฝรั่งขายทั้ง 2 ตลาดติดต่อเป็นวันที่สอง!!!
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดบวกด้วย % ใกล้เคียงกับ Spot ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า 0.16 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.5 จุด สูงกว่า Theory Basis ที่ +0.05 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกในระยะสั้น (<1 สัปดาห์) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index โดย S50H18 จะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 29 มี.ค. นี้ ซึ่งจะทำให้ค่า Basis ดังกล่าวเข้าใกล้ค่าศูนย์ ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ลดลงจากวันทำการก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -4.6 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -7.09 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกในระยะกลาง (3 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดบวกด้วย % ใกล้เคียงกับ Spot ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า 0.16 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.5 จุด สูงกว่า Theory Basis ที่ +0.05 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกในระยะสั้น (<1 สัปดาห์) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index โดย S50H18 จะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 29 มี.ค. นี้ ซึ่งจะทำให้ค่า Basis ดังกล่าวเข้าใกล้ค่าศูนย์ ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ลดลงจากวันทำการก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -4.6 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -7.09 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกในระยะกลาง (3 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.80x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.84x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.14x เท่ากับวันก่อนหน้า ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI อยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Net Short 9,852 สัญญา ใน Index Futures พร้อมกับขายสุทธิในตลาดหุ้น 41 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เพิ่มเป็น 59,414 ล้านบาท
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Net Short 9,852 สัญญา ใน Index Futures พร้อมกับขายสุทธิในตลาดหุ้น 41 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เพิ่มเป็น 59,414 ล้านบาท
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: เล่นสั้น Trading Short ในกรอบ Sideway!!!
เมื่อวานนี้ S50M18 แกว่งทรงตัวจนปิด +0.3 จุด ซึ่งนอกจากราคาปัจจุบันจะยังคงไม่ทะลุผ่านแนวต้านกรอบบน Sideway ที่ 1,190 จุด ราคาปัจจุบันยังคงเข้าค่าเฉลี่ยของกรอบ Bollinger Band พร้อมกับ Indicator ส่วนใหญ่ในกราฟ 120 นาที ก็ไม่ได้บ่งชี้ถึงเทรนด์และโมเมนตัมขาขึ้นหรือขาลงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น RSI ที่แกว่งขึ้นลงในกรอบ Neutral Zone 40%-60% เช่นเดียวกับ MACD และ Signal แกว่งตรงค่าศูนย์ ส่งผลให้เรายังคงมุมมองเดิมว่า S50M18 ยังคงมีแนวโน้มแกว่งในกรอบ Sideway 1,160-1,190 จุด เพียงแต่ปัจจุบันเริ่มทำ Black Candlesticks ตรงกรอบบบน Sideway ดังกล่าว
