- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Thursday, 22 March 2018 16:50
- Hits: 2751
บล.เออีซี : Action Strategy
MARKET OUTLOOK
ยังแกว่งตัวออกข้างต่อไป! .. ดัชนี SET วานนี้บวกแรงช่วงเปิดตลาดภาคเช้า ก่อนดัชนีเคลื่อนไหวลักษณะ Sideway Down ส่งผลให้ช่วงบวกลดลง โดยดัชนีปิดสิ้นวันที่ระดับดัชนี 1,801.43 จุดปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 1.59 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท ภาพรวมตลาดเป็นลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบ Sideway โดยในกราฟ 120 นาที สัญญาณเชิงลบทางเทคนิคยังคงอยู่ ทั้งจากเครื่องมือที่บ่งบอกแนวโน้มอย่าง ADX ยังไม่บ่งชี้ถึงภาวะ Bullish และ Bearish ของตลาด ขณะที่ RSI กลับหัวชี้ต่ำลงเข้าสู่ Neutral Zone (RSI ? 50) ทำให้เรายังคงมุมมองเดิมว่า วันนี้มีโอกาสที่ดัชนี SET พักตัวต่อเนื่อง โดยมองว่า SET ไม่น่าจะดีดตัวผ่านแนวต้าน 1,810 จุดได้ และจะย่อตัวหาแนวรับ 1,790-1,795 จุด อย่างไรก็ดี SET ยังทิ้ง GAP UP ไว้ที่ดัชนี 1,775 จุด ฉะนั้น Cut Loss หากดัชนีหลุด 1,785 จุด
STRATEGY
นักลงทุนระยะสั้น : นักเก็งกำไรที่มีหุ้น แนะนำขายถือเงินสดหาก SET รีบาวด์แนวต้าน 1,810 จุด หรือ Cut Loss หากหลุด 1,785 จุด ส่วนกรณีไม่มีหุ้น แนะนำถือเงินสดก่อนรอสัญญาณการกลับตัว
นักลงทุนระยะกลาง : สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นขายถือเงินสด หาก SET รีบาวด์โดยมีแนวต้าน 1,810 จุด หรือ Cut Loss หากหลุด 1,785 จุด กรณีไม่มีหุ้น แนะนำถือเงินสด รอดัชนีปรับฐานเสร็จ
นักลงทุนระยะสั้น : นักเก็งกำไรที่มีหุ้น แนะนำขายถือเงินสดหาก SET รีบาวด์แนวต้าน 1,810 จุด หรือ Cut Loss หากหลุด 1,785 จุด ส่วนกรณีไม่มีหุ้น แนะนำถือเงินสดก่อนรอสัญญาณการกลับตัว
นักลงทุนระยะกลาง : สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นขายถือเงินสด หาก SET รีบาวด์โดยมีแนวต้าน 1,810 จุด หรือ Cut Loss หากหลุด 1,785 จุด กรณีไม่มีหุ้น แนะนำถือเงินสด รอดัชนีปรับฐานเสร็จ
SECTOR FOCUS
SECTOR FOCUS ก่อสร้างเหมือนจะฟื้นตัว! Sector Focus วันนี้เลือกกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CONS) เป็นกลุ่มที่ดีดตัวขึ้นจาก Bottom โดยกราฟ 120 นาที แสดงให้เห็นว่าดัชนีเริ่มยกจุดต่ำสูงขึ้น (Higher Low) ประกอบกับทางเทคนิคเกิดสัญญาณกลับตัวแนวโน้ม Bullish Divergence จาก RSI และ MACD เริ่มโค้งตัวขึ้น เข้าใกล้เส้นศูนย์ จากเหตุผลข้างต้น ทำให้เรามองว่า กลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะดีดตัวไปต่อได้วันนี้ โดยมี TOP PICK ดังนี้ (STEC : แนวรับ 18.90 บาท/แนวต้าน 23 บาท , UNIQ : แนวรับ 13.10 บาท/แนวต้าน 15.50 บาท
SECTOR FOCUS ก่อสร้างเหมือนจะฟื้นตัว! Sector Focus วันนี้เลือกกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CONS) เป็นกลุ่มที่ดีดตัวขึ้นจาก Bottom โดยกราฟ 120 นาที แสดงให้เห็นว่าดัชนีเริ่มยกจุดต่ำสูงขึ้น (Higher Low) ประกอบกับทางเทคนิคเกิดสัญญาณกลับตัวแนวโน้ม Bullish Divergence จาก RSI และ MACD เริ่มโค้งตัวขึ้น เข้าใกล้เส้นศูนย์ จากเหตุผลข้างต้น ทำให้เรามองว่า กลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะดีดตัวไปต่อได้วันนี้ โดยมี TOP PICK ดังนี้ (STEC : แนวรับ 18.90 บาท/แนวต้าน 23 บาท , UNIQ : แนวรับ 13.10 บาท/แนวต้าน 15.50 บาท
STOCK HUNTER