เมื่อวานนี้ S50M18 แกว่งทรงตัวจนปิด +0.3 จุด ซึ่งนอกจากราคาปัจจุบันจะยังคงไม่ทะลุผ่านแนวต้านกรอบบน Sideway ที่ 1,190 จุด ราคาปัจจุบันยังคงเข้าค่าเฉลี่ยของกรอบ Bollinger Band พร้อมกับ Indicator ส่วนใหญ่ในกราฟ 120 นาที ก็ไม่ได้บ่งชี้ถึงเทรนด์และโมเมนตัมขาขึ้นหรือขาลงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น RSI ที่แกว่งขึ้นลงในกรอบ Neutral Zone 40%-60% เช่นเดียวกับ MACD และ Signal แกว่งตรงค่าศูนย์ ส่งผลให้เรายังคงมุมมองเดิมว่า S50M18 ยังคงมีแนวโน้มแกว่งในกรอบ Sideway 1,160-1,190 จุด เพียงแต่ปัจจุบันเริ่มทำ Black Candlesticks ตรงกรอบบบน Sideway ดังกล่าว
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: Trading Short เพราะ S50M18 มีแนวโน้มจะแกว่งตัวลงเมื่อเข้าใกล้แนวต้าน 1,190 จุด คาดหวังย่อเข้าใกล้แนวรับ 1,160 จุด พร้อมกับตั้ง Stop Loss หากทะลุ 1,195 จุด
Outright Trading: Trading Short เพราะ S50M18 มีแนวโน้มจะแกว่งตัวลงเมื่อเข้าใกล้แนวต้าน 1,190 จุด คาดหวังย่อเข้าใกล้แนวรับ 1,160 จุด พร้อมกับตั้ง Stop Loss หากทะลุ 1,195 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Trading Idea: THG
Trading Idea: THG
Connect the World- (P.2)
สหรัฐฯ ปิดลบหลังมีข่าวอุบัติเหตุรถยนต์ของ Tesla และประเด็น Data Privacy
สหรัฐฯ ปิดลบหลังมีข่าวอุบัติเหตุรถยนต์ของ Tesla และประเด็น Data Privacy
Market Outlook
วันนี้คาด SET Index แกว่งตัวไซด์เวย์กรอบแคบระหว่าง 1,790-1,815 จุด ระหว่างรอปัจจัยหนุนใหม่และคาดแรงซื้อทำปิด Window Dressing จะยังช่วยประคองดัชนีในสัปดาห์นี้
วันนี้คาด SET Index แกว่งตัวไซด์เวย์กรอบแคบระหว่าง 1,790-1,815 จุด ระหว่างรอปัจจัยหนุนใหม่และคาดแรงซื้อทำปิด Window Dressing จะยังช่วยประคองดัชนีในสัปดาห์นี้
Market Factors
(-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -1.43%DoD จากแรงขายหุ้นเทคโนโลยีหลังมีรายงาน FTC กำลังเดินหน้าสอบสวนเฟซบุ๊กกรณีการรั่งไหลของข้อมูลผู้ใช้บริการ
(-) ตลาดน้ำมัน WTI ปิด -0.5%DoD หลังคาดสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯ จะปรับขึ้น
(-) คสช. สั่งทบทวนมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล-ค่ายมือถือคลื่น 900MHz
(+/-) บ่ายนี้ติดตามผลประชุมนโยบายการเงินของ กนง. ซึ่งตลาดคาดยังคงดอกเบี้ยที่ 1.5%
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.ที่สำคัญของสหรัฐฯ อาทิ GDP 4Q60, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ก.พ., สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์จาก EIA
(-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -1.43%DoD จากแรงขายหุ้นเทคโนโลยีหลังมีรายงาน FTC กำลังเดินหน้าสอบสวนเฟซบุ๊กกรณีการรั่งไหลของข้อมูลผู้ใช้บริการ
(-) ตลาดน้ำมัน WTI ปิด -0.5%DoD หลังคาดสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯ จะปรับขึ้น
(-) คสช. สั่งทบทวนมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล-ค่ายมือถือคลื่น 900MHz
(+/-) บ่ายนี้ติดตามผลประชุมนโยบายการเงินของ กนง. ซึ่งตลาดคาดยังคงดอกเบี้ยที่ 1.5%
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.ที่สำคัญของสหรัฐฯ อาทิ GDP 4Q60, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ก.พ., สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์จาก EIA
Investment Strategy
แม้ช่วงสั้นภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกยังถูกกดดันจากความกังวลการเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่จะมีต่อ ศก. ทั่วโลกแต่มองปัจจัยพื้นฐานของ ศก.ไทยยังแข็งแกร่ง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy โดยเน้นซื้อแนวรับ" ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะดังนี้