Point of view โค้งตัวขึ้นสวยๆ! Stock Hunter วันนี้เลือก KSL หลังจากดีดตัวขึ้นจาก Bottom เริ่มเห็นสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม โดยในกราฟรายวัน เกิดสัญญาณเชิงบวกสนับสนุนทั้งสัญญาณ Bullish Divergence (กลับตัวจากลงเป็นขึ้น) จาก RSI ขณะเดียวกัน MACD > Signal Line ประกอบกับแท่งเทียนล่าสุดทำ Bullish Engulfing กลืนแท่งก่อนหน้า การเคลื่อนไหวราคาเป็นรูปแบบคล้ายลักษณะ Rounding Bottom โดยเรามองว่า KSL มีโอกาสรีบาวด์ไปต่อได้ โดยมีเป้าหมาย 4.20 บาท ให้แนวรับ 3.74 บาท ทั้งนี้ Stop Loss หากหลุด 3.64 บาท
Point of view โค้งตัวขึ้นสวยๆ! Stock Hunter วันนี้เลือก KSL หลังจากดีดตัวขึ้นจาก Bottom เริ่มเห็นสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม โดยในกราฟรายวัน เกิดสัญญาณเชิงบวกสนับสนุนทั้งสัญญาณ Bullish Divergence (กลับตัวจากลงเป็นขึ้น) จาก RSI ขณะเดียวกัน MACD > Signal Line ประกอบกับแท่งเทียนล่าสุดทำ Bullish Engulfing กลืนแท่งก่อนหน้า การเคลื่อนไหวราคาเป็นรูปแบบคล้ายลักษณะ Rounding Bottom โดยเรามองว่า KSL มีโอกาสรีบาวด์ไปต่อได้ โดยมีเป้าหมาย 4.20 บาท ให้แนวรับ 3.74 บาท ทั้งนี้ Stop Loss หากหลุด 3.64 บาท
อิศรา เลิศสุดคนึง (เลขทะเบียน 033432) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ฝรั่งขายทั้ง 2 ตลาด!!!
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดบวกขณะที่ Spot ปิดลบ ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า +2.57 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +2.70 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +0.28 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกในระยะสั้น (<1 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ลดลงจากวันทำการก่อนหน้า 0.6 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.7 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -7.1 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกในระยะกลาง (3 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.05x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.02x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.19x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI อยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Net Short 596 สัญญา ใน Index Futures พร้อมกับขายสุทธิในตลาดหุ้น 1,077 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เพิ่มเป็น 58,578 ล้านบาท
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดบวกขณะที่ Spot ปิดลบ ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า +2.57 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +2.70 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +0.28 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกในระยะสั้น (<1 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ลดลงจากวันทำการก่อนหน้า 0.6 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.7 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -7.1 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกในระยะกลาง (3 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.05x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.02x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.19x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI อยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Net Short 596 สัญญา ใน Index Futures พร้อมกับขายสุทธิในตลาดหุ้น 1,077 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เพิ่มเป็น 58,578 ล้านบาท
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: คาดแกว่งในกรอบ Sideway!!!
เมื่อวานนี้ S50H18 เปิดบวกแล้วแกว่งลง จนลดช่วงบวกลงปิด +1.7 จุด โดยในกราฟ 120 นาที ดัชนีคงเทรดบริเวณค่าเฉลี่ยในกรอบ Bollinger Band ส่งผลให้เราคงคาดว่าช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ S50H18 จะแกว่งในกรอบ Sideway 1,170-1,200 จุด ตามกรอบการเคลื่อนไหวเดิม สนับสนุนมุมมองด้วย ADX ที่ยังคงต่ำกว่า 20% แสดงให้เห็นถึงการขาดทั้งเทรนด์ขาขึ้นและลง พร้อมกับ RSI ปรับตัวลงเข้าหาเขต Neutral Zone (=50%)
เมื่อวานนี้ S50H18 เปิดบวกแล้วแกว่งลง จนลดช่วงบวกลงปิด +1.7 จุด โดยในกราฟ 120 นาที ดัชนีคงเทรดบริเวณค่าเฉลี่ยในกรอบ Bollinger Band ส่งผลให้เราคงคาดว่าช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ S50H18 จะแกว่งในกรอบ Sideway 1,170-1,200 จุด ตามกรอบการเคลื่อนไหวเดิม สนับสนุนมุมมองด้วย ADX ที่ยังคงต่ำกว่า 20% แสดงให้เห็นถึงการขาดทั้งเทรนด์ขาขึ้นและลง พร้อมกับ RSI ปรับตัวลงเข้าหาเขต Neutral Zone (=50%)
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: Trading ในกรอบ Sideway ด้วยกลยุทธ์ Trading Long เมื่อ S50H18 ย่อเข้าใกล้แนวรับ 1,170 จุด และ Trading Short เมื่อ S50H18 ขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน 1,200 จุด พร้อมกับตั้ง Stop Loss หากทะลุกรอบมากกว่า 5 จุด
*** ระวัง S50H18 จะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 29 มี.ค. นี้ ***
Outright Trading: Trading ในกรอบ Sideway ด้วยกลยุทธ์ Trading Long เมื่อ S50H18 ย่อเข้าใกล้แนวรับ 1,170 จุด และ Trading Short เมื่อ S50H18 ขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน 1,200 จุด พร้อมกับตั้ง Stop Loss หากทะลุกรอบมากกว่า 5 จุด
*** ระวัง S50H18 จะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 29 มี.ค. นี้ ***
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Trading Idea: KSL
Trading Idea: KSL
Connect the World- (P.2)
เฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 62 โต 2.7%YoY
เฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 62 โต 2.7%YoY
Market Outlook
วันนี้คาด SET ยังคงแกว่งตัวกรอบ 1,790-1,810 จุด โดยดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นหลังเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องและเมื่อคืนนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตามคาด
วันนี้คาด SET ยังคงแกว่งตัวกรอบ 1,790-1,810 จุด โดยดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นหลังเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องและเมื่อคืนนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตามคาด
Market Factors
(-) ตลาดหุ้นDJIA ปิด -0.18%DoDหลังเฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ตามคาดและยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้
(+) ตลาดน้ำมัน WTI ปิด +2.6%DoDหลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงสวนทางคาด
(+) ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ก.พ. 61 โต 4.05%YoY มาที่ 102,217 คัน
(+) กระทรวงพาณิชย์เผยส่งออก ก.พ. โต 10.3% นำเข้าโต 16% เกินดุล 807 ล้านเหรียญฯ
(-) ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย ก.พ.อยู่ที่ 89.9 ลดลงครั้งแรกในรอบ4 เดือนหลังผู้ประกอบการ SMEs กังวลต่อค่าจ้างขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นและบาทที่ผันผวน
(0) วันนี้ CHAYO เข้าเทรด MAI วันแรก โดยมี IPO 140 ล้านหุ้น และราคา IPO 2.88 บาท
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.ที่สำคัญ อาทิดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น มี.ค. ของสหรัฐฯ และประเทศในกลุ่มยูโรโซน, ผลประชุมนโยบายการเงินของ BoE
(-) ตลาดหุ้นDJIA ปิด -0.18%DoDหลังเฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ตามคาดและยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้
(+) ตลาดน้ำมัน WTI ปิด +2.6%DoDหลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงสวนทางคาด
(+) ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ก.พ. 61 โต 4.05%YoY มาที่ 102,217 คัน
(+) กระทรวงพาณิชย์เผยส่งออก ก.พ. โต 10.3% นำเข้าโต 16% เกินดุล 807 ล้านเหรียญฯ
(-) ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย ก.พ.อยู่ที่ 89.9 ลดลงครั้งแรกในรอบ4 เดือนหลังผู้ประกอบการ SMEs กังวลต่อค่าจ้างขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นและบาทที่ผันผวน
(0) วันนี้ CHAYO เข้าเทรด MAI วันแรก โดยมี IPO 140 ล้านหุ้น และราคา IPO 2.88 บาท
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.ที่สำคัญ อาทิดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น มี.ค. ของสหรัฐฯ และประเทศในกลุ่มยูโรโซน, ผลประชุมนโยบายการเงินของ BoE
Investment Strategy