1) หุ้นที่มีโอกาสเป็นเป้าหมายในการทำปิดWindow Dressing : PTT, PTTGC, PTTEP, CPN, ROBINS, CENTEL, MINT, ERW
2) หุ้นกลุ่มการเงินซึ่งคาดได้อานิสงส์จาก กนง. ยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% : SAWAD, S11, TK, ASK
3) หุ้นได้ประโยชน์โครงการลงทุนภาครัฐและ EEC : CK, SEAFCO, SYNTEC, WHA, ROJNA
4) หุ้นที่จ่ายปันผลสูงซึ่งเดือน เม.ย.-พ.ค. นี้ จะขึ้น XD โดยให้ Div. Yield เกิน 3% : KKP, AIT, SC, AP, LH
แม้ช่วงสั้นภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกยังถูกกดดันจากความกังวลการเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่จะมีต่อ ศก. ทั่วโลกแต่มองปัจจัยพื้นฐานของ ศก.ไทยยังแข็งแกร่ง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy โดยเน้นซื้อแนวรับ" ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะดังนี้
1) หุ้นที่มีโอกาสเป็นเป้าหมายในการทำปิดWindow Dressing : PTT, PTTGC, PTTEP, CPN, ROBINS, CENTEL, MINT, ERW
2) หุ้นกลุ่มการเงินซึ่งคาดได้อานิสงส์จาก กนง. ยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% : SAWAD, S11, TK, ASK
3) หุ้นได้ประโยชน์โครงการลงทุนภาครัฐและ EEC : CK, SEAFCO, SYNTEC, WHA, ROJNA
4) หุ้นที่จ่ายปันผลสูงซึ่งเดือน เม.ย.-พ.ค. นี้ จะขึ้น XD โดยให้ Div. Yield เกิน 3% : KKP, AIT, SC, AP, LH
Fundamental Reports
TSR ([email protected]) จากงาน Opp.Day วานนี้เราคงคาดปี 61 กำไรจะพลิกกลับมาโตเด่น53.8%YoY จากนโยบายคุมเข้มสินเชื่อและกลยุทธ์ด้านการขายที่เข้มข้น + ราคาหุ้นยังมีUpside 46.0% และมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 60 ที่ 0.08 บาท/หุ้นคิดเป็น Div.Yield 2.9% (XD 4 พ.ค. และจ่ายปันผล 25 พ.ค. นี้) จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
TSR ([email protected]) จากงาน Opp.Day วานนี้เราคงคาดปี 61 กำไรจะพลิกกลับมาโตเด่น53.8%YoY จากนโยบายคุมเข้มสินเชื่อและกลยุทธ์ด้านการขายที่เข้มข้น + ราคาหุ้นยังมีUpside 46.0% และมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 60 ที่ 0.08 บาท/หุ้นคิดเป็น Div.Yield 2.9% (XD 4 พ.ค. และจ่ายปันผล 25 พ.ค. นี้) จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
Market Talk and News
BCH ([email protected]): ช่วง 1Q61-2Q61 คาดกำไรโต YoY เด่นสุดในกลุ่มจากรับรู้ผลเต็มปีขึ้นค่าบริการประกันสังคมบวกกับมีกำลังให้บริการที่เพิ่มขึ้นและการระบาดของโรคต่างๆในช่วงต้นปีหนุนอัตราใช้บริการกลุ่มเงินสดอีกทั้งWMC คาดผลดำเนินงานดีขึ้นต่อเนื่องหนุนปี 61 คาดกำไรโต 14.8%YoY + Upside 10% และมีปันผล 0.12 บาท (XD 9 พ.ค.)
BCH ([email protected]): ช่วง 1Q61-2Q61 คาดกำไรโต YoY เด่นสุดในกลุ่มจากรับรู้ผลเต็มปีขึ้นค่าบริการประกันสังคมบวกกับมีกำลังให้บริการที่เพิ่มขึ้นและการระบาดของโรคต่างๆในช่วงต้นปีหนุนอัตราใช้บริการกลุ่มเงินสดอีกทั้งWMC คาดผลดำเนินงานดีขึ้นต่อเนื่องหนุนปี 61 คาดกำไรโต 14.8%YoY + Upside 10% และมีปันผล 0.12 บาท (XD 9 พ.ค.)
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก CPALL, SYMC
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก CPALL, SYMC
AECS - Fundamental and Strategic Team
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO7161