แม้ภาพตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวนจากกังวลปัญหาการเมืองของสหรัฐฯ และรอดูผลประชุมนโยบายการเงินของเฟดแต่ด้วยพื้นฐานศก.ไทยยังมีความแข็งแกร่งและส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน จึงทำให้เราคงแนะนำกลยุทธ์"Selective Buy"หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งได้อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวสูงและดีมานด์น้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น : PTT, PTTEP, PTTGC
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กสทช. เล็งเสนอ ครม. ออกมาตรการผ่อนผันจ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น 900MHZ และพักค่าธรรมเนียมทีวีดิจิทัล : TRUE, ADVANC, MONO, RS
3) หุ้นโรงแรมได้อานิสงส์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังแข็งแกร่ง โดยช่วง ม.ค.- ก.พ. 61 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยเติบโตถึง 14.9%YoY : MINT, ERW
4) หุ้นที่จ่ายปันผลสูงซึ่งเดือน เม.ย.-พ.ค. นี้ จะขึ้นXD โดยให้ Div. Yield เกิน 3% : KKP, AIT, SC, AP, LH
แม้ภาพตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวนจากกังวลปัญหาการเมืองของสหรัฐฯ และรอดูผลประชุมนโยบายการเงินของเฟดแต่ด้วยพื้นฐานศก.ไทยยังมีความแข็งแกร่งและส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน จึงทำให้เราคงแนะนำกลยุทธ์"Selective Buy"หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งได้อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวสูงและดีมานด์น้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น : PTT, PTTEP, PTTGC
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กสทช. เล็งเสนอ ครม. ออกมาตรการผ่อนผันจ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น 900MHZ และพักค่าธรรมเนียมทีวีดิจิทัล : TRUE, ADVANC, MONO, RS
3) หุ้นโรงแรมได้อานิสงส์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังแข็งแกร่ง โดยช่วง ม.ค.- ก.พ. 61 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยเติบโตถึง 14.9%YoY : MINT, ERW
4) หุ้นที่จ่ายปันผลสูงซึ่งเดือน เม.ย.-พ.ค. นี้ จะขึ้นXD โดยให้ Div. Yield เกิน 3% : KKP, AIT, SC, AP, LH
Market Talk and News
AH (BUY:[email protected]): ปี 61 คาดกำไรปกติโต 10%YoY หลังธุรกิจยานยนต์ทั่วโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวพร้อมกับบริษัทมีนโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและมาตรการลดค่าใช้จ่ายหนุนให้ศักยภาพการทำกำไรมีแนวโน้มดีขึ้น + Upside 32.6% จึงแนะนำ "ซื้อ"
HMPRO (BUY:[email protected]): ปี 61 คาดกำไรโต 12.6%YoY จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมหลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น อีกทั้งยังมีแผนขยายสาขาโฮมโปรในไทย 1-2 แห่งและ HomePro S 8 แห่ง + Upside 12% และมีปันผลจ่าย 0.18 บาท (XD 19 เม.ย.)
HARN ([email protected]):ปี 61 คาดมีกำไรสุทธิ 145 ลบ. โตต่อ 11.7%YoY จาก Backlog ปัจจุบันที่ 380.9 ลบ. และมีแนวโน้มคว้างานเพิ่มขึ้นจากโครงการลงทุนของภาครัฐนอกจากนี้มีแผนเพิ่มสินค้านวัตกรรมใหม่ๆที่ช่วยสร้าง Value Chain ให้กับลูกค้า + ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 50.6% และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ที่ 6.1% จึงแนะนำ "ซื้อ"
AH (BUY:[email protected]): ปี 61 คาดกำไรปกติโต 10%YoY หลังธุรกิจยานยนต์ทั่วโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวพร้อมกับบริษัทมีนโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและมาตรการลดค่าใช้จ่ายหนุนให้ศักยภาพการทำกำไรมีแนวโน้มดีขึ้น + Upside 32.6% จึงแนะนำ "ซื้อ"
HMPRO (BUY:[email protected]): ปี 61 คาดกำไรโต 12.6%YoY จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมหลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น อีกทั้งยังมีแผนขยายสาขาโฮมโปรในไทย 1-2 แห่งและ HomePro S 8 แห่ง + Upside 12% และมีปันผลจ่าย 0.18 บาท (XD 19 เม.ย.)
HARN ([email protected]):ปี 61 คาดมีกำไรสุทธิ 145 ลบ. โตต่อ 11.7%YoY จาก Backlog ปัจจุบันที่ 380.9 ลบ. และมีแนวโน้มคว้างานเพิ่มขึ้นจากโครงการลงทุนของภาครัฐนอกจากนี้มีแผนเพิ่มสินค้านวัตกรรมใหม่ๆที่ช่วยสร้าง Value Chain ให้กับลูกค้า + ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 50.6% และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ที่ 6.1% จึงแนะนำ "ซื้อ"
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก ILINK , SVI
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก ILINK , SVI
AECS - Fundamental and Strategic Team
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO6857
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO6857